ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กสทช. กอ.รมน. บุกค้นสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดง 13 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หลังนำเนื้อหาหมิ่นไปออกอากาศ พร้อมยึดอุปกรณ์กระจายเสียง ด้านผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจาก 14 จังหวัดภาคอีสาน ให้กำลังใจผบ.ทบ. ปกป้องสถาบันฯ ขณะที่พล.ม.2 ตบเท้าหนุน ลูกเสธ.แดง จี้ "มาร์ค" ติดตามคดีสังหารพ่อ หลังผ่านมา 1 ปี ไม่มีความคืบหน้า "เทพ"ชี้แกนนำแดงลงส.ส. หวังใช้คุมกะลาหัวหนีติดคุก "วัชระ"ออกหนังสือ "หยุดจตุพร หยุดระบอบทักษิณ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย วานนี้ (26 เม.ย.) ชุดปฏิบัติการร่วม ซึ่งประกอบกำลังจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจท้องที่ ได้นำหมายศาล กระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสถานีวิทยุที่กระจายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 13 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) 7 แห่ง ประกอบด้วย
1.หมู่บ้านเฟรนด์ชิป ซอย 13 ถนนประเสริฐมนูกิจ ซอย 29 แยก 2 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
2.ร้านค้าสมุนไพรชัยมงคล เลขที่ 69/31 ซอยรามอินทรา 30 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ท้องที่ สน.โคกคราม
3.ตลาดวงศกร ถนนสายไหม ซอย 19 ล็อก อี 9-10 แขวงและเขตสายไหม กทม.ท้องที่ สน.สายไหม
4.อาคาพาณิชย์โรงภาพยนตร์เก่า เลขที่ 15/285 ซอยโชคชัย 4 แยก 3 ถนนลาดพร้าว ซอย 47 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
5.อาคารวังหินเพลส ซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
6.บริษัท ไทยทรัพย์เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด เลขที่ 16/149 ถนนลาดพร้าว-วังหิน ซอย 8 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ท้องที่ สน.โชคชัย โดยจุดนี้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชน “รวมใจไทย” FM.105.75 เมกะเฮิร์ต และสามารถจับกุมตัว “เล็ก สุพรรณ” ผู้ดำเนินรายการ (ดีเจ.) ไว้ได้
7.วัดวิมุตยาราม ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 98 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.พื้นที่ สน.บางพลัด
นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนในพื้นที่ปริมณฑลอีก 6 แห่ง เช่น วิทยุชุมชนสื่อบ้านเรือนไทย ลำลูกกา คลอง3 คลื่น 105.40 วิทยุชุมชนคนลำลูกกา คลอง4 คลื่น 96.35 คลื่นวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย สำโรง คลื่น 97.25
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการกระจายเสียงไว้ดำเนินคดีในข้อหา มี ใช้ และตั้งเครื่องส่งวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากกอ.รมน.ตรวจสอบพบว่ามีสถานีวิทยุชุมชนต่างๆ หลายแห่งที่ดำเนินการเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย จึงนำข้อมูลประสานกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยภายหลังการตรวจค้นเสร็จสิ้นชุดปฏิบัติการจะประมวลเรื่องรายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบอีกครั้ง
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี กอ.รมน.สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีกับรายการวิทยุชุมชน 12 คลื่นความถี่ ที่นำเทปการปราศรัยเข้าข่ายผิดกฎหมายของนายจุตพร พรหมพันธ์ ไปเผยแพร่ว่า หลังจากรับทราบจากกอ.รมน. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการหน่วยที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และติดตามจับกุมดำเนินคดีแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
***ชาวบ้านหนุนทหารป้องสถาบันฯ
วันเดียวกันนี้ ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกได้มี ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 750 คน จาก 14 จังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งเป็นมวลชนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เดินทางมาเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. โดยมี พล.ท.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ผช.เสนาธิการทหารบก ฝ่ายกิจการพลเรือน เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นผู้ต้อนรับมวลชน ที่ทั้งหมดสวมเสื้อสีชมพู พร้อมข้อความ "เรารัก ผบ.ทบ."
โดยทั้งหมดเดินทางมาจากอิสาน 14 จังหวัด ด้วยรถบัสจำนวน 15 คัน ที่ กอ.รมน.จัดมาให้ โดยไปลงนามถวายพระพรในหลวง ที่ รพ.ศิริราช ก่อน จากนั้นจึงมาที่หน้า บก.ทบ.
