ASTVผู้จัดการรายวัน- "ไอซีที-ไทยคม" ถกป้องกันปัญหาจอดับ ไม่มีประเด็นชดเชยความเสียหาย ยันไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ อ้างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคยันจุดดำในดวงอาทิตย์ระเบิดรอบ 11 ปี ก่อนส่งข้อมูลให้ฝรั่งเศสผู้สร้างสร้างไทยคม 5 สรุปใน 2-3 สัปดาห์ เด็ก ปชป.บี้ไอซีทีเร่งบังคับคดีดาวเทียมชินแซทฯ “เทือก” กร้าวไทยคมต้องรับผิดชอบ ปัดมีคนลองของกระแสปฏิวัติ ผบ.ทบ.อัดพวกเสี้ยม ส่วน “มาร์ค” หาเสียงเจอด่าซ้ำ “ดีแต่พูด”
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.เวลา 15.00 น. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของบริษัท กสท โทรคมนาคมและวิศวกรของ บริษัท ไทยคม ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงกลาโหม และจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ร่วมประชุมหารือ เพื่อสรุปเหตุการณ์ที่ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดขัดข้องด้านเทคนิค เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธาน
นางจีราวรรณกล่าวหลังการประชุมว่า สาเหตุที่ดาวเทียมไทยคม 5 ที่เกิดขัดข้องทางเทคนิค โดยเบื้องต้นสรุปได้ว่าเกิดจากประจุไฟฟ้าสถิตในอวกาศที่เกิดขึ้นสูงทำให้ดาวเทียมขัดข้อง และหลังจากนี้จะต้องมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างดาวเทียมกับสถานีภาคพื้นดิน ซึ่งบริษัทไทยคมจะรวบรวมข้อมูลดังกล่าวส่งให้กับบริษัท ธาเลซ อาลิเนีย สเปซ ประเทศฝรั่งเศส ที่สร้างดาวเทียมไทยคม 5 วิเคราะห์หาสาเหตุการเกิดขัดข้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
สำหรับการประชุมครั้งนี้นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ให้ความเห็นว่าสาเหตุการขัดข้องของไทยคม 5 มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดจากโซลาร์แฟร์ หรือจุดดำในดวงอาทิตย์ ซึ่งครบรอบ 11 ปีในการระเบิด และเป็นช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นไปได้ว่า การระเบิดของจุดดำในดวงอาทิตย์ได้หันหน้ามายังไทยคม 5 จึงทำให้เกิดประจุไฟฟ้าในปริมาณที่สูง แต่เรื่องนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนรายละเอียดต้องรอผลการวิเคราะห์ของธาเลซ อาลิเนีย สเปซผู้สร้างไทยคม 5 อีกครั้ง
'ขอยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญดาวเทียมของเทคโนโลยีมหานครเขาระบุว่าเท่าที่ดูข้อมูลสรุปจากทางวิชาการ ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดตามธรรมชาติ 70-80% ค่อนข้างจะแน่นอน และการที่ไทยคมชี้แจงเราไม่ได้เชื่อทั้งหมดจึงต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหารือ' ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าว
ส่วนวิธีการแก้ไขคงต้องรอบริษัทที่สร้างไทยคม 5 วิเคราะห์ข้อมูลออกมาก่อน แต่เบื้องต้นก็เป็นอย่างที่สรุปดังกล่าว และเมื่อเป็นภัยธรรมชาติคงไม่มีการแก้ไข แต่จะหาวิธีป้องกันหากเกิดขัดข้องในลักษณะนี้อีก ส่วนเรื่องความเสียหายเท่าที่ประเมินเบื้องต้นคือช่วงเวลา 3 ชั่วโมงที่จอทีวีดับ ยังไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายได้
และต้องรอให้ไทยคมไปหารือกับลูกค้าก่อน
ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า หากเกิดกรณีนี้ขึ้นอีกตามข้อตกลงผู้ให้บริการสัญญาณดาวเทียมนานาชาติ ผู้ให้บริการดาวเทียมจะขอใช้ดาวเทียมดวงที่อยู่ใกล้ดวงที่ขัดข้องรองรับการให้บริการไปก่อน แต่คงไม่ได้ทั้งหมด ส่วนดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) จะไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ เพราะไอพีสตาร์ช่องสัญญาณส่วนใหญ่เป็นความถี่ย่านเค-ยูแบนด์ และคณะกรรมการมาตรา 22ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนร่วมการงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ก็มีมติแล้วว่าไม่ใช่ดาวเทียมสำรอง เป็นดาวเทียมนอกสัมปทาน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมีการเจรจากันต่อไป
***เปิดแถลงการณ์ฉบับ 2 ไทยคม
บริษัท ไทยคม ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 กรณีดาวเทียมไทยคม 5 ประสบปัญหาเทคนิค เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาโดย บริษัท ไทยคม แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2554 ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดความขัดข้องทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมได้ สาเหตุของปัญหาในครั้งนี้คาดว่าเกิดมาจากปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Electrostatic Discharge (ESD) จากประจุไฟฟ้าในอวกาศ เพื่อความปลอดภัยของดาวเทียม เมื่อเกิดเหตุผิดปกติในลักษณะนี้ขึ้น ดาวเทียมจะปรับตัวเข้าไปอยู่ใน ระบบปลอดภัย (safe mode) อัตโนมัติ ซึ่งในกรณีนี้ ดาวเทียมได้หันตัวเองไปทางดวงอาทิตย์ ทำให้สัญญาณดาวเทียมขาดหายไป บริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขโดยปรับดาวเทียมไทยคม 5 ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ และเริ่มให้บริการได้เมื่อเวลาประมาณ 18.50 น. โดยสามารถให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาประมาณ 20.20 น.
