ASTVผู้จัดการรายวัน - “ดีเอสไอ” ค้านประกัน "บก.วอยซ์ ออฟ ทักษิณ“ล่วงละเมิดสถาบัน เตรียมส่งศาลจันทร์นี้ ด้าน"โฆษกปชป." อัด ทนายแม้วเดินสายบิดเบือน มั่นใจแผนโลกล้อมไทยเหลว หลังองค์กรต่างชาติเพิ่มถอยหนี
วานนี้ (1 พ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ ) กล่าวถึงกรณีที่ได้จับตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในคดีกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีลักษณะการกระทำผิดเป็นเครือข่ายโดยใช้เครื่องมือสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตว่า ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนายสมยศไว้ตั้งแต่วันก่อน แต่เนื่องจากมีผู้สนับสนุนนายสมยศบางส่วนได้รวมตัวกันชุมนุมหน้าดีเอสไอ
ดังนั้นเพื่อความเรียบร้อยจึงได้นำตัวนายสมยศไปอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสมยศ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีอัยการคดีพิเศษร่วมรับฟังด้วย เบื้องต้นนายสมยศได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางดีเอสไอได้คัดค้านการประกันในชั้นสอบสวน เพื่อส่งตัวให้ศาลในวันนี้ (2พ.ค.) เวลา 09.00 น
นายธาริต กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ออกหมายเรียกนายสมยศเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 3 ครั้ง แต่นายสมยศไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก กระทั่งมีการจับกุมได้ขณะที่นายสมยศกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาปะชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม โดย พนักงานสอบสวน ได้เชิญ อัยการคดิพิเศษ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ทำการสอบปากคำนายสมยศ ซึ่งได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 30 วัน ขณะที่ในวันนี้ พนักงานสอบสวน จะนำตัวนายสมยศ ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขัง ซึ่งทนายความจะเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ราคาประเมินกว่า 1 ล้านบาท ในการยื่นขอประกันตัว พร้อมยื่นคัดค้านการฝากขังด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมยศ ได้ถูกชุดสอบสวนดีเอสไอ สะกดรอย นำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา ( 30 มิ.ย.) ตามหมายจับ ที่บริเวณสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะเตรียมตัวเดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยนายสมยศเป็นบุคคลหนึ่ง ที่มีชื่ออยู่ในผังขบวนการล้มเจ้า ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในข้อหา กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 โดยมุ่งร้ายต่อสภาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคง แห่งราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ และเป็นตัวการผู้ใช้ ผู้สนับสนุน เข้าข่าย กระทำขององค์กรอาชญากรรม หมิ่นสถาบัน
อีกด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายโรเบิร์ต อัมเสตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว ว่ามีการเสนอข้อมูลบิดเบือน และพยายามสร้างเรื่องเท็จว่า กรณีไทย-กัมพูชา เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อกลบเกลือนการปิดวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดง และพยายามให้เวทีสากลองค์กรนิรโทษกรรมต่างประเทศพูดเรื่องดังกล่าว โดยเห็นได้ชัดว่าเริ่มมีแรงต้านจากองค์กรระหว่างประเทศ และทำให้แผนการที่จะให้โลกล้อมประเทศไทยไม่สำเร็จ
ส่วนกรณีการจับแกนนำเสื้อแดงที่ อ.รัญประเทศ จ.สระแก้ว และการจับเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่นำมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ยิงเอ็ม 79 ที่ใช้ก่อเหตุความวุ่นวายที่ผ่านมา ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการจากการขยายผล ที่ฝ่ายการเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งดีเอสไอ และตำรวจ และมีการดำเนินการไม่ถูกต้องก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นเอง แต่ต้องยอมรับว่าการพาดพิงสถานบันฯ มีการใช้วิทยุชุมชนจำนวนมากหลายพื้นที่ และการดำเนินงานเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปลุกระดม พาดพิง หรือสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ส่วนการล่ารายชื่อเพื่อเสนอให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นเป็นสิ่งที่ไม่บังควรและและไม่ชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และพรรคไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง.
วานนี้ (1 พ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ ) กล่าวถึงกรณีที่ได้จับตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในคดีกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีลักษณะการกระทำผิดเป็นเครือข่ายโดยใช้เครื่องมือสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตว่า ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนายสมยศไว้ตั้งแต่วันก่อน แต่เนื่องจากมีผู้สนับสนุนนายสมยศบางส่วนได้รวมตัวกันชุมนุมหน้าดีเอสไอ
ดังนั้นเพื่อความเรียบร้อยจึงได้นำตัวนายสมยศไปอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสมยศ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีอัยการคดีพิเศษร่วมรับฟังด้วย เบื้องต้นนายสมยศได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางดีเอสไอได้คัดค้านการประกันในชั้นสอบสวน เพื่อส่งตัวให้ศาลในวันนี้ (2พ.ค.) เวลา 09.00 น
นายธาริต กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ออกหมายเรียกนายสมยศเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 3 ครั้ง แต่นายสมยศไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก กระทั่งมีการจับกุมได้ขณะที่นายสมยศกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่ นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) เปิดเผยว่า ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการบริหารนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาปะชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม โดย พนักงานสอบสวน ได้เชิญ อัยการคดิพิเศษ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ทำการสอบปากคำนายสมยศ ซึ่งได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พร้อมขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ภายใน 30 วัน ขณะที่ในวันนี้ พนักงานสอบสวน จะนำตัวนายสมยศ ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อฝากขัง ซึ่งทนายความจะเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ราคาประเมินกว่า 1 ล้านบาท ในการยื่นขอประกันตัว พร้อมยื่นคัดค้านการฝากขังด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมยศ ได้ถูกชุดสอบสวนดีเอสไอ สะกดรอย นำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา ( 30 มิ.ย.) ตามหมายจับ ที่บริเวณสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะเตรียมตัวเดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยนายสมยศเป็นบุคคลหนึ่ง ที่มีชื่ออยู่ในผังขบวนการล้มเจ้า ของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในข้อหา กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 โดยมุ่งร้ายต่อสภาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคง แห่งราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ และเป็นตัวการผู้ใช้ ผู้สนับสนุน เข้าข่าย กระทำขององค์กรอาชญากรรม หมิ่นสถาบัน
อีกด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายโรเบิร์ต อัมเสตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว ว่ามีการเสนอข้อมูลบิดเบือน และพยายามสร้างเรื่องเท็จว่า กรณีไทย-กัมพูชา เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อกลบเกลือนการปิดวิทยุชุมชนของคนเสื้อแดง และพยายามให้เวทีสากลองค์กรนิรโทษกรรมต่างประเทศพูดเรื่องดังกล่าว โดยเห็นได้ชัดว่าเริ่มมีแรงต้านจากองค์กรระหว่างประเทศ และทำให้แผนการที่จะให้โลกล้อมประเทศไทยไม่สำเร็จ
ส่วนกรณีการจับแกนนำเสื้อแดงที่ อ.รัญประเทศ จ.สระแก้ว และการจับเจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่นำมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ยิงเอ็ม 79 ที่ใช้ก่อเหตุความวุ่นวายที่ผ่านมา ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการจากการขยายผล ที่ฝ่ายการเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งดีเอสไอ และตำรวจ และมีการดำเนินการไม่ถูกต้องก็ต้องรับผลของการกระทำนั้นเอง แต่ต้องยอมรับว่าการพาดพิงสถานบันฯ มีการใช้วิทยุชุมชนจำนวนมากหลายพื้นที่ และการดำเนินงานเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปลุกระดม พาดพิง หรือสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ส่วนการล่ารายชื่อเพื่อเสนอให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นเป็นสิ่งที่ไม่บังควรและและไม่ชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และพรรคไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง.