ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยพาณิชย์เผยสินเชื่อ 4 เดือนยังโตต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าปล่อยกู้ต่อในทุกกลุ่ม แม้แข่งขันสูง ส่วนกรณีรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตรอเกณฑ์ที่ชัดเจน
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 4 เดือนแรกของปี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อขนาดใหญ่ สินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) และสินเชื่อรายย่อย แม้ว่าจะมีการแข่งขันอยู่ในระดับสูง ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
"เรื่องการแข่งขันที่สูงนั้น เราพร้อมที่จะสู้ แต่ต้องเป็นการแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่มีเรื่องดับเบิ้ล สแตนดาร์ด เป็นกฏเดียวกันทั้งหมด"
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีแนวทางให้ธนาคารพาณิชย์กระจายความเสี่ยงในการปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจต่างๆนั้น จากพอร์ตสินเชื่อในปัจจุบันของธนาคารนั้น ส่วนใหญ่ก็ได้กระจายไปในหลากหลายภาคธุรกิจอยู่แล้ว และกรณีที่ธนาคารปล่อยกู้ให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ในโครงการ 3G และบริษัทช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK)ในโครงการโรงน้ำตาลชัยะบุรีนั้น ก็ถือว่ายังไม่มีปัญหาหรือความเสี่ยงในระดับที่ต้องกังวล บริษัทดังกล่าวยังมีความมั่นคงอยู่
**รอความชัดเจนรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต**
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังมีนโยบายจะให้ผู้ถือบัตรเครดิตรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐในอัตราดอกเบี้ย 10% เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชนนั้น นางกรรณิกากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบหลักเกณฑ์ในทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ถือบัตรที่ต้องการรีไฟแนนซ์จะต้องปิดบัญชีบัตรดังกล่าวด้วยหรือไม่ เมื่อมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนออกมาแล้ว ก็คงจะต้องหารือผู้ที่ดูแลในส่วนของบัตรเครดิตอีกครั้งหนึ่ง
"เรื่องการปิดบัตรหรือไม่นั้น คงจะเป็นสิทธิ์ของผู้ถือ แต่จากข้อมูลที่สำรวจ น่าแปลกว่าคนจะจ่ายหนี้บัตรเครดิตก่อนจ่ายหนี้ค่าบ้าน คงเป็นเพราะบัตรเครดิตจะเป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในแต่ละเดือน ถ้าไม่จ่าย 3 เดือนก็ถูกปิดแล้ว แต่บ้านนี่ถ้าผัดนัดชำระหนี้ บางกรณี 5 ปีกว่าจะต้องย้ายออก"
ด้านความคืบหน้ากรณีบัตรเศรษฐี (ตั๋วแลกเงิน 36 เดือน)นั้น หลังจากที่ธนาคารได้ยกเลิกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของธปท. ซึ่งหากผู้ฝากรายใดยังคงบัญชีไว้กับธนาคารก็เพิ่มดอกเบี้ยให้อีก 1% เพื่อเป็นการตอบแทนให้ลูกค้า
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)(SCB)เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 4 เดือนแรกของปี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อขนาดใหญ่ สินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) และสินเชื่อรายย่อย แม้ว่าจะมีการแข่งขันอยู่ในระดับสูง ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
"เรื่องการแข่งขันที่สูงนั้น เราพร้อมที่จะสู้ แต่ต้องเป็นการแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่มีเรื่องดับเบิ้ล สแตนดาร์ด เป็นกฏเดียวกันทั้งหมด"
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีแนวทางให้ธนาคารพาณิชย์กระจายความเสี่ยงในการปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจต่างๆนั้น จากพอร์ตสินเชื่อในปัจจุบันของธนาคารนั้น ส่วนใหญ่ก็ได้กระจายไปในหลากหลายภาคธุรกิจอยู่แล้ว และกรณีที่ธนาคารปล่อยกู้ให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ในโครงการ 3G และบริษัทช.การช่าง จำกัด (มหาชน)(CK)ในโครงการโรงน้ำตาลชัยะบุรีนั้น ก็ถือว่ายังไม่มีปัญหาหรือความเสี่ยงในระดับที่ต้องกังวล บริษัทดังกล่าวยังมีความมั่นคงอยู่
**รอความชัดเจนรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต**
สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังมีนโยบายจะให้ผู้ถือบัตรเครดิตรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐในอัตราดอกเบี้ย 10% เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชนนั้น นางกรรณิกากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบหลักเกณฑ์ในทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ถือบัตรที่ต้องการรีไฟแนนซ์จะต้องปิดบัญชีบัตรดังกล่าวด้วยหรือไม่ เมื่อมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนออกมาแล้ว ก็คงจะต้องหารือผู้ที่ดูแลในส่วนของบัตรเครดิตอีกครั้งหนึ่ง
"เรื่องการปิดบัตรหรือไม่นั้น คงจะเป็นสิทธิ์ของผู้ถือ แต่จากข้อมูลที่สำรวจ น่าแปลกว่าคนจะจ่ายหนี้บัตรเครดิตก่อนจ่ายหนี้ค่าบ้าน คงเป็นเพราะบัตรเครดิตจะเป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนในแต่ละเดือน ถ้าไม่จ่าย 3 เดือนก็ถูกปิดแล้ว แต่บ้านนี่ถ้าผัดนัดชำระหนี้ บางกรณี 5 ปีกว่าจะต้องย้ายออก"
ด้านความคืบหน้ากรณีบัตรเศรษฐี (ตั๋วแลกเงิน 36 เดือน)นั้น หลังจากที่ธนาคารได้ยกเลิกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของธปท. ซึ่งหากผู้ฝากรายใดยังคงบัญชีไว้กับธนาคารก็เพิ่มดอกเบี้ยให้อีก 1% เพื่อเป็นการตอบแทนให้ลูกค้า