ปัญหาที่เกิดกับประเทศไทย ส่วนที่เห็นว่าเป็นปัญหา เปรียบไปแล้วเหมือนส่วนของภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ ซึ่งมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่มองไม่เห็นเท่ากับส่วนที่อยู่ใต้น้ำมีถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่กระทบต่อทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นำความเสียหายมาสู่ประชาชนคนไทยโดยต่อเนื่อง
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมาย และเป็นทนายในคดีปราสาทพระวิหาร ได้เขียนถึงเรื่องที่ไทยแพ้คดีต่อกัมพูชา ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พล.ท.บุศรินทร์ ภักดีกุล เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2532 ว่าปี 2502 เกิดคดีปราสาทหินบนเขาพระวิหาร ซึ่งประเทศไทยตกเป็นจำเลย ถูกเขมรฟ้องที่ศาลโลก กรุงเฮก ประเทศฮอลันดา รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเป็นกรรมการเตรียมคดี และกำกับคดีระหว่างเป็นความ มีพระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พล.ท.บุศรินทร์ ภักดีกุล เป็นเจ้ากรมแผนที่ทหารบก ฯลฯ และรัฐบาลตั้งฝรั่งผู้เชี่ยวชาญคดีศาลโลก 3 ท่าน โดยมี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชเป็นหัวหน้า
เขมรยื่นฟ้องอ้างว่า เขตแดนระหว่างไทยกับเขมรที่เขาพระวิหาร มีสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ให้ถือตามสันปันน้ำ ปราสาทหินบนเขาพระวิหารอยู่ในเขตแดนเขมร ดังมีแผนที่ของฝรั่งเศสแสดงไว้ ไทยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่า ถือตามเส้นสันปันน้ำปราสาทอยู่ในเขตแดนไทย แผนที่ฝรั่งเศสวาดสันปันน้ำไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
ประเด็นจึงมีให้ศาลพิจารณาว่า เส้นสันปันน้ำอยู่ตรงไหน และแผนที่ของฝรั่งเศสที่ลากเส้นสันปันน้ำนั้นถูกต้องหรือไม่ แผนที่ฝรั่งเศสไม่ว่าตามเส้นสันปันน้ำนี้ แต่ว่าล้อมปราสาทไว้ทางทิศใต้จึงไม่ถูกต้องตามความจริงแห่งภูมิประเทศ ไทยเชิญศาลโลกไปดู ซึ่งตามวิธีพิจารณา ศาลพึงไปดู แต่ไม่ไป แต่โดยเสียงข้างมาก 9 ต่อ 3 ตัดสินนอกประเด็นว่า ฝรั่งเศสส่งแผนที่ให้ไทยแล้ว ไทยไม่คัดค้าน ตัดสินให้เขมรชนะคดี เป็นยุติคดีที่ศาลโลกตัดสิน ไม่มีอุทธรณ์ฎีกา ไทยเห็นว่าความจริงมีอยู่แล้ว จึงไม่ได้คัดค้าน
นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกระหว่าง 23 กันยายน พ.ศ. 2535 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ได้นำระบบ Maintenance Margin และ forced sell มาใช้ในตลาดหุ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2536 ทำให้มีการลากตลาดหุ้นขึ้นไปสูงสุดในต้นปี 2537 จากนั้นก็มีการทุบขายตลาดหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นตกหนัก ทำให้เกิดการบังคับขายหุ้นของนักลงทุนไทยอย่างหนัก ด้วยกลไกดังกล่าว ทำให้สภาพคล่องระบบเสียหาย ต้องลอยค่าเงินบาท ทำให้เกิดการล้มละลายของภาคการผลิตจริงและภาคการเงิน และต้องเข้าไอเอ็มเอฟเป็นครั้งที่ 2 (ในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) ทุกวันนี้ธนาคารต่างๆ ได้ตกเป็นของต่างชาติหมดแล้ว มีเพียงธนาคารขนาดเล็กที่ตั้งใหม่ที่เป็นของคนไทย รวมทั้งธนาคารไปรษณีย์ไทย ธนาคารกรุงเทพเหลือหุ้นที่เป็นของคนไทย 10 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารกสิกรไทยเหลือหุ้นที่เป็นของคนไทย 1 เปอร์เซ็นต์
นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 -17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 “MOU 2543” ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบก ลงนามลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในรัฐบาลชวน 2 และตัวแทนรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543 มองว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะเป็นตัวผูกมัดประเทศไทยให้ต้องยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 : 200,000 ของฝ่ายกัมพูชา จะทำให้ไทยสูญเสียดินแดนไปให้ฝ่ายกัมพูชามากกว่า 1 ล้านไร่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ถึงปัจจุบัน ระยะเวลา 2 ปีกว่าของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความเดือดร้อนวุ่นวายตลอดเวลา เหตุการณ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถจบได้และบานปลาย ยกตัวอย่างเช่นกรณีนายวีระและนางสาวราตรีติดคุกเขมร กรณีที่รัฐบาลจับแกนนำผู้ก่อการร้ายคุมขัง แล้วรัฐบาลกลับไปให้การเป็นพยานปล่อยแกนนำผู้ก่อการร้ายออกจากคุกเสียเอง
ประเทศไทยคงจะหวังจากนายกฯ อภิสิทธิ์ได้ยาก เรื่อง MOU 2543 แสดงให้เห็นว่านายกฯ อภิสิทธิ์มีความไม่แน่นอน และดูเหมือนจะเอียงข้างให้ฝ่ายกัมพูชา เรื่อง MOU 2543 เปรียบเสมือนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือน้ำ รู้สึกเหมือนจะทำให้ประเทศไทยเสียท่ากัมพูชา แล้วเรื่องอื่นที่เท่ากับภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้ระดับน้ำ ก่อให้เกิดความเสียหายเท่าใด ที่ผู้คนทั่วไปยากที่จะทราบได้
indexthai@yahoo.com
http://twitter.com/indexthai
ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมาย และเป็นทนายในคดีปราสาทพระวิหาร ได้เขียนถึงเรื่องที่ไทยแพ้คดีต่อกัมพูชา ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พล.ท.บุศรินทร์ ภักดีกุล เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2532 ว่าปี 2502 เกิดคดีปราสาทหินบนเขาพระวิหาร ซึ่งประเทศไทยตกเป็นจำเลย ถูกเขมรฟ้องที่ศาลโลก กรุงเฮก ประเทศฮอลันดา รัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเป็นกรรมการเตรียมคดี และกำกับคดีระหว่างเป็นความ มีพระยาอรรถการีย์นิพนธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พล.ท.บุศรินทร์ ภักดีกุล เป็นเจ้ากรมแผนที่ทหารบก ฯลฯ และรัฐบาลตั้งฝรั่งผู้เชี่ยวชาญคดีศาลโลก 3 ท่าน โดยมี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชเป็นหัวหน้า
เขมรยื่นฟ้องอ้างว่า เขตแดนระหว่างไทยกับเขมรที่เขาพระวิหาร มีสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ให้ถือตามสันปันน้ำ ปราสาทหินบนเขาพระวิหารอยู่ในเขตแดนเขมร ดังมีแผนที่ของฝรั่งเศสแสดงไว้ ไทยให้การปฏิเสธต่อสู้ว่า ถือตามเส้นสันปันน้ำปราสาทอยู่ในเขตแดนไทย แผนที่ฝรั่งเศสวาดสันปันน้ำไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