สำหรับเหตุการณ์ ESD นี้ ดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดและดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้หลุดออกไปจากตำแหน่งวงโคจรที่ 78.5 องศาตะวันออก ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัทฯก็ได้นำสัญญาณโทรทัศน์หลักขึ้นดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) เป็นช่องสัญญาณสำรองด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ ESD ดังกล่าวไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก บริษัทฯได้มีมาตรการและกระบวนการจัดการตามมาตรฐานวิศวกรรม โดยมีความพร้อมที่จะทำให้ดาวเทียมกลับมาให้บริการได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
บริษัทฯขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับดาวเทียมไทยคม 5 นี้เป็นเหตุสุดวิสัยนอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ และบริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ดาวเทียมไทยคม 5 กลับมาให้บริการตามปกติได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถให้บริการได้ตามปกติแล้ว และบริษัทฯขอยืนยันว่าดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
สำหรับดาวเทียมไทยคม 5 เป็นดาวเทียมรุ่น Spacebus 3000A ผลิตโดยบริษัท ธาเลซ อาลิเนีย สเปซ แห่งประเทศฝรั่งเศส บริษัทฯส่งขึ้นสู่วงโคจรที่ 78.5 องศาตะวันออก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2549
**ปชป.บี้ไอซีทีเร่งบังคับคดีชินแซทฯ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะเป็นกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตนเคยเตือนแล้วว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นหากดาวเทียมที่รัฐบาลชุดก่อนได้อนุมัติให้บริษัทดังกล่าวยิงไปเป็นดาวเทียมสำรองซีแบนจริง แต่กลับใช้สิทธิสำรองในการยิงดาวเทียมหลัก คือดาวเทียมไอพีสตาร์ ซึ่งอยู่คนละคลื่นความถี่ของเคยูแบน และไม่สามารถใช้เป็นดาวเทียมสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงไอซีที เร่งบังคับตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้วินิจฉัยว่าการดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย และต้องเร่งแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวโดยด่วน
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการที่ทหารออกมาประกาศพร้อมปฏิบัติการภายใน 30 นาที - 1 ชั่วโมงว่า เป็นเหตุการณ์ตามปกติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องชัดเจนว่าการฝึกความพร้อมเป็นเรื่องภายในของกองทัพตามปกติ เพียงแต่มีความพยายามตีความให้คนรู้สึกไปในทางหนึ่งทางใด แต่ก็ต้องย้อนกลับไปดูว่ามูลเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการดำเนินการในเวทีนปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทำให้เกิดปฏิกริยาในวงกว้างต่อสังคมหรือไม่
**"เทือก"กร้าว!ไทยคมต้องรับผิดชอบ
นายสุเทพ เทือกสสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุจอทีวีดับ ซึ่งมีการชี้แจงจากทางรัฐบาลว่าดาวเทียมไทยคม ดวงที่ 5 มีปัญหาหลุดวงโคจร แต่ทางบริษัทดาวเทียมปฏิเสธว่าไม่ได้หลุดเพียงแต่มีปัญหาทางเทคนิคว่า ตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของบริษัทไทยคม ที่จะต้องชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเป็นผู้ให้บริการ เมื่อการให้บริการของเขาเกิดมีปัญหาขึ้นมาก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ เพราะทราบว่าขัดข้องอยู่หลายชั่วโมง ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีการผูกโยงกับการเมือง โดยเฉพาะลือกันสะพัดว่าจะมีการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนถึงบอกอยู่เสมอว่าเราต้องตั้งสติให้ดี อย่าไปเชื่อข่าวลือ ข่าวหลอกอะไรทั้งสิ้น คนที่เขาไม่ถูกกดดันจนหวั่นวิตก เขาก็ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ไม่ตื่นเต้นอะไร
