วานนี้(9 พ.ค.)นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง(พีเน็ต) ได้เผยแพร่รูปแบบความเป็นไปได้ (scenario) 4 ประการหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า แบบที่ 1. มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด คือ พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่เกินครึ่ง พรรคประชาธิปัตย์ รวมกับ พรรคภูมิใจไทย มีคะแนนเสียงเกินครึ่ง รัฐบาลจะถูกจัดตั้งโดย พรรคประชาธิปัตย์รวมกับภูมิใจไทย และอาจมีพรรคอื่น เข้าร่วมเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ การเคลื่อนไหวของ เสื้อแดงจะไม่ยุติ ความวุ่นวายในบ้านเมืองยังคงมีต่อไป แต่จะแรงขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับพลังของแต่ละฝ่าย
แบบที่ 2 โอกาสเป็นไปได้รองลงมาเป็นอันดับสองพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่เกินครึ่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ รวมกับภูมิใจไทย ก็ยังไม่เกินครึ่งเช่นกัน ในกรณีนี้ คาดการณ์ว่า พรรคเพื่อไทย จะสามารถรวบรวมเสียงพรรคการเมืองขนาดกลางและเล็กอื่นๆ จัดตั้งรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงจะยุติ ส่วนการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองจะยังไม่เกิดขึ้นทันที แต่จะออกมาเตือนไม่ให้รัฐบาล ทำในสิ่งที่เป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวาย เช่นการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในกรณีนี้รัฐบาลใหม่ ยังไม่มีเสถียรภาพมากนัก
แบบที่ 3 มีโอกาสเป็นไปได้รองลงมาเป็นอันดับสาม พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเกินครึ่ง ในกรณีนี้ พรรคเพื่อไทย อาจรวมกับพรรคขนาดกลางและเล็กอื่นๆ จัดตั้งรัฐบาล โดย ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เป็นฝ่ายค้าน สถานการณ์ทางการเมือง จะคล้ายกับ แบบที่ 2 คือ การเคลื่อนไหวเสื้อแดงยุติ เสื้อเหลืองออกมาเตือนรัฐบาลไม่ให้นิรโทษกรรม แต่รัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพมากกว่าแนวทางที่สอง
และแบบที่ 4 มีโอกาสเป็นได้น้อยที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนเสียงมากที่สุด โดยอาจจะเกินครึ่งหรือไม่เกินครึ่ง ประชาธิปัตย์จะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ภูมิใจไทย และ พรรคขนาดกลางต่างๆจะเสนอตัวเองเข้ามาร่วมรัฐบาล ประชาธิปัตย์จะมีอำนาจในการต่อรอง การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงและเสื้อเหลืองยังไม่ยุติ แต่จะมีความชอบธรรมน้อยลง รัฐบาลใหม่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ
แบบที่ 2 โอกาสเป็นไปได้รองลงมาเป็นอันดับสองพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่เกินครึ่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ รวมกับภูมิใจไทย ก็ยังไม่เกินครึ่งเช่นกัน ในกรณีนี้ คาดการณ์ว่า พรรคเพื่อไทย จะสามารถรวบรวมเสียงพรรคการเมืองขนาดกลางและเล็กอื่นๆ จัดตั้งรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงจะยุติ ส่วนการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองจะยังไม่เกิดขึ้นทันที แต่จะออกมาเตือนไม่ให้รัฐบาล ทำในสิ่งที่เป็นชนวนให้เกิดความวุ่นวาย เช่นการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในกรณีนี้รัฐบาลใหม่ ยังไม่มีเสถียรภาพมากนัก
แบบที่ 3 มีโอกาสเป็นไปได้รองลงมาเป็นอันดับสาม พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเกินครึ่ง ในกรณีนี้ พรรคเพื่อไทย อาจรวมกับพรรคขนาดกลางและเล็กอื่นๆ จัดตั้งรัฐบาล โดย ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เป็นฝ่ายค้าน สถานการณ์ทางการเมือง จะคล้ายกับ แบบที่ 2 คือ การเคลื่อนไหวเสื้อแดงยุติ เสื้อเหลืองออกมาเตือนรัฐบาลไม่ให้นิรโทษกรรม แต่รัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพมากกว่าแนวทางที่สอง
และแบบที่ 4 มีโอกาสเป็นได้น้อยที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนเสียงมากที่สุด โดยอาจจะเกินครึ่งหรือไม่เกินครึ่ง ประชาธิปัตย์จะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ภูมิใจไทย และ พรรคขนาดกลางต่างๆจะเสนอตัวเองเข้ามาร่วมรัฐบาล ประชาธิปัตย์จะมีอำนาจในการต่อรอง การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงและเสื้อเหลืองยังไม่ยุติ แต่จะมีความชอบธรรมน้อยลง รัฐบาลใหม่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