ประเด็นจึงมีให้ศาลพิจารณาว่า เส้นสันปันน้ำอยู่ตรงไหน และแผนที่ของฝรั่งเศสที่ลากเส้นสันปันน้ำนั้นถูกต้องหรือไม่ แผนที่ฝรั่งเศสไม่ว่าตามเส้นสันปันน้ำนี้ แต่ว่าล้อมปราสาทไว้ทางทิศใต้จึงไม่ถูกต้องตามความจริงแห่งภูมิประเทศ ไทยเชิญศาลโลกไปดู ซึ่งตามวิธีพิจารณา ศาลพึงไปดู แต่ไม่ไป แต่โดยเสียงข้างมาก 9 ต่อ 3 ตัดสินนอกประเด็นว่า ฝรั่งเศสส่งแผนที่ให้ไทยแล้ว ไทยไม่คัดค้าน ตัดสินให้เขมรชนะคดี เป็นยุติคดีที่ศาลโลกตัดสิน ไม่มีอุทธรณ์ฎีกา ไทยเห็นว่าความจริงมีอยู่แล้ว จึงไม่ได้คัดค้าน
นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกระหว่าง 23 กันยายน พ.ศ. 2535 - 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ได้นำระบบ Maintenance Margin และ forced sell มาใช้ในตลาดหุ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2536 ทำให้มีการลากตลาดหุ้นขึ้นไปสูงสุดในต้นปี 2537 จากนั้นก็มีการทุบขายตลาดหุ้น ทำให้ตลาดหุ้นตกหนัก ทำให้เกิดการบังคับขายหุ้นของนักลงทุนไทยอย่างหนัก ด้วยกลไกดังกล่าว ทำให้สภาพคล่องระบบเสียหาย ต้องลอยค่าเงินบาท ทำให้เกิดการล้มละลายของภาคการผลิตจริงและภาคการเงิน และต้องเข้าไอเอ็มเอฟเป็นครั้งที่ 2 (ในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) ทุกวันนี้ธนาคารต่างๆ ได้ตกเป็นของต่างชาติหมดแล้ว มีเพียงธนาคารขนาดเล็กที่ตั้งใหม่ที่เป็นของคนไทย รวมทั้งธนาคารไปรษณีย์ไทย ธนาคารกรุงเทพเหลือหุ้นที่เป็นของคนไทย 10 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารกสิกรไทยเหลือหุ้นที่เป็นของคนไทย 1 เปอร์เซ็นต์
นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 -17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 “MOU 2543” ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบก ลงนามลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในรัฐบาลชวน 2 และตัวแทนรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2543 มองว่า บันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะเป็นตัวผูกมัดประเทศไทยให้ต้องยอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 : 200,000 ของฝ่ายกัมพูชา จะทำให้ไทยสูญเสียดินแดนไปให้ฝ่ายกัมพูชามากกว่า 1 ล้านไร่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ถึงปัจจุบัน ระยะเวลา 2 ปีกว่าของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความเดือดร้อนวุ่นวายตลอดเวลา เหตุการณ์ส่วนใหญ่ไม่สามารถจบได้และบานปลาย ยกตัวอย่างเช่นกรณีนายวีระและนางสาวราตรีติดคุกเขมร กรณีที่รัฐบาลจับแกนนำผู้ก่อการร้ายคุมขัง แล้วรัฐบาลกลับไปให้การเป็นพยานปล่อยแกนนำผู้ก่อการร้ายออกจากคุกเสียเอง
ประเทศไทยคงจะหวังจากนายกฯ อภิสิทธิ์ได้ยาก เรื่อง MOU 2543 แสดงให้เห็นว่านายกฯ อภิสิทธิ์มีความไม่แน่นอน และดูเหมือนจะเอียงข้างให้ฝ่ายกัมพูชา เรื่อง MOU 2543 เปรียบเสมือนภูเขาน้ำแข็งที่อยู่เหนือน้ำ รู้สึกเหมือนจะทำให้ประเทศไทยเสียท่ากัมพูชา แล้วเรื่องอื่นที่เท่ากับภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้ระดับน้ำ ก่อให้เกิดความเสียหายเท่าใด ที่ผู้คนทั่วไปยากที่จะทราบได้
indexthai@yahoo.com
http://twitter.com/indexthai