ส่วนในงานด้านความมั่นคง หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาณดาวเทียม ใครจะมีอำนาจสั่งตัดสัญญาณได้บ้าง รัฐบาลหรือกองทัพทำได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีใครที่จะไปสั่งอย่างนั้น ตอนที่เกิดจราจลในบ้านเมืองตอนที่ทีวีแดงปลุกระดมประชาชน ตอนนั้นกอ.รมน.ได้เข้าไปกำกับดูแลเรื่องของการเชื่อมสัญญาณ ซึ่งอย่างนั้นเราทำเพื่อว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพราะใช้ทีวีไปปลุกระดม แต่ถ้าเป็นกรณีปกติอย่างนี้ ก็ไม่มีเหตุที่เราจะไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทไทยคม และไม่คิดที่จะไปดำเนินการอะไรกับเขา
**ปัดมีคนลองของกระแส“ปฏิวัติ”
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดเหตุอย่างนี้ ในอนาคตมีความเป็นหรือไม่ที่ประเทศไทยควรจะมีดาวเทียมอีกดวงสำรองไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน รองนายกฯ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะมีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางด้านเทคนิค ปัจจัยทางด้านการตลาด และดาวเทียมแต่ละดวงหากจะเอาขึ้นไปก็คงแพง และถ้าสร้างไปแล้วไม่มีคนใช้ก็ขาดทุน เมื่อถามว่าส่วนตัวเชื่อหรือไม่ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง หรือใครของรัฐบาล หรือลองเชิงความรู้สึกประชาชนหรือไม่ต่อกระแสปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนยืนยัน ก็พยายามพูดกันให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่ามีการลองเชิง ลองกระแส แต่ตนเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวพันกันแน่
“แต่เรื่องนี้ทางบริษัทไทยคมก็ควรจะชี้แจงออกมาให้ชัดเจน ไม่ควรจะปล่อยให้เป็นปัญหา ต้องไปชี้แจงกับประชาชนเลย เพราะเขาให้บริการสาธารณะอยู่แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมาชี้แจงกับรัฐบาล ชี้แจงกับประชาชนเลย”นายสุเทพ กล่าว
สำหรับบรรยากาศช่วงนี้รู้สึกจะอึมครึม นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมาโยงกันเป็นตุ เป็นตะได้ เมื่อถามต่อว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดมาแล้ว ทีวีเคยจอดับมาแล้ว ประชาชนเลยระแวง นายสุเทพ กล่าวว่า “ถ้าเกิดขึ้นจริง มันก็เกิดเลย มันไม่มีทดสอบหรอก”
**โยง3ปัญหาพวกสร้างสถานการณ์
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พบวิทยุชุมชนหลายแห่งปลุกระดมว่า มีการปฏิวัติ เรียกร้องระดมคนออกมา แต่กระแสนี้ยังจุดไม่ติด แต่เชื่อว่าจะมีความพยายามปลุกระดมคนออกมา หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่การปฏิวัติ แต่ก็พยายามโยงให้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ เพื่อให้คนบริสุทธิ์ออกมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ ก็จะเหมือนที่ประเทศตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และจะเป็นการกลบกระแสเรื่องการหมิ่นสถาบันฯได้ด้วย
ดังนั้นที่สำคัญคือ รัฐบาลต้องอดทน และอธิบายให้ประชาชนเข้าใจอย่างชัดเจนในทุกเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตูมเรื่องการปฏิวัติ เพราะการเมืองตอนนี้ไม่มีทางตัน ทางออกคือการเลือกตั้งที่จะถึงนี้
“เราต้องคิดว่าเหตุการณ์การยิงคนเสื้อแดงที่พัทยา ไม่ใช่เรื่องชั้นเดียว เชิงเดียว เพราะจากนั้นก็มีเหตุการณ์โทรทัศน์ดับ และจู่ๆ เช้าวันที่ 22 เม.ย. ก็เกิดเหตุการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ไม่ทราบว่าเกิดได้อย่างไร เป็นการรับกัน ร่วมสร้างสถานการณ์ต่างๆ ให้เกิดขึ้นรอบด้าน ไม่ทราบว่าใครทำ และทำเพื่ออะไร จึงน่าจับตามองว่า มีเบื้องหลังเพื่อให้เพิ่มสถานการณ์มากขึ้น ให้ดูว่าบ้านเมืองวุ่นวาย สับสน ดังนั้นคนไทยจะหลงไม่ได้ ต้องใจเย็น ใช้วิจารณญาณอ่านเกมที่เกิดขึ้น” นายบุญยอด กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างเหตุผลของการปฏิวัติ คือ การหมิ่นสถาบันฯ นายบุญยอด กล่าวว่า การปฏิวัติจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องมีการบ่มสถานการณ์ต่างๆ ให้มาก ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือบ้านเมืองไม่มีทางออกแล้ว คนจะฆ่ากันตาย การปฏิวัติจึงสำเร็จ แต่ขณะนี้บ้านเมืองมีทางออกแล้ว เพราะต้องเข้าใจว่าหากสถานการณ์ยังบ่มเพาะไม่ถึงขีดสุด การปฏิวัติกับกบฏก็จะไม่ต่างกันเลย ข้ามเส้นเพียงนิดเดียว ดังนั้น เรื่องปฏิวัติไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ถ้าถามวันนี้มีทางออกหรือไม่ ก็มีแล้ว คือ การที่นายกฯ ประกาศคืนอำนาจให้ประชาชน มีการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าไม่มีทางตันในสถานการณ์ปัจจุบัน
**ผบ.ทบ.ย้ำไม่ปฏิวัติ อัดพวกเสี้ยม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ช่วงที่ตนไม่อยู่ ไปปฏิบัติราชการ สปป.ลาว 2 วัน ก็ทราบข่าวลือว่าทหารเอากำลังออกมาจะปฏิวัติ เราไม่มีจุดมุ่งหมายทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ขออย่างเดียวอย่าให้ทุกฝ่ายดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องอย่าเอาทหารไปยุ่ง เกี่ยวกับอะไรพันกันไปหมด อย่าดึงทหารไปเกี่ยวกับการเมืองความขัดแย้ง มีอย่างเดียวทหารขออย่าให้ทุกฝ่ายดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของทหารเหมือนกับคนไทยทุกคน ในส่วนของทหารมีการเตรียมความพร้อมตามปกติของเราทุก 3เดือน จะมีการเตรียมพร้อมตามแนวชายแดนด้วย เป็นภารกิจของเขาอยู่แล้ว ต้องเตรียมให้พร้อมที่จะสั่งการได้ ไม่ได้หมายความว่าจะเตรียมกำลังทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ และอย่าทำอะไรให้บ้านเมืองยิ่งสับสน
อยากให้ประชาชนไปฟังดูว่าการที่ปลุกระดมเรื่องนี้ขึ้นมา การพูดจาแต่ละครั้งต้องให้ทหารเข้าไปเกี่ยวทุกครั้งไป แทนที่จะ ปล่อยให้ทหารได้ทำหน้าที่ของเขา อย่างวันนี้ก็มีปะทะกันตามแนวชายแดน มีการช่วยเหลือน้ำท่วม ส่วนตนสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีคนพยายามปลุกระดมเรื่องนี้ขึ้นมา พยายามทำให้ทุกอย่างเกิดความวุ่นวายมากที่สุดในบ้านเรา ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ต้องพิจารณาอย่าให้ทหารออกมาแก้ทุกครั้งไป ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบบที่ดีที่สุดแล้ว ทหารทุกคนก็ยอมรับ อาจจะมีใครบางคนไม่ยอมรับหรือเปล่า ถึงพยายามก่อเหตุวุ่นวาย ทบทวนกันเอา ทำอย่างไรจะให้เขาหยุดพูด ทำไงจะหยุดกล่าวอ้าง เรามีหน้าที่มากมาย
ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ ไม่อยากให้ไม่ไว้วางใจทหาร อีกหน่อยทหารก็ทำอะไรไม่ได้เลย จะตรวจความพร้อมรบก็ไม่ได้ จะเคลื่อนกำลังฝึกก็ไม่ได้ มองว่าทหารจะปฏิวัติไปทั้งหมด เรียนยืนยันอีกครั้งขออย่างเดียวอย่าไปละเมิดสถาบัน ขอแค่นี้ให้ไม่ได้หรือไงตนไม่เข้าใจ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.ระบุถึงข่าวลือรัฐประหารหลังดาวเทียมสื่อสารไทยคมเกิดปัญหาเรื่องการสื่อสารว่า “ก็เห็นลือมา 5 ปีแล้ว”
** “มาร์ค” เจออีก ป้าย “ดีแต่พูด”
อีกด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังบริษัทไทยวาโก้ จำกัด มหาชน เขตยานนาวา เพื่อบันทึกเทปรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” ทั้งนี้ก่อนที่ขบวนของนายกฯ จะเข้าไปที่โรงงานไทยวาโก้ ปรากฏว่า ได้มีหญิงสูงวัยสวมเสื้อแดงชูป้าย ซึ่งมีข้อความว่า “ดีแต่พูด” อยู่ข้างทาง แต่ไม่เกิดเหตุวุ่นวายใดๆ ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัยดูแลอารักขาเข้มทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ.
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.เวลา 15.00 น. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของบริษัท กสท โทรคมนาคมและวิศวกรของ บริษัท ไทยคม ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงกลาโหม และจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ร่วมประชุมหารือ เพื่อสรุปเหตุการณ์ที่ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดขัดข้องด้านเทคนิค เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธาน
นางจีราวรรณกล่าวหลังการประชุมว่า สาเหตุที่ดาวเทียมไทยคม 5 ที่เกิดขัดข้องทางเทคนิค โดยเบื้องต้นสรุปได้ว่าเกิดจากประจุไฟฟ้าสถิตในอวกาศที่เกิดขึ้นสูงทำให้ดาวเทียมขัดข้อง และหลังจากนี้จะต้องมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างดาวเทียมกับสถานีภาคพื้นดิน ซึ่งบริษัทไทยคมจะรวบรวมข้อมูลดังกล่าวส่งให้กับบริษัท ธาเลซ อาลิเนีย สเปซ ประเทศฝรั่งเศส ที่สร้างดาวเทียมไทยคม 5 วิเคราะห์หาสาเหตุการเกิดขัดข้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
สำหรับการประชุมครั้งนี้นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ให้ความเห็นว่าสาเหตุการขัดข้องของไทยคม 5 มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดจากโซลาร์แฟร์ หรือจุดดำในดวงอาทิตย์ ซึ่งครบรอบ 11 ปีในการระเบิด และเป็นช่วงเวลานี้พอดี ซึ่งเป็นไปได้ว่า การระเบิดของจุดดำในดวงอาทิตย์ได้หันหน้ามายังไทยคม 5 จึงทำให้เกิดประจุไฟฟ้าในปริมาณที่สูง แต่เรื่องนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนรายละเอียดต้องรอผลการวิเคราะห์ของธาเลซ อาลิเนีย สเปซผู้สร้างไทยคม 5 อีกครั้ง
'ขอยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญดาวเทียมของเทคโนโลยีมหานครเขาระบุว่าเท่าที่ดูข้อมูลสรุปจากทางวิชาการ ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดตามธรรมชาติ 70-80% ค่อนข้างจะแน่นอน และการที่ไทยคมชี้แจงเราไม่ได้เชื่อทั้งหมดจึงต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหารือ' ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าว
ส่วนวิธีการแก้ไขคงต้องรอบริษัทที่สร้างไทยคม 5 วิเคราะห์ข้อมูลออกมาก่อน แต่เบื้องต้นก็เป็นอย่างที่สรุปดังกล่าว และเมื่อเป็นภัยธรรมชาติคงไม่มีการแก้ไข แต่จะหาวิธีป้องกันหากเกิดขัดข้องในลักษณะนี้อีก ส่วนเรื่องความเสียหายเท่าที่ประเมินเบื้องต้นคือช่วงเวลา 3 ชั่วโมงที่จอทีวีดับ ยังไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายได้
และต้องรอให้ไทยคมไปหารือกับลูกค้าก่อน
ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า หากเกิดกรณีนี้ขึ้นอีกตามข้อตกลงผู้ให้บริการสัญญาณดาวเทียมนานาชาติ ผู้ให้บริการดาวเทียมจะขอใช้ดาวเทียมดวงที่อยู่ใกล้ดวงที่ขัดข้องรองรับการให้บริการไปก่อน แต่คงไม่ได้ทั้งหมด ส่วนดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) จะไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ เพราะไอพีสตาร์ช่องสัญญาณส่วนใหญ่เป็นความถี่ย่านเค-ยูแบนด์ และคณะกรรมการมาตรา 22ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนร่วมการงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ก็มีมติแล้วว่าไม่ใช่ดาวเทียมสำรอง เป็นดาวเทียมนอกสัมปทาน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมีการเจรจากันต่อไป
***เปิดแถลงการณ์ฉบับ 2 ไทยคม
บริษัท ไทยคม ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 กรณีดาวเทียมไทยคม 5 ประสบปัญหาเทคนิค เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาโดย บริษัท ไทยคม แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2554 ดาวเทียมไทยคม 5 เกิดความขัดข้องทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมได้ สาเหตุของปัญหาในครั้งนี้คาดว่าเกิดมาจากปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Electrostatic Discharge (ESD) จากประจุไฟฟ้าในอวกาศ เพื่อความปลอดภัยของดาวเทียม เมื่อเกิดเหตุผิดปกติในลักษณะนี้ขึ้น ดาวเทียมจะปรับตัวเข้าไปอยู่ใน ระบบปลอดภัย (safe mode) อัตโนมัติ ซึ่งในกรณีนี้ ดาวเทียมได้หันตัวเองไปทางดวงอาทิตย์ ทำให้สัญญาณดาวเทียมขาดหายไป บริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขโดยปรับดาวเทียมไทยคม 5 ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ และเริ่มให้บริการได้เมื่อเวลาประมาณ 18.50 น. โดยสามารถให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาประมาณ 20.20 น.
สำหรับเหตุการณ์ ESD นี้ ดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดและดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้หลุดออกไปจากตำแหน่งวงโคจรที่ 78.5 องศาตะวันออก ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัทฯก็ได้นำสัญญาณโทรทัศน์หลักขึ้นดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) เป็นช่องสัญญาณสำรองด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ ESD ดังกล่าวไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าและมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก บริษัทฯได้มีมาตรการและกระบวนการจัดการตามมาตรฐานวิศวกรรม โดยมีความพร้อมที่จะทำให้ดาวเทียมกลับมาให้บริการได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
บริษัทฯขอชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับดาวเทียมไทยคม 5 นี้เป็นเหตุสุดวิสัยนอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ และบริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ดาวเทียมไทยคม 5 กลับมาให้บริการตามปกติได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถให้บริการได้ตามปกติแล้ว และบริษัทฯขอยืนยันว่าดาวเทียมไทยคม 5 ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
สำหรับดาวเทียมไทยคม 5 เป็นดาวเทียมรุ่น Spacebus 3000A ผลิตโดยบริษัท ธาเลซ อาลิเนีย สเปซ แห่งประเทศฝรั่งเศส บริษัทฯส่งขึ้นสู่วงโคจรที่ 78.5 องศาตะวันออก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2549
**ปชป.บี้ไอซีทีเร่งบังคับคดีชินแซทฯ
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะเป็นกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตนเคยเตือนแล้วว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นหากดาวเทียมที่รัฐบาลชุดก่อนได้อนุมัติให้บริษัทดังกล่าวยิงไปเป็นดาวเทียมสำรองซีแบนจริง แต่กลับใช้สิทธิสำรองในการยิงดาวเทียมหลัก คือดาวเทียมไอพีสตาร์ ซึ่งอยู่คนละคลื่นความถี่ของเคยูแบน และไม่สามารถใช้เป็นดาวเทียมสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงไอซีที เร่งบังคับตามคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้วินิจฉัยว่าการดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย และต้องเร่งแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวโดยด่วน
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการที่ทหารออกมาประกาศพร้อมปฏิบัติการภายใน 30 นาที - 1 ชั่วโมงว่า เป็นเหตุการณ์ตามปกติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องชัดเจนว่าการฝึกความพร้อมเป็นเรื่องภายในของกองทัพตามปกติ เพียงแต่มีความพยายามตีความให้คนรู้สึกไปในทางหนึ่งทางใด แต่ก็ต้องย้อนกลับไปดูว่ามูลเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการดำเนินการในเวทีนปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทำให้เกิดปฏิกริยาในวงกว้างต่อสังคมหรือไม่
**"เทือก"กร้าว!ไทยคมต้องรับผิดชอบ
นายสุเทพ เทือกสสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุจอทีวีดับ ซึ่งมีการชี้แจงจากทางรัฐบาลว่าดาวเทียมไทยคม ดวงที่ 5 มีปัญหาหลุดวงโคจร แต่ทางบริษัทดาวเทียมปฏิเสธว่าไม่ได้หลุดเพียงแต่มีปัญหาทางเทคนิคว่า ตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของบริษัทไทยคม ที่จะต้องชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเป็นผู้ให้บริการ เมื่อการให้บริการของเขาเกิดมีปัญหาขึ้นมาก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ เพราะทราบว่าขัดข้องอยู่หลายชั่วโมง ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีการผูกโยงกับการเมือง โดยเฉพาะลือกันสะพัดว่าจะมีการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนถึงบอกอยู่เสมอว่าเราต้องตั้งสติให้ดี อย่าไปเชื่อข่าวลือ ข่าวหลอกอะไรทั้งสิ้น คนที่เขาไม่ถูกกดดันจนหวั่นวิตก เขาก็ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ไม่ตื่นเต้นอะไร
