ASTVผู้จัดการรายวัน-ดีเอสไอ คุมตัว “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” แกนนนำกลุ่ม 24 มิถุนา และแนวร่วม นปช. ผู้ต้องหาคดีคดีล่วงละเมิดสถาบัน ขออำนาจศาลฝากขัง คัดค้านประกันตัว ทนายยื่นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.6 ล้าน ขอประกัน ศาลชี้คดีมีอัตราโทษสูง ถูกจับขณะเดินทางออกนอกประเทศ ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ส่งนอนคุก
วานนี้(2 พ.ค.)เวลา 08.50 น.ที่ศาลอาญา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ควบคุมตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/428 ซอยประชาอุทิศ 12 แขวงและเขตดอนเมือง กทม. แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในคดี กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ และเป็นตัวการผู้ใช้ ผู้สนับสนุน เข้าข่าย กระทำขององค์กรอาชญากรรม หมิ่นสถาบัน ไปฝากขังที่ศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน
คำร้องระบุว่า นายสมยศเป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin มีการลงบทความเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีพฤติกรรมลงบทความในทำนองดังกล่าวหลายครั้งหลายหน กระทั่งวันที่ 3 ก.ย.53 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสมยศต่อดีเอสไอ ในความผิดกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อมาวันที่ 30 เม.ย.54 นายสมยศ ยื่นหนังสือเดินทางแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อพบว่าเป็นนายสมยศเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 131/2554 ลงวันที่ 15 ก.พ.54 จึงจับกุมนำตัวส่งดีเอสไอดำเนินคดี
พนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 9 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา จึงขอฝากขังไว้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่ 2-13 พ.ค.54 ทั้งนี้หากผู้ต้องหายื่นประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจำนวน 3 ครั้ง ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากได้รับการประกันตัวอาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้อง
นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 1.6 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัวนายสมยศ โดยนายคารม เปิดเผยว่า นายสมยศ ไม่ได้คิดหลบหนีแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น ก็ไปตามปกติ เนื่องจากนายสมยศ ต้องพาคณะทัวร์ไปเที่ยวที่ประเทศกัมพูชาเท่านั้น
ต่อมา ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ตามข้อหาเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พฤติการณ์แห่งคดีและลักษณะการกระทำ นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะซึ่งกระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนโดยรวม ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
วานนี้(2 พ.ค.)เวลา 08.50 น.ที่ศาลอาญา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ควบคุมตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/428 ซอยประชาอุทิศ 12 แขวงและเขตดอนเมือง กทม. แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในคดี กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ และเป็นตัวการผู้ใช้ ผู้สนับสนุน เข้าข่าย กระทำขององค์กรอาชญากรรม หมิ่นสถาบัน ไปฝากขังที่ศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน
คำร้องระบุว่า นายสมยศเป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin มีการลงบทความเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีพฤติกรรมลงบทความในทำนองดังกล่าวหลายครั้งหลายหน กระทั่งวันที่ 3 ก.ย.53 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสมยศต่อดีเอสไอ ในความผิดกระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อมาวันที่ 30 เม.ย.54 นายสมยศ ยื่นหนังสือเดินทางแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อพบว่าเป็นนายสมยศเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 131/2554 ลงวันที่ 15 ก.พ.54 จึงจับกุมนำตัวส่งดีเอสไอดำเนินคดี
พนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 9 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา จึงขอฝากขังไว้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่ 2-13 พ.ค.54 ทั้งนี้หากผู้ต้องหายื่นประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจำนวน 3 ครั้ง ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หากได้รับการประกันตัวอาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาตามคำร้อง
นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 1.6 ล้านบาท ยื่นขอประกันตัวนายสมยศ โดยนายคารม เปิดเผยว่า นายสมยศ ไม่ได้คิดหลบหนีแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น ก็ไปตามปกติ เนื่องจากนายสมยศ ต้องพาคณะทัวร์ไปเที่ยวที่ประเทศกัมพูชาเท่านั้น
ต่อมา ศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ตามข้อหาเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พฤติการณ์แห่งคดีและลักษณะการกระทำ นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะซึ่งกระทบกระเทือนต่อจิตใจของประชาชนโดยรวม ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ถือว่ามีพฤติการณ์หลบหนี หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