แหล่งข่าวกล่าวว่า กอ.รมน. ซึ่งมีมวลชน 7 แสนคนทั่วประเทศ มีแผนที่จะสร้าง “มวลชนเสื้อสีชมพู” เป็นมวลชนในการเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันฯ และปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้นำในการปกป้องสถาบันฯ
นายบุญเลย จำปาจันทร์ แกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จ.สกลนคร กล่าวว่า มาให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านเป็นผู้นำกองทัพ ที่นำในการปกป้องสถาบันฯ และให้กำลังใจทหารในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน
"ที่มาก็ต้องการขอให้ ทบ. ช่วยติดตามเรื่องการจัดหาที่ทำกิน 15 ไร่ ให้พวกตนที่รัฐบาลในอดีตเคยสัญญาไว้ หรือชดเชย ด้วยเงิน 225,000 บาท อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ ยังมี พวกตนราว 5 พันคนยังไม่ได้รับสิทธินี้"
**พล.ม.2 ตบเท้าปกป้องสถาบันฯ
พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) นำกำลังทหารม้า รักษาพระองค์ หน่วยปฏิวัติ ทั้งในกรุงเทพและ สระบุรี 3 กรม จำนวน 745 คน ได้แสดงพลังปกป้องสถาบันฯ ด้วยการเตรียมความพร้อมรบโดยมีกำลังทหาร และรถสายพานลำเลียงพล
"เราแสดงความพร้อม สำหรับทำตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเพื่อปกป้องสถาบันฯ เพื่อปกป้องอธิปไตย และการรักษาความมั่นคงต่างๆ"พล.ต.สุรศักดิ์กล่าว
พล.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ทหารม้าจะมีการฝึกภาคกองพันของทหาร ตั้งแต่ 28 เม.ย.-9 พ.ค. ในพื้นที่จ.ลพบุรี
"ไม่ว่าจะครึ่ง ชม. 1 ชม. หรือกี่ชั่วโมง เราก็พร้อมตลอด 24 ชม. ในการออกทำตามคำสั่ง ผบ.ทบ."พล.ต.สุรศักดิ์ กล่าว
** "ลูกเสธ.แดง" จี้นายกฯเร่งคดีสังหารพ่อ
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ให้ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของบิดา ที่ถูกสังหาร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินี เมื่อวันที่ 13 พ.ค.53 แต่ทราบว่านายกรัฐมนตรีไปประชุมอยู่ที่สภา จึงเดินทางไปพบที่สภา
น.ส.ขัตติยาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ต้องยื่นหนังสือให้ถึงมือนายกฯ เพราะในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้รับผิดชอบคดีลอบสังหารบิดาตน จึงต้องการให้นายกฯรับรู้ด้วย เพราะ ถ้าไปยื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่ ก็ไม้รู้ว่าเรื่องจะไปค้างอยู่ที่ไหน ถ้ายื่นให้ถึงมือนายกฯ จะได้มั่นใจว่านายกฯ รับทราบแล้ว และถ้าไม่มีการปฏิบัติงานเกิดขึ้น ก็แปลว่า เป็นเพราะนายกฯ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเหตุเกิดมาเกือบ 1 ปีแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า
ที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกตนไปสอบปากคำเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ทั้งที่ควรจะกระตือรือร้นมากกว่านี้ และไม่ใช่เพียงสรุปแค่ว่ายังหาคนยิงไม่ได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 13 พ.ค. ตนและสมาชิกพรรค จะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล เพื่อรำลึกการจากไปของพล.ต.ขัตติยะ ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ลุมพินี และ ในวันที่ 17 พ.ค. ก็จะจัดทำบุญที่วัดหนองบัว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ด้วย
** "เทือก"ชี้แกนนำแดงสมัครส.ส.หนีคุก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยรายชื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 12 คนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยว่า คงไม่เป็นปัญหาอะไร ก็ว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ กติกา ข้อกฎหมาย คนที่เป็นผู้ต้องหา ก็ยังไม่ใช่คนที่จะถูกคำพิพากษา เพราะฉะนั้นเขาก็ยังมีสิทธิ เพียงแต่ว่าลักษณะมันเหมือนกับว่าพยายามที่จะเข้ามาเป็นส.ส. เพื่อที่จะใช้เป็นเกราะกำบังตัวเอง จะได้ใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.