xs
xsm
sm
md
lg

‘ม.อีสาน’ดิ้นไม่หลุดขายป.บัณฑิต ส่อพิรุธอื้อจ่อเอาผิดแพ่ง-อาญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ซื้อ-ขาย ป.บัณฑิตมีมูล ม.อีสานพิรุธอื้อ ระบบการเงิน-ลงทะเบียนนศ.-การเรียนการสอน ไร้มาตรฐาน อธิการฯไม่มีหลักฐานยัน อ้างเผาทิ้ง-ไม่ได้เก็บ เล็งขยายผลจับตามหา’ลัยเด็กจบหลักสูตรป.บัณฑิตเกิน 1,000 คนต่อปี ด้านคุรุสภาเผยม.อีสานส่งหนังสือขอยกเลิกออกใบ ป.บัณฑิตทั้งหมด ลั่นไม่หวั่นถูกขู่ฆ่า ด้านดีเอสไอลงพื้นที่เก็บข้อมูลขายป.บัญฑิต

วานนี้ (25 เม.ย.) นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) และรับฟังข้อสรุปจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) กรณีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซื้อขายใบประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของสกอ.และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาพบว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวมีการเสนอขอเปิดสอนหลักสูตรป.บัณฑิตเพียง 100 คนต่อปี แต่พบว่ามีเด็กเข้าเรียนเกินกว่า 1,000 คน โดยในปีการศึกษา 2553 ที่ผ่านมามีเด็กจบหลักสูตรนี้ถึง 2,377 คน เมื่อเข้าไปตรวจสอบระบบการเงินและระบบการลงทะเบียนของนักศึกษากลับเป็นการดำเนินการโดยไม่ได้มาตรฐาน และอธิการบดีก็ไม่สามารถนำหลักฐานการลงทะเบียนของนักศึกษามาแสดงต่อคณะกรรมการสอบสวนได้ โดยอ้างว่าไม่ได้เก็บไว้และเผาไปแล้ว รวมถึงรหัสประจำตัวนักศึกษามีเลขที่ซ้ำกันหลายคน

นายไชยยศ กล่าวต่อว่า การจัดการเรียนการสอนก็ไม่ได้มาตรฐาน มีอาจารย์ประจำหลักสูตรไม่ครบตามเกณฑ์ที่สกอ.กำหนดคือ จะต้องมีผู้รับผิดชอบหลักสูตร 5 คน และมีอาจารย์ประจำหลักสูตร 3 คนที่มีวุฒิระดับปริญญาเอก หรือมีตำแหน่งทางวิชาการระดับรองศาสตราจารย์ (รศ.)ขึ้นไป และพบว่ามหาวิทยาลัยดังกล่าวเปิดศูนย์การเรียนการสอนนอกสถานที่ตั้งเกินกว่าที่ขออนุญาตไว้คือ ขอเปิดทั้งหมด 4 แห่ง แต่เปิดสอนมากกว่า 10 แห่ง ขณะที่จากตรวจสอบโรงเรียนที่มหาวิทยาลัยอ้างว่าได้ส่งนักศึกษาไปฝึกสอน 54 โรงเรียน พบว่ามี 23 แห่ง แจ้งว่าไม่มีนักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเอกชนดังกล่าวมาฝึกปฏิบัติการสอนตามที่กล่าวอ้าง

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ล่าสุดมหาวิทยาลัยอีสานได้ส่งหนังสือแจ้งมายังคุรุสภา เพื่อขอให้ยกเลิกรายชื่อบัณฑิตที่จบในปีการศึกษา 2553 ทั้งหมด 2,377 คน โดยระบุว่ารายชื่อยังไม่ผ่านมติจากสภามหาวิทยาลัย ทั้งนี้มี 1,349 คนที่มายื่นขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู โดยคุรุสภาได้ออกใบอนุญาตฯ ไปแล้วจำนวน 600 คน และนำใบอนุญาตฯ ไปเป็นหลักฐานในการสอบบรรจุครูผู้ช่วย ปีการศึกษา 2554 แล้ว ซึ่งจะถือเป็นโมฆะทันที

"หลักฐานที่ได้ครั้งนี้ เพียงพอที่จะเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางแพ่ง และ อาญา รวมถึงกรณีความผิดตาม กฎหมายสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ปี 2546 มาตรา 86 (2) จนอาจสั่งการให้มหาวิทยาลัยอยู่ในความควบคุมของ สกอ. หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวผลการสอบสวนทั้งหมดอีกครั้งในวันที่ 26 เม.ย. พร้อมทั้งพิจารณาบทลงโทษด้วย ส่วนการขยายผลการตรวจสอบการซื้อขายป.บัณฑิตไปยังมหาวิทยาลัยที่ผลิตป.บัณฑิตมากกว่า 1,000 คนต่อปี ตนจะทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขอให้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สำรวจจำนวนโรงเรียนในสังกัดสพฐ.ทั่วประเทศที่รับฝึกสอนนักศึกษาว่ามีทั้งหมดกี่โรงเรียน เพื่อขอรายชื่อนักศึกษาทั้งหมดมาตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถอนรากถอนโคนตนได้บอกกับนายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา หลังจากลงตรวจสอบพื้นที่ว่า ไม่ต้องกลัว ถูกยิงก็ไม่ต้องกลัว ส่วนที่มีข่าวบอร์ดคนหนึ่ง สั่งให้หยุด ถามว่าบอร์ดคนไหนจะใหญ่กว่ารัฐมนตรีหรือ ที่สำคัญสิ่งที่ตนทำอยู่คือสิ่งที่ถูกต้อง เป็นหัวใจคุณภาพการศึกษา หากเป้าหลอมของครูออกมาไม่ดี แล้วจะผลิตนักเรียนให้ดีได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายองค์กร กรณีถูกขู่ฆ่า นายองค์กร กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินข่าวนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง คนที่ทำผิดรู้ตัวเองว่าผิดหรือไม่ ตนถือว่ายึดความถูกต้อง

**DSIลงพื้นที่เก็บข้อมูล ขายใบ "ป.บัณฑิต"

วานนี้ (25 เม.ย.)นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบใบประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป.บัณฑิต) วิชาชีพครู ว่า ได้ลงนามคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาข้อมูลเชิงลึกในพื้นทีเป้าหมาย จ.ขอนแก่น และได้สั่งพนักงานสอบสวนไปรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เพื่อรายงานนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในวันที่ 2 พฤษภาคม สำหรับข้อมูลที่คุรุสภาส่งให้ดีเอสไอเป็นเพื่อข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้น ไม่ได้ลงรายละเอียด ความเชื่อมโยง ดังนั้น เป็นหน้าที่ของดีเอสไอต้องขยายและสอบปากคำคนที่เข้าให้การกับคุรุสภาเพิ่มเติม และในวันนี้ (25 เม.ย.) มอบหมายให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอไปพบเจ้าหน้าที่คุรุสภาเพื่อขอระเบียบ และขั้นตอนการออกใบ ป.บัณฑิต อย่างถูกต้องเพื่อประกอบสวนการสืบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น