“ภูมิธรรม” ดักคอ “มาร์ค” แพ้เลือกตั้งแต่หวังกลับเป็น รบ.อัดไร้สปิริต

อดีต รอง หน.ไทยรักไทย ทวีตตามแม้ว หลัง มาร์ค จ้อช่อง 11 เรื่องมารยาททางการเมือง หวังแย่งตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคอันดับหนึ่ง ยกนายหัวชวนเคยประกาศให้ “บิ๊กจิ๋ว” จัดตั้งรัฐบาลแล้วกลับบ้านเมืองตรัง หลังพรรคความหวังใหม่ ได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง ยกวาทกรรม “พ่ายแพ้อย่างสง่างาม” เตือนถ้ารู้ตัวว่าคิดผิดก็คิดใหม่ อย่าให้ความทะยานอยากทำลายอนาคตทางการเมือง

วันนี้ (3 พ.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีต รมช.คมนาคม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ได้โพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ @phumtham วิพากษ์วิจารณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ฟัง นายอภิสิทธิ์ พูด “ใครควรเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล” ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย แล้วสรุปได้คำเดียว “มารยาททางการเมือง” สำคัญน้อยกว่า “สันดานทางการเมือง” ระวังสันดานทางการเมืองที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ขัดต่อธรรมเนียมการปกครองและเจตนารมณ์ทางการเมืองของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องน่าคิด

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนอยากแนะนำ นายอภิสิทธิ์ ให้ดูนิสัยที่น่าเคารพอย่าง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่าง เมื่อปี 2539 พรรคความหวังใหม่ ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้จำนวน ส.ส.เป็นอันดับหนึ่ง ชนะพรรคประชาธิปัตย์ ที่ นายชวน เป็นหัวหน้าพรรค นายชวน แสดงสปิริตเดินทางกลับบ้าน จ.ตรัง ประกาศให้พรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาลทันที การที่ นายชวน เป็นผู้แพ้ที่มีความสง่างาม แต่ได้ใจคนดูทุกฝ่าย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ตนและนักการเมืองพรรคอื่น ยังเคารพนับถือนายชวน มาจนทุกวันนี้

นายภูมิธรรม ยังกล่าวต่อว่า ตนชอบใจ รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า แนวคิดของ นายอภิสิทธิ์ ที่จะแย่งตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคอันดับ 1 แม้ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่เป็นอันตรายมากต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่แปลกที่หน้า 3 นสพ.มติชนวันนี้ (3 พ.ค.) บอกว่า แล้ว “มารยาททางการเมือง” ก็เป็นแค่วาทกรรมที่เอาไว้ให้นักการใช้พูดเพื่อให้ฝ่ายตนดูดีก็เท่านั้นเอง

“ไม่ว่าคนจะเรียนสูงแค่ไหน จบเมืองนอก หรือเป็นทายาทไฮโซ ก็เข้าใจมารยาททางการเมืองน้อยกว่าความต้องการทางการเมืองของตน... ว้าเหว่ครับ ถ้ารู้ตัวว่าคิดผิด ก็คิดใหม่ได้นะครับ นายกอภิสิทธิ์ ยังพอมีเวลาและอายุยังน้อย อย่าให้ความทะยานอยาก มาทำลายอนาคตทางการเมืองเลยครับเสียดาย” นายภูมิธรรม กล่าว

สำหรับ นายภูมิธรรม เป็นอดีตคนเดือนตุลาที่มีความสนิทสนมกับนายเกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มีชื่อจัดตั้งว่า “สหายใหญ่” เมื่อครั้งเข้าป่าจับปืนหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 กระทั่งออกมาจากป่าทำงานเป็นเอ็นจีโอ อาจารย์มหาวิทยาลัย ภายหลังเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ประจำสำนักประธานบริหารกลุ่มบริษัทชินวัตรเมื่อปี 2540 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยรู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ

เมื่อมีการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2544 นายภูมิธรรม รับตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และถือเป็นมันสมองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมกับคนเดือนตุลาหลายคน อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง, น.พ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี และ นายสุธรรม แสงประทุม กระทั่งลาออกเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2549 ก่อนที่พรรคไทยรักไทยจะถูกตัดสินยุบพรรคเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2550 กรณีจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้มีคู่แข่ง หลีกเลี่ยงไม่ต้องใช้เกณฑ์คะแนนเสียง 20 เปอร์เซ็นต์ และสนับสนุนให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลสมาชิกพรรค และ นายภูมิธรรม ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี พร้อมกรรมการบริหารพรรครวม 111 คน