เลื่อนคดีออกไป เพราะตอนที่เป็น ส.ส. จะถูกจับกุมคุมขังดำเนินคดีไม่ได้ ฉะนั้นเขาคงหวังพึ่งตรงนี้
เมื่อถามว่า ทำไมรัฐไม่รีบเร่งทำคดี แล้วเอาขึ้นฟ้องศาล เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ หรืออัยการ ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลคงไม่เข้าไปแทรกแซง คดีบางคดีทำได้เร็ว บางคดีอาจจะล่าช้า อยู่ที่จำนวนพยาน หลักฐาน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาหลักฐานต่างๆ ก็มีพร้อม ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ แต่ก็ดูเหมือนต้องการเอาไว้แกล้งกัน นายสุเทพกล่าวว่า ตนก็คิดอย่างนั้น ว่าเจ้าหน้าที่น่าจะทำคดีได้เร็ว แต่เจ้าหน้าที่เขาก็ทำตามขั้นตอนวิธีการของเขา ส่วนที่กล่าวว่าหากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีเอง น่าจะจบได้เร็วกว่าให้ ดีเอสไอ ทำ นั้นก็คงไม่ใช่
**"วัชระ"เปิดตัวหนังสือ "หยุดก่อนส.ส.จตุพร"
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “หยุดก่อน ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ หยุดระบอบทักษิณ” พร้อมกับจุดเทียนไข 1 เล่ม ซึ่งนายวัชระ อ้างว่าเพื่อให้ประชาชน ตาสว่าง ใจสว่าง จิตสว่าง และไม่หลงงมงายกับระบอบทักษิณ
ทั้งนี้ นายวัชระ ยังกล่าวบทแผ่เมตตา เพื่อสื่อไปถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือที่นายวัชระ นำมาแถลงข่าวนั้น มีเนื้อหาส่วนหนึ่งมีการระบุถึงหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเอกสารแสดงการโอนเงินจากรัฐบาลไทย ในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งไปยังประเทศกัมพูชา หลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างนายวัชระ กับนายจตุพร เมื่อครั้งสมัครคณะกรรมการองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง รวมถึงการอ้างคำพูดของ นายรังสรรค์ แสงสุข อดีต อธิการบดี ม.รามคำแหง ซึ่งระบุว่าเป็นผู้ช่วยให้นายจตุพร จบการศึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย วานนี้ (26 เม.ย.) ชุดปฏิบัติการร่วม ซึ่งประกอบกำลังจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจท้องที่ ได้นำหมายศาล กระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสถานีวิทยุที่กระจายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 13 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) 7 แห่ง ประกอบด้วย
1.หมู่บ้านเฟรนด์ชิป ซอย 13 ถนนประเสริฐมนูกิจ ซอย 29 แยก 2 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
2.ร้านค้าสมุนไพรชัยมงคล เลขที่ 69/31 ซอยรามอินทรา 30 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ท้องที่ สน.โคกคราม
3.ตลาดวงศกร ถนนสายไหม ซอย 19 ล็อก อี 9-10 แขวงและเขตสายไหม กทม.ท้องที่ สน.สายไหม
4.อาคาพาณิชย์โรงภาพยนตร์เก่า เลขที่ 15/285 ซอยโชคชัย 4 แยก 3 ถนนลาดพร้าว ซอย 47 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
5.อาคารวังหินเพลส ซอยลาดพร้าว-วังหิน 79 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
6.บริษัท ไทยทรัพย์เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด เลขที่ 16/149 ถนนลาดพร้าว-วังหิน ซอย 8 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ท้องที่ สน.โชคชัย โดยจุดนี้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชน “รวมใจไทย” FM.105.75 เมกะเฮิร์ต และสามารถจับกุมตัว “เล็ก สุพรรณ” ผู้ดำเนินรายการ (ดีเจ.) ไว้ได้
7.วัดวิมุตยาราม ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 98 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.พื้นที่ สน.บางพลัด
นอกจากนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนในพื้นที่ปริมณฑลอีก 6 แห่ง เช่น วิทยุชุมชนสื่อบ้านเรือนไทย ลำลูกกา คลอง3 คลื่น 105.40 วิทยุชุมชนคนลำลูกกา คลอง4 คลื่น 96.35 คลื่นวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย สำโรง คลื่น 97.25
