วานนี้(4 พ.ค.)นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่งข้อหารือในการใช้ทรัพยากรและเครื่องมือของรัฐ ว่าทางกกต. ยังไม่ได้รับข้อหารือที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงการสอบถามจากนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการประชุมผู้บริหารพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า กกต.ได้ออกระเบียบตามที่สำนักงานได้เคยยกร่างไว้ ส่วนเรื่องการนำสถาบันมาหาเสียงนั้น ก็จะใช้ข้อมูลตามที่ได้หารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งใช้ถ้อยคำตามที่ได้ร่วมลงนามในพันธะสัญญา ข้อหนึ่งที่ระบุว่า มิบังควรนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ ที่ประชุมกกต.เห็นชอบร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.และการดำเนินการใดๆ ของพรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ให้นำเรื่องสถาบันมาอยู่ในหมวดข้อควรปฏิบัติในการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าการรับเชิญไปออกสื่อของนายกฯ ในช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า กกต.ก็มีระเบียบแนวทางเดิมที่เคยปฏิบัติกันมา ว่าหากสถานีโทรทัศน์ที่ใดเชิญ ก็ต้องดูข้อปฏิบัติ และเป็นไปด้วยความเท่าเทียมกันของผู้สมัครทุกคน ยึดหลักจรรยาบรรณ ทั้งนี้ การจะออกสื่อของรัฐ ตามกฎหมายเลือกตั้ง ได้ระบุให้กกต.เป็นผู้สนับสนุนแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองในการให้เวลาเพื่อออกรายการในสื่อของรัฐ รวมถึงการจัดเวทีกลางในการหาเสียง ซึ่งตัวรูปแบบจะยืดหยุ่น และกกต.สามารถร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ และกฎหมายก็ห้ามไม่ให้ผู้สมัครใช้สื่อของรัฐในการหาเสียง แต่ผู้สมัครยังสามารถหาเสียงตามสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือเว็บไซต์ แต่ต้องนำไปรวมกับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเลื่อนการยุบสภาออกไปจะกระทบต่อการเลือกตั้งที่กกต. ได้กำหนดไว้หรือไม่ เลขากกต. กล่าวว่า หากเลื่อนออกไปในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน คิดว่าคงไม่กระทบแผนงานที่กกต. ได้เตรียมการไว้ แต่หากเลื่อนการยุบสภาไปเป็นระยะเวลานาน 2-3 เดือนขึ้นไป ก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อแผนงานอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกกต. มีมติว่าไม่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมใดๆ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามมายังกกต.
เมื่อถามว่าการรับเชิญไปออกสื่อของนายกฯ ในช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า กกต.ก็มีระเบียบแนวทางเดิมที่เคยปฏิบัติกันมา ว่าหากสถานีโทรทัศน์ที่ใดเชิญ ก็ต้องดูข้อปฏิบัติ และเป็นไปด้วยความเท่าเทียมกันของผู้สมัครทุกคน ยึดหลักจรรยาบรรณ ทั้งนี้ การจะออกสื่อของรัฐ ตามกฎหมายเลือกตั้ง ได้ระบุให้กกต.เป็นผู้สนับสนุนแก่ผู้สมัครและพรรคการเมืองในการให้เวลาเพื่อออกรายการในสื่อของรัฐ รวมถึงการจัดเวทีกลางในการหาเสียง ซึ่งตัวรูปแบบจะยืดหยุ่น และกกต.สามารถร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ได้ และกฎหมายก็ห้ามไม่ให้ผู้สมัครใช้สื่อของรัฐในการหาเสียง แต่ผู้สมัครยังสามารถหาเสียงตามสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือเว็บไซต์ แต่ต้องนำไปรวมกับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการเลื่อนการยุบสภาออกไปจะกระทบต่อการเลือกตั้งที่กกต. ได้กำหนดไว้หรือไม่ เลขากกต. กล่าวว่า หากเลื่อนออกไปในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน คิดว่าคงไม่กระทบแผนงานที่กกต. ได้เตรียมการไว้ แต่หากเลื่อนการยุบสภาไปเป็นระยะเวลานาน 2-3 เดือนขึ้นไป ก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อแผนงานอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกกต. มีมติว่าไม่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมใดๆ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามมายังกกต.