ASTVผู้จัดการรายวัน- บล.ภัทร เล็งออก ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ปีนี้ 50 ตัว มูลค่าตัวละ 30 ล้านบาท หลังบอร์ดไฟเขียวเพิ่มวงเงินเป็น 800 ล้านบาท ผู้บริหาร เผย ลูกค้าสนใจซื้อหุ้นกู้อนุพันธ์มากขึ้น จากผลตอบทนสูง 8-12% พร้อมเล็ง เปิดขายหุ้นกู้แก่นักลงทุนทั่วไป ครึ่งปีหลังจากปัจจุบันขายเฉพาะลูกค้าบริษัท
นายธนวัฒน์ พานิชเกษม กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) PTSEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)ในปีนี้จำนวน 50 ตัว ซึ่งมีมูลค่าตัวละ 30 ล้านบาท หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออก DW เป็น 800 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ออกไปแล้วจำนวน 12 ตัว ทั้งประเภทสิทธิในการขาย ( Put warrant ) และสิทธิในการซื้อ ( call warrant )
ทั้งนี้ แม้ DW ประเภท put นั้นนักลงทุนจะเข้ามาซื้อขายไม่มากนัก เพราะนักลงทุนยังไม่คุ้นเคยที่จะลงทุนแบบตลาดหุ้นขาลง แต่บริษัทมองว่าทิศทางตลาดหุ้นนั้นจะปรับตัวลดลง จึงจะออก DW ประเภท PUT เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง และบริษัทจะมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่นักลงทุนต่อไป
"ช่วงแรกที่บริษัทได้ออกเสนอขายDW ประเภท call นั้นในช่วงแรกนั้นนักลงทุนตอบรับไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นพบว่านักลงทุนรายใหญ่ของบริษัทมีการตอบรับที่ดีขึ้น ส่วนตัว Put นั้นบริษัทนั้นจะต้องพยายามอีกมาก เพราะนักลงทุนยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในช่วงขาลง แต่บริษัทจะยังคงออกต่อเนื่อง เพื่อให้การลงทุนนั้นสมดุล ซึ่งสามารถลงทุนได้แม้ภาวะตลาดหุ้นขาลง " นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแผนการออกหุ้นกู้อนุพันธ์นั้น บริษัทมีแผนที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป จากปัจจุบันที่บริษัทได้ออกเสนอขายแก่นักลงทุนของทาง บล.ภัทรเท่านั้น เนื่องจากทางคณะกรรมการบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออกหุ้นกู้อนุพันธ์ เพิ่มอีก 500 ล้านบาท เป็น 1,500 ล้านบาท จากเดิมที่มีวงเงินในการออก 1,000 ล้านาท
นาย ธนวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทออกเสนอขายหุ้นกู้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมียอดคงค้างได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากเดิมที่เฉลี่ย 300 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดคงค้างปีนี้จะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดการออกเสนอขายปีนี้จะสูงกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจาก ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทได้มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตัวหุ้นกู้อนุพันธ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์ของบริษัทให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8-12% ต่อปี ถือว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก
"ลูกค้าของบริษัทให้ความสนใจลงทุนในตัวหุ้นกู้อนุพันธ์มากขึ้น เพราะเริ่มมีความคุ้นเคยกับสินค้าแล้ว และลูกค้าของบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการลงทุนหุ้นกู้อนุพันธ์มากขึ้น เพราะตอบแทนสูง ซึ่งจากเดิมลูกค้าบางรายเคยซื้อ 35 ล้านบาท ได้เพิ่มเงินการลงทุนเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทออกเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ให้แก่ลูกค้าบริษัท แต่หลังจากบอร์ดบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออกอีก 500 ล้านบาท บริษัทจึงมีแผนที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปในช่วงครึ่งปีหลัง"นายธนวัฒน์ กล่าว
นายธนวัฒน์ พานิชเกษม กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) PTSEC เปิดเผยว่า บริษัทคาดออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)ในปีนี้จำนวน 50 ตัว ซึ่งมีมูลค่าตัวละ 30 ล้านบาท หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออก DW เป็น 800 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ออกไปแล้วจำนวน 12 ตัว ทั้งประเภทสิทธิในการขาย ( Put warrant ) และสิทธิในการซื้อ ( call warrant )
ทั้งนี้ แม้ DW ประเภท put นั้นนักลงทุนจะเข้ามาซื้อขายไม่มากนัก เพราะนักลงทุนยังไม่คุ้นเคยที่จะลงทุนแบบตลาดหุ้นขาลง แต่บริษัทมองว่าทิศทางตลาดหุ้นนั้นจะปรับตัวลดลง จึงจะออก DW ประเภท PUT เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง และบริษัทจะมีการจัดอบรมให้ความรู้แก่นักลงทุนต่อไป
"ช่วงแรกที่บริษัทได้ออกเสนอขายDW ประเภท call นั้นในช่วงแรกนั้นนักลงทุนตอบรับไม่ดีนัก แต่หลังจากนั้นพบว่านักลงทุนรายใหญ่ของบริษัทมีการตอบรับที่ดีขึ้น ส่วนตัว Put นั้นบริษัทนั้นจะต้องพยายามอีกมาก เพราะนักลงทุนยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในช่วงขาลง แต่บริษัทจะยังคงออกต่อเนื่อง เพื่อให้การลงทุนนั้นสมดุล ซึ่งสามารถลงทุนได้แม้ภาวะตลาดหุ้นขาลง " นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแผนการออกหุ้นกู้อนุพันธ์นั้น บริษัทมีแผนที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป จากปัจจุบันที่บริษัทได้ออกเสนอขายแก่นักลงทุนของทาง บล.ภัทรเท่านั้น เนื่องจากทางคณะกรรมการบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออกหุ้นกู้อนุพันธ์ เพิ่มอีก 500 ล้านบาท เป็น 1,500 ล้านบาท จากเดิมที่มีวงเงินในการออก 1,000 ล้านาท
นาย ธนวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทออกเสนอขายหุ้นกู้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมียอดคงค้างได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท จากเดิมที่เฉลี่ย 300 ล้านบาท โดยคาดว่ายอดคงค้างปีนี้จะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดการออกเสนอขายปีนี้จะสูงกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจาก ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทได้มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตัวหุ้นกู้อนุพันธ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะการลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์ของบริษัทให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8-12% ต่อปี ถือว่าให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก
"ลูกค้าของบริษัทให้ความสนใจลงทุนในตัวหุ้นกู้อนุพันธ์มากขึ้น เพราะเริ่มมีความคุ้นเคยกับสินค้าแล้ว และลูกค้าของบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการลงทุนหุ้นกู้อนุพันธ์มากขึ้น เพราะตอบแทนสูง ซึ่งจากเดิมลูกค้าบางรายเคยซื้อ 35 ล้านบาท ได้เพิ่มเงินการลงทุนเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทออกเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ให้แก่ลูกค้าบริษัท แต่หลังจากบอร์ดบริษัทได้เพิ่มวงเงินในการออกอีก 500 ล้านบาท บริษัทจึงมีแผนที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปในช่วงครึ่งปีหลัง"นายธนวัฒน์ กล่าว
