นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรและโครงการลดต้นทุนปุ๋ยซึ่งถือเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการได้ทันทีซึ่งเป็นแพ็กเกจที่น่าจะช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยหลังจากนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์โครงการให้เกษตรกรมีความเข้าใจทั่วถึง โดยเฉพาะการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรนั้นรัฐบาลจะรับภาระให้ส่วนทีเกิน 60 บาท จากค่าเบี้ยรวม 130 บาท และการลดดอกเบี้ยจากการขอสินเชื่อรวมถึงการได้รับเงินชดเชย 2 พันบาทต่อไร่หากเกิดความเสียหาย
“การประกันภัยข้าวนาปีน่าจะเริ่มได้ทันปีนี้ โดยธ.ก.ส.จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้อย่างน้อย 1% ต่อรอบสินเชื่อประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่เข้าโครงการจะได้รับประโยชน์ทุกราย เพื่อนำส่วนลดดอกเบี้ยไปจ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ ซึ่งไม่น่าจะกระทบกับผลการดำเนินงานของธ.ก.ส.เนื่องจากโครงการทำประกันที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยทำให้ความเสี่ยงสินเชื่อลดลงไปด้วย” นายกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ส่วนของสินเชื่อปุ๋ยซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อปีนั้น ธ.ก.ส.พร้อมจะสนับสนุนโดยการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือเทียบเท่าลูกค้าชั้นดี ประมาณ 7% จากปกติจะคิดดอกเบี้ย ระหว่าง 7 - 9.5% จากเดิมที่สินเชื่อรวมของเกษตรกรแต่ละรายจะมีทั้งการจัดซื้อเมล็ดพันธ์และปุ๋ยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม โครงการลดต้นทุนปุ๋ยโดยการจ่ายอุดหนุนของรัฐบาลนั้นนอกจากปุ๋ยนาข้าวแล้วยังรวมปุ๋ยไร่มันสำปะหลังและข้าวโพดด้วย ซึ่งกำหนดให้เกษตรกรซื้อได้ตามร้านค้าเอกชนที่ขึ้นทะเบียนกับธ.ก.ส.เท่านั้น เพราะรัฐต้องจ่ายอุดหนุนตันละ 1.5 พันบาทหรือกิโลละ 1.5 บาท รวมแล้วต้องจ่ายเงินอุดหนุน 4 พันล้านบาท.
“การประกันภัยข้าวนาปีน่าจะเริ่มได้ทันปีนี้ โดยธ.ก.ส.จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้อย่างน้อย 1% ต่อรอบสินเชื่อประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่เข้าโครงการจะได้รับประโยชน์ทุกราย เพื่อนำส่วนลดดอกเบี้ยไปจ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ ซึ่งไม่น่าจะกระทบกับผลการดำเนินงานของธ.ก.ส.เนื่องจากโครงการทำประกันที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยทำให้ความเสี่ยงสินเชื่อลดลงไปด้วย” นายกรณ์กล่าว
นอกจากนี้ส่วนของสินเชื่อปุ๋ยซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อปีนั้น ธ.ก.ส.พร้อมจะสนับสนุนโดยการคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือเทียบเท่าลูกค้าชั้นดี ประมาณ 7% จากปกติจะคิดดอกเบี้ย ระหว่าง 7 - 9.5% จากเดิมที่สินเชื่อรวมของเกษตรกรแต่ละรายจะมีทั้งการจัดซื้อเมล็ดพันธ์และปุ๋ยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม โครงการลดต้นทุนปุ๋ยโดยการจ่ายอุดหนุนของรัฐบาลนั้นนอกจากปุ๋ยนาข้าวแล้วยังรวมปุ๋ยไร่มันสำปะหลังและข้าวโพดด้วย ซึ่งกำหนดให้เกษตรกรซื้อได้ตามร้านค้าเอกชนที่ขึ้นทะเบียนกับธ.ก.ส.เท่านั้น เพราะรัฐต้องจ่ายอุดหนุนตันละ 1.5 พันบาทหรือกิโลละ 1.5 บาท รวมแล้วต้องจ่ายเงินอุดหนุน 4 พันล้านบาท.