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการกระจายเสียงไว้ดำเนินคดีในข้อหา มี ใช้ และตั้งเครื่องส่งวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากกอ.รมน.ตรวจสอบพบว่ามีสถานีวิทยุชุมชนต่างๆ หลายแห่งที่ดำเนินการเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย จึงนำข้อมูลประสานกับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ โดยภายหลังการตรวจค้นเสร็จสิ้นชุดปฏิบัติการจะประมวลเรื่องรายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบอีกครั้ง
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี กอ.รมน.สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีกับรายการวิทยุชุมชน 12 คลื่นความถี่ ที่นำเทปการปราศรัยเข้าข่ายผิดกฎหมายของนายจุตพร พรหมพันธ์ ไปเผยแพร่ว่า หลังจากรับทราบจากกอ.รมน. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการหน่วยที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และติดตามจับกุมดำเนินคดีแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
***ชาวบ้านหนุนทหารป้องสถาบันฯ
วันเดียวกันนี้ ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกได้มี ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย 750 คน จาก 14 จังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งเป็นมวลชนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เดินทางมาเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. โดยมี พล.ท.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ผช.เสนาธิการทหารบก ฝ่ายกิจการพลเรือน เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นผู้ต้อนรับมวลชน ที่ทั้งหมดสวมเสื้อสีชมพู พร้อมข้อความ "เรารัก ผบ.ทบ."
โดยทั้งหมดเดินทางมาจากอิสาน 14 จังหวัด ด้วยรถบัสจำนวน 15 คัน ที่ กอ.รมน.จัดมาให้ โดยไปลงนามถวายพระพรในหลวง ที่ รพ.ศิริราช ก่อน จากนั้นจึงมาที่หน้า บก.ทบ.
แหล่งข่าวกล่าวว่า กอ.รมน. ซึ่งมีมวลชน 7 แสนคนทั่วประเทศ มีแผนที่จะสร้าง “มวลชนเสื้อสีชมพู” เป็นมวลชนในการเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันฯ และปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้นำในการปกป้องสถาบันฯ
นายบุญเลย จำปาจันทร์ แกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย จ.สกลนคร กล่าวว่า มาให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านเป็นผู้นำกองทัพ ที่นำในการปกป้องสถาบันฯ และให้กำลังใจทหารในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน
"ที่มาก็ต้องการขอให้ ทบ. ช่วยติดตามเรื่องการจัดหาที่ทำกิน 15 ไร่ ให้พวกตนที่รัฐบาลในอดีตเคยสัญญาไว้ หรือชดเชย ด้วยเงิน 225,000 บาท อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ ยังมี พวกตนราว 5 พันคนยังไม่ได้รับสิทธินี้"
**พล.ม.2 ตบเท้าปกป้องสถาบันฯ
พล.ต.สุรศักดิ์ บุญศิริ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) นำกำลังทหารม้า รักษาพระองค์ หน่วยปฏิวัติ ทั้งในกรุงเทพและ สระบุรี 3 กรม จำนวน 745 คน ได้แสดงพลังปกป้องสถาบันฯ ด้วยการเตรียมความพร้อมรบโดยมีกำลังทหาร และรถสายพานลำเลียงพล
"เราแสดงความพร้อม สำหรับทำตามคำสั่ง ผบ.ทบ. ตลอด 24 ชม. ไม่ว่าจะเพื่อปกป้องสถาบันฯ เพื่อปกป้องอธิปไตย และการรักษาความมั่นคงต่างๆ"พล.ต.สุรศักดิ์กล่าว
พล.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ทหารม้าจะมีการฝึกภาคกองพันของทหาร ตั้งแต่ 28 เม.ย.-9 พ.ค. ในพื้นที่จ.ลพบุรี
"ไม่ว่าจะครึ่ง ชม. 1 ชม. หรือกี่ชั่วโมง เราก็พร้อมตลอด 24 ชม. ในการออกทำตามคำสั่ง ผบ.ทบ."พล.ต.สุรศักดิ์ กล่าว
** "ลูกเสธ.แดง" จี้นายกฯเร่งคดีสังหารพ่อ
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาว พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ให้ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของบิดา ที่ถูกสังหาร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินี เมื่อวันที่ 13 พ.ค.53 แต่ทราบว่านายกรัฐมนตรีไปประชุมอยู่ที่สภา จึงเดินทางไปพบที่สภา
