มหาสารคาม - ม.ราชภัฏมหาสารคาม จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง “เลือกตั้ง 54 ทิศทางการเมืองไทย” ชี้หลังเลือกตั้งพรรคเล็กมีโอกาสต่อรองร่วมจัดตั้งรัฐบาลสูง ขณะที่กระแสโหวตโนเป็นเรื่องของคนบางกลุ่มที่ตื่นตัวทางการเมืองสูงเกินปกติ และมองการเมืองไทยเป็นเรื่องของผลประโยชน์
ที่ห้องประชุมวิญญูคุวานันท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ และผู้ประสานงาน องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือพีเน็ต พร้อมด้วยนายบุญเลิศ คชายุทธเดช หรือช้างใหญ่ ที่ปรึกษาสำนักพิมพ์มติชน นายเหล่าไท นิลนวล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุบเลา อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร และอดิศักดิ์ ศรีสม ผู้ดำเนินรายการ ที่ได้ร่วมเสวนาพร้อมนำเสนอมุมมองทิศทางการเมืองไทยโดยรวมว่า การเมืองไทยเหมือนกับการลองผิดลองถูก การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีพรรคเล็กพรรคน้อยเกิดขึ้นมาก
ส่วนการปลุกกระแสโหวตโนเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ตื่นตัวทางการเมืองเกินกว่าปกติ และมองการเมืองเป็นเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มการเมือง
อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตเลือกตั้งเล็กลง การเลือก ส.ส.ประชาชนจะมองตัวบุคคลในพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับมากกว่ากระแสพรรคและนโยบายที่ว่ากำลังมาแรงในขณะนี้ จึงเป็นตัวแปรสำคัญ ที่การจัดตั้งรัฐบาลอาจจะต้องมีหลายพรรค และเป็นโอกาสของพรรคขนาดกลางที่ได้ ส.ส.รองลงมา จะมีโอกาสต่อรองทางการเมืองสูง
นอกจากนี้ยังพบว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคมีการต่อท่อน้ำเลี้ยงเข้าถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพุ่งเป้าไปที่ จำนวนคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือแบบปาร์ตี้ลิสต์
อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองใหญ่ได้รับจำนวน ส.ส.เกินครึ่งพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล นายกฯ ก็คงไม่หลุดโผจากการคาดการณ์กันไว้ แต่หากรวมกันหลายพรรค ก็มีโอกาสหลุดโผและได้นายกจากพรรคอื่นๆ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มาก เพื่อชี้อนาคตของประเทศไทยด้วยประชาชนเอง
ที่ห้องประชุมวิญญูคุวานันท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ และผู้ประสานงาน องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือพีเน็ต พร้อมด้วยนายบุญเลิศ คชายุทธเดช หรือช้างใหญ่ ที่ปรึกษาสำนักพิมพ์มติชน นายเหล่าไท นิลนวล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุบเลา อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร และอดิศักดิ์ ศรีสม ผู้ดำเนินรายการ ที่ได้ร่วมเสวนาพร้อมนำเสนอมุมมองทิศทางการเมืองไทยโดยรวมว่า การเมืองไทยเหมือนกับการลองผิดลองถูก การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีพรรคเล็กพรรคน้อยเกิดขึ้นมาก
ส่วนการปลุกกระแสโหวตโนเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ตื่นตัวทางการเมืองเกินกว่าปกติ และมองการเมืองเป็นเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มการเมือง
อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตเลือกตั้งเล็กลง การเลือก ส.ส.ประชาชนจะมองตัวบุคคลในพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับมากกว่ากระแสพรรคและนโยบายที่ว่ากำลังมาแรงในขณะนี้ จึงเป็นตัวแปรสำคัญ ที่การจัดตั้งรัฐบาลอาจจะต้องมีหลายพรรค และเป็นโอกาสของพรรคขนาดกลางที่ได้ ส.ส.รองลงมา จะมีโอกาสต่อรองทางการเมืองสูง
นอกจากนี้ยังพบว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคมีการต่อท่อน้ำเลี้ยงเข้าถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพุ่งเป้าไปที่ จำนวนคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือแบบปาร์ตี้ลิสต์
อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองใหญ่ได้รับจำนวน ส.ส.เกินครึ่งพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล นายกฯ ก็คงไม่หลุดโผจากการคาดการณ์กันไว้ แต่หากรวมกันหลายพรรค ก็มีโอกาสหลุดโผและได้นายกจากพรรคอื่นๆ จึงขอให้ประชาชนช่วยกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มาก เพื่อชี้อนาคตของประเทศไทยด้วยประชาชนเอง