xs
xsm
sm
md
lg

ไต่สวนวันนี้ ลุ้นถอนประกัน 9โจกแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-อัยการเตรียมพยาน 4-5 ปาก ขึ้นศาลไต่สวนถอนประกัน 9 แกนนำนปช.วันนี้ ชี้พยานส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ คาด“ธาริต”จะเดินทางมาเป็นพยานด้วยตัวเอง ขณะที่ทนายนปช. เตรียมยื่นคัดค้านคำร้องขอถอนประกัน ย้ำแกนนำทั้งหมดมาศาลแน่

นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เปิดเผยถึงการไต่สวนคำร้องที่ขอให้ศาลอาญาไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กับพวก แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันก่อการร้าย รวม 9 คน ในวันนี้ (4 พ.ค.) เวลา 09.00 น. ว่า อัยการได้เตรียมพยานไว้ประมาณ 4-5 ปาก ส่วนใหญ่เป็นพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งคาดว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จะเดินทางมาเป็นพยานด้วย ขณะเดียวกัน อัยการจะได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถอดเทปการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช.กล่าวว่า ในวันนี้ตนเตรียมยื่นคัดค้านคำร้องถอนประกัน 9 แกนนำนปช. ในคดีก่อการร้าย โดยยืนยันว่าการกระทำของแกนนำนปช. ไม่ได้ผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล ซึ่งหากมีการกระทำผิดกฎหมายอื่นนอกเหนือจากคำสั่งศาลก็ให้ดำเนินคดีในความผิดนั้นๆ ไป ทั้งนี้ แกนนำนปช. ทั้งหมดจะเดินทางมาศาลเพื่อร่วมเป็นพยาน นอกจากนี้ ยังจะขอให้ศาลมีหมายเรียกพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1, นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ร่วมชุมนุมมาเป็นพยานด้วย รวมพยานทั้งหมด กับ 9 แกนนำ นปช.ประมาณ 15 ปาก รวมทั้งจะยื่นวัตถุพยานเป็นซีดีการปราศรัย และคำถอดเทปคำปราศรัยให้ศาลพิจารณาประกอบสำนวนด้วย ขณะที่การคัดค้านคำร้องจะชี้ให้ศาลเห็นว่าการชุมนุมของกลุ่มนปช. ในวันที่ 10 เม.ย.นั้น ได้มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าเพื่อเป็นการรำลึกครบรอบ 1 ปี การสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อ 10 เม.ย.2553

**ทนายโบ๊ยเอาผิด"จตุพร"คนเดียว
 

นายคารมกล่าวว่า หากคำพูดของนายจตุพร แกนนำนปช. เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ก็ให้ดำเนินคดีต่อนายจตุพร ในความผิดดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับการขอถอนประกันในคดีก่อการร้าย โดยคำพูดของนายจตุพรนั้น แกนนำนปช. คนอื่นๆ ก็ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย อีกทั้งคดีก่อการร้ายก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวหาว่าแกนนำนปช.หมิ่นสถาบัน เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

**ยัน"จตุพร-นิสิต"หมิ่นเบื้องสูง

สำหรับคำร้องขอไต่สวน อัยการได้ยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื้อหาระบุว่า ภายหลังที่จำเลยทั้ง 9 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้กระทำการฝ่าฝืน โดยจัดกิจกรรมให้มีการชุมนุมของกลุ่มนปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยได้ปราศรัยต่อผู้ชุมนุมจำนวนมากหลายแห่งหลายครั้ง ระหว่างวันที่ 10-11 เม.ย.2554 จำเลยได้จัดชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในงานครบรอบ 1 ปี รำลึกถึงสมาชิกนปช.ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 โดยมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมหลายหมื่นคน

โดยจำเลยทั้ง 9 กับพวก ผลัดเปลี่ยนกับผู้ร่วมชุมนุมขึ้นเวทีปราศรัย พูดโน้มน้าว ปลุกปั่น ปลุกระดม ให้ผู้ร่วมชุมนุมเกลียดชังรัฐบาล โดยให้เชื่อว่าการเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มนปช. เมื่อวันที่ 10-19 เม.ย.22553 เป็นการปราบปรามและฆ่าประชาชนโดยรัฐบาลและคณะทหาร

ทั้งนี้ มีการพาดพิงถึงกระบวนการยุติธรรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และสถาบันเบื้องสูง โดยกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา เป็นเครื่องมือทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคนเสื้อแดง ศาลบางศาลพึ่งไม่ได้เอนเอียงแย่กว่าศาลพระภูมิ และมีพล.อ.เปรมสนับสนุนการยึดอำนาจ โดยเฉพาะนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยที่ 2 ได้พูดปราศรัยบนเวทีกับผู้ชุมนุม กล่าวพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง รวมทั้งนายนิสิต สินธุไพร จำเลยที่ 8 ได้กล่าวพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงด้วย

อย่างไรก็ตาม คำปราศรัยของจำเลยทั้ง 9 เป็นการยุยงปลุกปั่น ปลุกระดมให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล และกระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถเชื่อถือได้ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากประชาชนทั่วไป และจากกองทัพอย่างรุนแรง โจทก์จึงเห็นว่าจำเลยกับพวกได้กระทำการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยก่อให้เกิดความขัดแย้งของประชาชน ทั้งมิได้เป็นไปตามแนวทางสมานฉันท์ในชาติ โจทก์จึงขอให้ศาลได้มีคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไข เปลี่ยนแปลง เงื่อนไขการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว และพิจารณาสิ่งที่เกี่ยวกับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของจำเลยทั้ง 9 ตามที่ศาลเห็นสมควร

**เสวนาแดง จวกรัฐ-กองทัพปิดวิทยุ

ที่มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ชมรมสื่อมวลชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ได้มีการจัดเสวนาหัวข้อ "ปิดสื่อ-ปิดประชาธิปไตย" โดยมีวิทยากร อาทิ นายวิโรจน์ พูลสุข ประธานเครือข่ายคนไทยรักชาติ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เลขาธิการมูลนิธิ 111 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว. รวมถึงนักจัดรายการวิทยุชุมชนและคนเสื้อแดงเข้าร่วมกว่า 100 คน

ทั้งนี้ ในการเสวนาดังกล่าว ผู้เข้าร่วมมีความเห็นตรงกันว่า การที่รัฐบาลและกองทัพปิดสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดงและประกาศว่าจะปิดอีก 800 สถานี เป็นการแทรกแซงสื่อมวลชน เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าของสถานีที่ถูกปิดแจ้งตำรวจให้เอาผิดกับผู้ที่สั่งปิด โดยนายวิโรจน์ อ้างว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปิดสถานีวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดง คือ นายตำรวจระดับนายพล ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดนักการเมืองในรัฐบาลเป็นผู้สั่งการ

ด้านนายเรืองไกร ระบุว่า การแก้ปัญหาการปิดวิทยุชุมชน ต้องแก้ด้วยการทวงอำนาจของประชาชนกลับมาเสียก่อน โดยการเลือกตั้งต้องเลือกพรรคที่ไม่สนับสนุนเผด็จการ ต้องตัดสินใจว่า จะเลือกพรรคชั่งไข่ขายหรือพรรคที่มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค
กำลังโหลดความคิดเห็น