ส่วนในงานด้านความมั่นคง หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาณดาวเทียม ใครจะมีอำนาจสั่งตัดสัญญาณได้บ้าง รัฐบาลหรือกองทัพทำได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีใครที่จะไปสั่งอย่างนั้น ตอนที่เกิดจราจลในบ้านเมืองตอนที่ทีวีแดงปลุกระดมประชาชน ตอนนั้นกอ.รมน.ได้เข้าไปกำกับดูแลเรื่องของการเชื่อมสัญญาณ ซึ่งอย่างนั้นเราทำเพื่อว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพราะใช้ทีวีไปปลุกระดม แต่ถ้าเป็นกรณีปกติอย่างนี้ ก็ไม่มีเหตุที่เราจะไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทไทยคม และไม่คิดที่จะไปดำเนินการอะไรกับเขา
**ปัดมีคนลองของกระแส“ปฏิวัติ”
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดเหตุอย่างนี้ ในอนาคตมีความเป็นหรือไม่ที่ประเทศไทยควรจะมีดาวเทียมอีกดวงสำรองไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน รองนายกฯ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะมีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางด้านเทคนิค ปัจจัยทางด้านการตลาด และดาวเทียมแต่ละดวงหากจะเอาขึ้นไปก็คงแพง และถ้าสร้างไปแล้วไม่มีคนใช้ก็ขาดทุน เมื่อถามว่าส่วนตัวเชื่อหรือไม่ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง หรือใครของรัฐบาล หรือลองเชิงความรู้สึกประชาชนหรือไม่ต่อกระแสปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนยืนยัน ก็พยายามพูดกันให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่ามีการลองเชิง ลองกระแส แต่ตนเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวพันกันแน่
“แต่เรื่องนี้ทางบริษัทไทยคมก็ควรจะชี้แจงออกมาให้ชัดเจน ไม่ควรจะปล่อยให้เป็นปัญหา ต้องไปชี้แจงกับประชาชนเลย เพราะเขาให้บริการสาธารณะอยู่แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมาชี้แจงกับรัฐบาล ชี้แจงกับประชาชนเลย”นายสุเทพ กล่าว
สำหรับบรรยากาศช่วงนี้รู้สึกจะอึมครึม นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมาโยงกันเป็นตุ เป็นตะได้ เมื่อถามต่อว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดมาแล้ว ทีวีเคยจอดับมาแล้ว ประชาชนเลยระแวง นายสุเทพ กล่าวว่า “ถ้าเกิดขึ้นจริง มันก็เกิดเลย มันไม่มีทดสอบหรอก”
**โยง3ปัญหาพวกสร้างสถานการณ์
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พบวิทยุชุมชนหลายแห่งปลุกระดมว่า มีการปฏิวัติ เรียกร้องระดมคนออกมา แต่กระแสนี้ยังจุดไม่ติด แต่เชื่อว่าจะมีความพยายามปลุกระดมคนออกมา หากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่การปฏิวัติ แต่ก็พยายามโยงให้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ เพื่อให้คนบริสุทธิ์ออกมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ ก็จะเหมือนที่ประเทศตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และจะเป็นการกลบกระแสเรื่องการหมิ่นสถาบันฯได้ด้วย
ดังนั้นที่สำคัญคือ รัฐบาลต้องอดทน และอธิบายให้ประชาชนเข้าใจอย่างชัดเจนในทุกเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตูมเรื่องการปฏิวัติ เพราะการเมืองตอนนี้ไม่มีทางตัน ทางออกคือการเลือกตั้งที่จะถึงนี้
“เราต้องคิดว่าเหตุการณ์การยิงคนเสื้อแดงที่พัทยา ไม่ใช่เรื่องชั้นเดียว เชิงเดียว เพราะจากนั้นก็มีเหตุการณ์โทรทัศน์ดับ และจู่ๆ เช้าวันที่ 22 เม.ย. ก็เกิดเหตุการณ์การยิงปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ไม่ทราบว่าเกิดได้อย่างไร เป็นการรับกัน ร่วมสร้างสถานการณ์ต่างๆ ให้เกิดขึ้นรอบด้าน ไม่ทราบว่าใครทำ และทำเพื่ออะไร จึงน่าจับตามองว่า มีเบื้องหลังเพื่อให้เพิ่มสถานการณ์มากขึ้น ให้ดูว่าบ้านเมืองวุ่นวาย สับสน ดังนั้นคนไทยจะหลงไม่ได้ ต้องใจเย็น ใช้วิจารณญาณอ่านเกมที่เกิดขึ้น” นายบุญยอด กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างเหตุผลของการปฏิวัติ คือ การหมิ่นสถาบันฯ นายบุญยอด กล่าวว่า การปฏิวัติจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องมีการบ่มสถานการณ์ต่างๆ ให้มาก ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือบ้านเมืองไม่มีทางออกแล้ว คนจะฆ่ากันตาย การปฏิวัติจึงสำเร็จ แต่ขณะนี้บ้านเมืองมีทางออกแล้ว เพราะต้องเข้าใจว่าหากสถานการณ์ยังบ่มเพาะไม่ถึงขีดสุด การปฏิวัติกับกบฏก็จะไม่ต่างกันเลย ข้ามเส้นเพียงนิดเดียว ดังนั้น เรื่องปฏิวัติไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ถ้าถามวันนี้มีทางออกหรือไม่ ก็มีแล้ว คือ การที่นายกฯ ประกาศคืนอำนาจให้ประชาชน มีการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าไม่มีทางตันในสถานการณ์ปัจจุบัน
**ผบ.ทบ.ย้ำไม่ปฏิวัติ อัดพวกเสี้ยม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ช่วงที่ตนไม่อยู่ ไปปฏิบัติราชการ สปป.ลาว 2 วัน ก็ทราบข่าวลือว่าทหารเอากำลังออกมาจะปฏิวัติ เราไม่มีจุดมุ่งหมายทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ขออย่างเดียวอย่าให้ทุกฝ่ายดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องอย่าเอาทหารไปยุ่ง เกี่ยวกับอะไรพันกันไปหมด อย่าดึงทหารไปเกี่ยวกับการเมืองความขัดแย้ง มีอย่างเดียวทหารขออย่าให้ทุกฝ่ายดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของทหารเหมือนกับคนไทยทุกคน ในส่วนของทหารมีการเตรียมความพร้อมตามปกติของเราทุก 3เดือน จะมีการเตรียมพร้อมตามแนวชายแดนด้วย เป็นภารกิจของเขาอยู่แล้ว ต้องเตรียมให้พร้อมที่จะสั่งการได้ ไม่ได้หมายความว่าจะเตรียมกำลังทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ และอย่าทำอะไรให้บ้านเมืองยิ่งสับสน
อยากให้ประชาชนไปฟังดูว่าการที่ปลุกระดมเรื่องนี้ขึ้นมา การพูดจาแต่ละครั้งต้องให้ทหารเข้าไปเกี่ยวทุกครั้งไป แทนที่จะ ปล่อยให้ทหารได้ทำหน้าที่ของเขา อย่างวันนี้ก็มีปะทะกันตามแนวชายแดน มีการช่วยเหลือน้ำท่วม ส่วนตนสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่มีคนพยายามปลุกระดมเรื่องนี้ขึ้นมา พยายามทำให้ทุกอย่างเกิดความวุ่นวายมากที่สุดในบ้านเรา ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ต้องพิจารณาอย่าให้ทหารออกมาแก้ทุกครั้งไป ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบบที่ดีที่สุดแล้ว ทหารทุกคนก็ยอมรับ อาจจะมีใครบางคนไม่ยอมรับหรือเปล่า ถึงพยายามก่อเหตุวุ่นวาย ทบทวนกันเอา ทำอย่างไรจะให้เขาหยุดพูด ทำไงจะหยุดกล่าวอ้าง เรามีหน้าที่มากมาย
ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ ไม่อยากให้ไม่ไว้วางใจทหาร อีกหน่อยทหารก็ทำอะไรไม่ได้เลย จะตรวจความพร้อมรบก็ไม่ได้ จะเคลื่อนกำลังฝึกก็ไม่ได้ มองว่าทหารจะปฏิวัติไปทั้งหมด เรียนยืนยันอีกครั้งขออย่างเดียวอย่าไปละเมิดสถาบัน ขอแค่นี้ให้ไม่ได้หรือไงตนไม่เข้าใจ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.ระบุถึงข่าวลือรัฐประหารหลังดาวเทียมสื่อสารไทยคมเกิดปัญหาเรื่องการสื่อสารว่า “ก็เห็นลือมา 5 ปีแล้ว”
** “มาร์ค” เจออีก ป้าย “ดีแต่พูด”
อีกด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังบริษัทไทยวาโก้ จำกัด มหาชน เขตยานนาวา เพื่อบันทึกเทปรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” ทั้งนี้ก่อนที่ขบวนของนายกฯ จะเข้าไปที่โรงงานไทยวาโก้ ปรากฏว่า ได้มีหญิงสูงวัยสวมเสื้อแดงชูป้าย ซึ่งมีข้อความว่า “ดีแต่พูด” อยู่ข้างทาง แต่ไม่เกิดเหตุวุ่นวายใดๆ ขณะที่ทีมรักษาความปลอดภัยดูแลอารักขาเข้มทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ.