xs
xsm
sm
md
lg

ไทยดันส่งออกอาหารปีนี้โต8% หลังโลกร้อนทำผลผลิตเสียหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”คาดส่งออกสินค้าอาหารปีนี้โต 8% หลังตลาดโลกต้องการเพิ่มจากปัญหาโลกร้อนทำผลผลิตเสียหาย ด้านเอกชนไม่กล้าตั้งเป้าสูง หวั่นเกิดภัยธรรมชาติบ่อย อาจมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปีนี้ คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออกเกินเป้าหมายที่กำหนด หรือขยายตัวมากกว่า 8% จากมูลค่าการส่งออกปีที่แล้วประมาณ 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นผลมาจากผู้ส่งออกไทยสามารถส่งออกอาหารได้มูลค่าสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปริมาณที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดโลกมีความต้องการสินค้าอาหารจำนวนมาก ในขณะที่ผลผลิตอาหารของโลกมีความผันผวนจากภาวะโลกร้อน จึงทำให้ผู้ส่งออกไทยสามารถปรับราคาขึ้นได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อยอดขาย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการโปรโมตสินค้าอาหารของไทย กรมฯ ได้ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญ เมสเซ จัดงานแสดงสินค้าอาหาร 2554 หรือไทยเฟกต์ ระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี คาดว่าจะมีการซื้อขายภายในงานไม่ต่ำกว่าปีที่แล้วหรือมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศสัดส่วน 50/50 เข้าร่วมงานรวม 1,000 บริษัท 2,600 คูหาซึ่งจะสามารถดึงดูดผู้ซื้อจากทั่วโลกให้มาร่วมงานได้อย่างมากแน่นอน

นายวิกรานต์ โกมลบุตร ผู้อำนวยการสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารสำเร็จรูปของไทยในปีนี้ สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายการส่งออกที่มูลค่าประมาณ 150,000 ล้านบาท ขยายตัวประมาณ 7% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีมูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก ยังคงเป็นทูน่ากระป๋อง ข้าวโพดหวานกระป๋องและสับปะรดกระป๋อง และยังมีผัก ผลไม้กระป๋อง และแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป เป็นต้น

สำหรับปัญหาและอุปสรรคการส่งออกในปีนี้ ได้แก่ ภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ที่ทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรเสียหาย และในบางช่วงอาจทำให้การแปรรูปขาดตอน ส่วนราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการผลิต และการขนส่งสูงขึ้น ซึ่งกำลังประเมินว่าจะมีผลให้ต้นทุนสินค้าไทยเพิ่มขึ้นเท่าไรและจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายกับลูกค้าต่างประเทศหรือไม่ เพราะการปรับขึ้นราคาอาจทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อได้ทันที ขณะที่ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ผู้ส่งออกเริ่มชิน และปรับตัวได้แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาข้อกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (เอ็นทีบี) ที่ประเทศคู่ค้าใช้กับสินค้าไทย เช่น สหภาพยุโรปใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) กับข้าวโพดหวานกระป๋องไทย กฎระเบียบการจับสัตว์ทะเลของสหรัฐฯ ที่จะต้องติดเครื่องมือแยกเต่าทะเล (TEDs) ปัญหาสุขอนามัยและสารตกค้าง เป็นต้น

“ปีนี้ไม่อยากตั้งตัวเลขการส่งออกสูงเกินไป เพราะอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีปัญหาภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยมาก และคาดการณ์ไม่ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น และผลผลิตทางการเกษตรจะเสียหายมากน้อยแค่ไหน เป้าหมายขยายตัวที่ 7% คิดว่าเป็นไปได้แน่นอน ส่วนคู่แข่งที่มาแรงจะเป็นเวียดนาม และจีน เพราะราคาถูก แต่คุณภาพยังสู้ไทยไม่ได้ ซึ่งจีนเองยังมีสั่งนำเข้าจากไทยเพราะคนจีนอยากกินอาหารคุณภาพดีๆ จากไทย ถือว่า อาหารไทยในจีนขายดีมาก จนมีสินค้าบางอย่างถูกคนจีนลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เช่น ทำปลอมน้ำปลาทิพรส น้ำจิ้มไก่ เป็นต้น” นายวิกรานต์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น