ASTVผู้จัดการรายวัน-กองปราบหอบสำนวน 4 หมื่นแผ่น ส่งอัยการสั่งฟ้อง 114 แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ ชุมนุมหน้าสนามบิน "จำลอง-สมศักดิ์-ศรัณยู" นำทีมรายงานตัว ทนายเตรียมขอความเป็นธรรม เหตุรัฐบาลเลือกปฎิบัติ ไม่ดำเนินคดีพวกตัวเอง อัยการตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวน นัดสั่งคดี 9 มิ.ย.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (10 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม บรรดาแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงชัย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ได้ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรายงานตัว หลังจากที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีชุมนุมหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ท่ามกลางกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งที่เดินทางไปคอยให้กำลังใจ โดยต่างโห่ร้อง ร้องเพลงสลับกับการตะโกนคำว่า “โหวตโน” เป็นระยะ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้จัดห้องประชุมกองปราบปรามไว้เป็นสถานที่รายงานตัว โดยกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้า และใช้กำลังเจ้าหน้าที่คอมมานโดจำนวนหนึ่งคอยดูแลความปลอดภัย ด้วยการกั้นแผงเหล็กทางเดินเข้าห้องประชุมเพื่อกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีชุมนุมหน้าสนามบินและก่อการร้ายตามมาตรา 113 และ 116 โดยพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องลดจำนวนลง 10 คน จึงนัดผู้ต้องหาทั้ง 114 คนมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำส่งอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องในคดีนี้หรือไม่ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อคดีไปถึงชั้นอัยการแล้ว จะทำเรื่องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้ เป็นกรณีเลือกปฏิบัติ เพราะมีบางคนที่ไม่ถูกสั่งฟ้อง เสมือนหนึ่งรัฐบาลกันบางคนออกไป โดยในครั้งนี้ได้พยายามนัดมาให้ครบทั้งหมด แต่หากมาไม่ครบจะพยายามติดต่อให้มาพบอีกครั้ง ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ นั้น ไม่ได้เดินทางมา ทราบว่าติดภารกิจ แต่ส่วนที่เหลือจะนัดมาภายหลังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาให้มารายงานตัว 83 คน จากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 114 คน เนื่องจากมีบางส่วนได้เดินทางมารายงานตัวไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีแกนนำคนสำคัญมารายงานตัวแล้ว 27 คน ขอเลื่อน 4 คน
**อัยการนัดสั่งคดี 9 มิ.ย.**
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำและแนวร่วม ส่งมอบให้นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เพื่อพิจารณาสั่งคดี
อัยการพิเศษคดีอาญา 9 กล่าวว่า นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานโดยมอบหมายให้นายเกียรติ หรูรุ่งโรจน์ รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พิจารณาภาพรวมคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด โดยจะพิจารณาพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม พากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ปิดล้อมอาคารรัฐสภา เข้าไปในสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) จนถึงชุมนุมปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิว่ามีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างไร โดยอาจมีการพิจารณารวมคดีทั้งหมดเป็นสำนวนเดียวก่อนยื่นฟ้องต่อศาล
อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ระบุว่า คดีนี้อัยการนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสั่งคดีได้ทันตามนัดหรือไม่ เนื่องจากสำนวนคดีมีเอกสารหลักฐานมากกว่า 4 หมื่นแผ่น อีกทั้งฝ่ายผู้ต้องหายังได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้พิจารณาในหลายประเด็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกลุ่มแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ เข้ามารายงานตัวแล้วกว่า 80 คน นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข,นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง ส่วนผู้ที่แสดงเจตจำนงขอเลื่อนนัด มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ติดภารกิจที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ติดภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ประเทศ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ และน.ส.อัญชลี ไพรีรัก ที่ติดภารกิจที่ต่างจังหวัด
สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 114 คนในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก, บุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยสั่งฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ 15 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายนรัณยู หรือศรัญญู วงษ์กระจ่าง นายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพชร นางมาลีรัตน์ แก้วก่า เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ นายชนะ ผาสุกสกุล นายสุรวิชช์ วีรวรรณ และนายรัชต์ชยุตม์ หรือ อมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ ในข้อหาก่อการร้ายด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (10 พ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม บรรดาแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงชัย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ได้ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อรายงานตัว หลังจากที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีชุมนุมหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ท่ามกลางกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งที่เดินทางไปคอยให้กำลังใจ โดยต่างโห่ร้อง ร้องเพลงสลับกับการตะโกนคำว่า “โหวตโน” เป็นระยะ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้จัดห้องประชุมกองปราบปรามไว้เป็นสถานที่รายงานตัว โดยกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้า และใช้กำลังเจ้าหน้าที่คอมมานโดจำนวนหนึ่งคอยดูแลความปลอดภัย ด้วยการกั้นแผงเหล็กทางเดินเข้าห้องประชุมเพื่อกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีชุมนุมหน้าสนามบินและก่อการร้ายตามมาตรา 113 และ 116 โดยพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องลดจำนวนลง 10 คน จึงนัดผู้ต้องหาทั้ง 114 คนมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำส่งอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องในคดีนี้หรือไม่ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อคดีไปถึงชั้นอัยการแล้ว จะทำเรื่องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้ เป็นกรณีเลือกปฏิบัติ เพราะมีบางคนที่ไม่ถูกสั่งฟ้อง เสมือนหนึ่งรัฐบาลกันบางคนออกไป โดยในครั้งนี้ได้พยายามนัดมาให้ครบทั้งหมด แต่หากมาไม่ครบจะพยายามติดต่อให้มาพบอีกครั้ง ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ นั้น ไม่ได้เดินทางมา ทราบว่าติดภารกิจ แต่ส่วนที่เหลือจะนัดมาภายหลังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ถูกกล่าวหาให้มารายงานตัว 83 คน จากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 114 คน เนื่องจากมีบางส่วนได้เดินทางมารายงานตัวไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีแกนนำคนสำคัญมารายงานตัวแล้ว 27 คน ขอเลื่อน 4 คน
**อัยการนัดสั่งคดี 9 มิ.ย.**
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำและแนวร่วม ส่งมอบให้นายวิเชียร ถนอมพิชัย อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เพื่อพิจารณาสั่งคดี
อัยการพิเศษคดีอาญา 9 กล่าวว่า นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานโดยมอบหมายให้นายเกียรติ หรูรุ่งโรจน์ รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พิจารณาภาพรวมคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด โดยจะพิจารณาพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม พากลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ปิดล้อมอาคารรัฐสภา เข้าไปในสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) จนถึงชุมนุมปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิว่ามีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันอย่างไร โดยอาจมีการพิจารณารวมคดีทั้งหมดเป็นสำนวนเดียวก่อนยื่นฟ้องต่อศาล
อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ระบุว่า คดีนี้อัยการนัดผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสั่งคดีได้ทันตามนัดหรือไม่ เนื่องจากสำนวนคดีมีเอกสารหลักฐานมากกว่า 4 หมื่นแผ่น อีกทั้งฝ่ายผู้ต้องหายังได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้พิจารณาในหลายประเด็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกลุ่มแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ เข้ามารายงานตัวแล้วกว่า 80 คน นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข,นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง ส่วนผู้ที่แสดงเจตจำนงขอเลื่อนนัด มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ติดภารกิจที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ติดภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ประเทศ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ และน.ส.อัญชลี ไพรีรัก ที่ติดภารกิจที่ต่างจังหวัด
สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 114 คนในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก, บุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยสั่งฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ 15 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายนรัณยู หรือศรัญญู วงษ์กระจ่าง นายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพชร นางมาลีรัตน์ แก้วก่า เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ นายชนะ ผาสุกสกุล นายสุรวิชช์ วีรวรรณ และนายรัชต์ชยุตม์ หรือ อมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์ ในข้อหาก่อการร้ายด้วย