เอเอฟพี – งานศึกษาจากแดนจิงโจ้ระบุหมอผู้ชายมีแนวโน้มถูกลงโทษทางด้านจรรยาแพทย์จากพฤติกรรมไม่เหมาะสมมากกว่าหมอผู้หญิงถึง 4 เท่า โดยกรณีที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือการล่วงเกินทางเพศ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นวิเคราะห์กรณีที่แพทย์ถูกพบว่ามีความผิดในการประพฤติตัวไม่เหมาะสมและถูกลงโทษทางวินัยในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ระหว่างปี 2000-2009 ทั้งหมด 485 กรณี
ผลการวิเคราะห์พบว่า โดยรวมแล้วในสองประเทศดังกล่าวในแต่ละปีจะมีแพทย์ 6 คนจากทุก 10,000 คนถูกลงโทษทางวินัยโดยคณะผู้พิพากษาพิเศษที่สามารถเพิกถอนใบอนุญาตของแพทย์เหล่านั้นได้
เมื่อลงลึกในรายละเอียดพบว่า หมอผู้หญิงถูกลงโทษทางวินัยน้อยกว่า และมีชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่ำกว่า โดยหมอผู้ชายมีแนวโน้มถูกลงโทษทางวินัยมากกว่าถึง 4 เท่า
สูตินรีแพทย์และจิตแพทย์มีอัตราการถูกลงโทษสูงสุด ตามด้วยแพทย์ที่รักษาโรคทั่วไป
รายงานที่อยู่ในเมดิคัล เจอร์นัล ออฟ ออสเตรเลียยังระบุว่า กรณีที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ การประพฤติตัวไม่เหมาะสมทางเพศ (24%) รองลงมาคือการจ่ายยาอย่างไร้จรรยาบรรณหรือผิดกฎหมาย (21%) และมี 8% เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนไข้
เคที เอลคิน ผู้นำการวิจัยจากคณะสาธารณสุขและกฎหมายของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น แสดงความประหลาดใจที่พบความแตกต่างจากเรื่องเพศ และว่ากรณีส่วนใหญ่นั้น คนไข้ไม่ได้รับอันตรายในด้านร่างกายหรือจิตใจแต่อย่างใด บ่งชี้ว่าคณะผู้พิพากษาพิเศษตีความบทบาทการปกป้องประชาชนอย่างกว้างขวางและเป็นธรรม และเตรียมพร้อมลงโทษแพทย์ที่ทำผิดทางวินัยโดยไม่ต้องรอให้คนไข้ได้รับอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นภัยต่อชุมชน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นวิเคราะห์กรณีที่แพทย์ถูกพบว่ามีความผิดในการประพฤติตัวไม่เหมาะสมและถูกลงโทษทางวินัยในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ระหว่างปี 2000-2009 ทั้งหมด 485 กรณี
ผลการวิเคราะห์พบว่า โดยรวมแล้วในสองประเทศดังกล่าวในแต่ละปีจะมีแพทย์ 6 คนจากทุก 10,000 คนถูกลงโทษทางวินัยโดยคณะผู้พิพากษาพิเศษที่สามารถเพิกถอนใบอนุญาตของแพทย์เหล่านั้นได้
เมื่อลงลึกในรายละเอียดพบว่า หมอผู้หญิงถูกลงโทษทางวินัยน้อยกว่า และมีชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่ำกว่า โดยหมอผู้ชายมีแนวโน้มถูกลงโทษทางวินัยมากกว่าถึง 4 เท่า
สูตินรีแพทย์และจิตแพทย์มีอัตราการถูกลงโทษสูงสุด ตามด้วยแพทย์ที่รักษาโรคทั่วไป
รายงานที่อยู่ในเมดิคัล เจอร์นัล ออฟ ออสเตรเลียยังระบุว่า กรณีที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ การประพฤติตัวไม่เหมาะสมทางเพศ (24%) รองลงมาคือการจ่ายยาอย่างไร้จรรยาบรรณหรือผิดกฎหมาย (21%) และมี 8% เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนไข้
เคที เอลคิน ผู้นำการวิจัยจากคณะสาธารณสุขและกฎหมายของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น แสดงความประหลาดใจที่พบความแตกต่างจากเรื่องเพศ และว่ากรณีส่วนใหญ่นั้น คนไข้ไม่ได้รับอันตรายในด้านร่างกายหรือจิตใจแต่อย่างใด บ่งชี้ว่าคณะผู้พิพากษาพิเศษตีความบทบาทการปกป้องประชาชนอย่างกว้างขวางและเป็นธรรม และเตรียมพร้อมลงโทษแพทย์ที่ทำผิดทางวินัยโดยไม่ต้องรอให้คนไข้ได้รับอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นภัยต่อชุมชน