น.ส.ขัตติยาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ต้องยื่นหนังสือให้ถึงมือนายกฯ เพราะในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้รับผิดชอบคดีลอบสังหารบิดาตน จึงต้องการให้นายกฯรับรู้ด้วย เพราะ ถ้าไปยื่นเรื่องกับเจ้าหน้าที่ ก็ไม้รู้ว่าเรื่องจะไปค้างอยู่ที่ไหน ถ้ายื่นให้ถึงมือนายกฯ จะได้มั่นใจว่านายกฯ รับทราบแล้ว และถ้าไม่มีการปฏิบัติงานเกิดขึ้น ก็แปลว่า เป็นเพราะนายกฯ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเหตุเกิดมาเกือบ 1 ปีแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า
ที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกตนไปสอบปากคำเพียง 1 ครั้งเท่านั้น ทั้งที่ควรจะกระตือรือร้นมากกว่านี้ และไม่ใช่เพียงสรุปแค่ว่ายังหาคนยิงไม่ได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 13 พ.ค. ตนและสมาชิกพรรค จะจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล เพื่อรำลึกการจากไปของพล.ต.ขัตติยะ ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ลุมพินี และ ในวันที่ 17 พ.ค. ก็จะจัดทำบุญที่วัดหนองบัว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ด้วย
** "เทือก"ชี้แกนนำแดงสมัครส.ส.หนีคุก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยรายชื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 12 คนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยว่า คงไม่เป็นปัญหาอะไร ก็ว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ กติกา ข้อกฎหมาย คนที่เป็นผู้ต้องหา ก็ยังไม่ใช่คนที่จะถูกคำพิพากษา เพราะฉะนั้นเขาก็ยังมีสิทธิ เพียงแต่ว่าลักษณะมันเหมือนกับว่าพยายามที่จะเข้ามาเป็นส.ส. เพื่อที่จะใช้เป็นเกราะกำบังตัวเอง จะได้ใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.เลื่อนคดีออกไป เพราะตอนที่เป็น ส.ส. จะถูกจับกุมคุมขังดำเนินคดีไม่ได้ ฉะนั้นเขาคงหวังพึ่งตรงนี้
เมื่อถามว่า ทำไมรัฐไม่รีบเร่งทำคดี แล้วเอาขึ้นฟ้องศาล เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ หรืออัยการ ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลคงไม่เข้าไปแทรกแซง คดีบางคดีทำได้เร็ว บางคดีอาจจะล่าช้า อยู่ที่จำนวนพยาน หลักฐาน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาหลักฐานต่างๆ ก็มีพร้อม ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ แต่ก็ดูเหมือนต้องการเอาไว้แกล้งกัน นายสุเทพกล่าวว่า ตนก็คิดอย่างนั้น ว่าเจ้าหน้าที่น่าจะทำคดีได้เร็ว แต่เจ้าหน้าที่เขาก็ทำตามขั้นตอนวิธีการของเขา ส่วนที่กล่าวว่าหากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีเอง น่าจะจบได้เร็วกว่าให้ ดีเอสไอ ทำ นั้นก็คงไม่ใช่
**"วัชระ"เปิดตัวหนังสือ "หยุดก่อนส.ส.จตุพร"
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “หยุดก่อน ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ หยุดระบอบทักษิณ” พร้อมกับจุดเทียนไข 1 เล่ม ซึ่งนายวัชระ อ้างว่าเพื่อให้ประชาชน ตาสว่าง ใจสว่าง จิตสว่าง และไม่หลงงมงายกับระบอบทักษิณ
ทั้งนี้ นายวัชระ ยังกล่าวบทแผ่เมตตา เพื่อสื่อไปถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือที่นายวัชระ นำมาแถลงข่าวนั้น มีเนื้อหาส่วนหนึ่งมีการระบุถึงหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเอกสารแสดงการโอนเงินจากรัฐบาลไทย ในสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ส่งไปยังประเทศกัมพูชา หลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างนายวัชระ กับนายจตุพร เมื่อครั้งสมัครคณะกรรมการองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง รวมถึงการอ้างคำพูดของ นายรังสรรค์ แสงสุข อดีต อธิการบดี ม.รามคำแหง ซึ่งระบุว่าเป็นผู้ช่วยให้นายจตุพร จบการศึกษา
