ASTVผู้จัดการรายวัน – ออนไลน์บูมสุดขีด ถึงเวลาลงทุน “โอกิลวี่” ผุดหน่วยงานออนไลน์เสริมแกร่ง เชื่อ สมาร์ทโฟนมาแรง พร้อมจัดทัพทีมผู้บริหารใหม่ชูผู้หญิงล้วน มั่นใจทั้งปีเติบโต8% ฟันธงเลือกตั้งใหม่เสริมบรรยากาศการจับจ่ายดีขึ้น
นางพรรณี ชัยกุล ประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย จำกัด และกรรมการผู้จัดการโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางกลุ่มโอกิลวี่ ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน รวมทั้งนำเอาเครื่องมือใหม่มาใช้เพื่อปูทางให้บริษัทมีการเติบโตที่ดีขึ้น เน้นสร้างความแตกต่างและสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลัก คือ Twin Peaks ในการสร้างสรรค์งานสื่อสารตามเป้าหมาย เน้น 2 องค์ประกอบหลัก คือ ประสิทธิภาพ และ ความสร้างสรรค์
สำหรับทีมผู้บริหารใหม่นั้น ประกอบด้วย 6 บริษัทในเครือ ได้แก่ นางพรรณี ชัยกุล ประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง, นางสาวจิรวรา วีรยวรรธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ พับลิครีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด, นางสาวยุพิน มินซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ แอ็คชั่น,
นางสาว มัวรีน ตัน การ์ ลิงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ กรุงเทพฯ, นางสาว วรรณรมัย เอื้อทวีกุล ผู้จัดการทั่วไป โซโห สแควร์ สาขาของบริษัท ดับบลิวพีพี ประเทศไทย จำกัด และ นางสาว โซวีนาร์ บาสซิล กรรมการผู้จัดการ The Brand Union Bangkok
ขณะเดียวกันในปีนี้ ทางกลุ่มยังได้มีการนำเสนอเครื่องมือทางการตลาดใหม่ เรียกว่า Fusion เป็นเครื่องมือล่าสุดที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของทุกบริษัทในกลุ่ม โดยช่วยให้เอเยนซี่สามารถระบุปัญหาหรือประเด็นสำคัญทางธุรกิจของลูกค้าได้ว่าเป็นอะไร รวมถึงสำรวจและทำความเข้าใจถึง Customer Journeys ตลอดจนมีการวัดผลอย่างมีระบบ
ที่สำคัญในปีนี้ทางกลุ่มได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น หลังพบว่าสื่อออนไลน์เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งทิศทางของการเติบโตจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะในส่วนของ สมาร์ทโฟน และโซเชียลมีเดียต่างๆ
ดังนั้นปีนี้ทางกลุ่มจะมีการลงทุนเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านออนไลน์เข้ามาเสริมทัพให้แก่ทุกบริษัทในเครือ ซึ่งมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน
นางพรรณี กล่าวต่อว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 12-15% เพราะช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาการเติบโตอยู่ที่ 12% ทั้งนี้การเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น อาจจะส่งผลทางอ้อมให้กับภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา เนื่องจากเป็นช่วงที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายดีขึ้น ลูกค้าเองก็มองเห็นโอกาสในการที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่กันมากขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มโอกิลวี่เองนั้น สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 8% เท่าปีก่อน โดยรายได้กว่า 70% ยังมาจากโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นหลัก ซึ่งปีนี้ในส่วนนี้จะเติบโต 8% ส่วนรายได้รวมที่เหลืออีกกว่า 40% นั้น มาจากบริษัทอื่นๆรวมกัน ขณะที่กลุ่มลูกค้ากว่า 70% เป็นลูกค้าในประเทศ และอีก 30% เป็นต่างชาติ
นางพรรณี ชัยกุล ประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย จำกัด และกรรมการผู้จัดการโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางกลุ่มโอกิลวี่ ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน รวมทั้งนำเอาเครื่องมือใหม่มาใช้เพื่อปูทางให้บริษัทมีการเติบโตที่ดีขึ้น เน้นสร้างความแตกต่างและสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลัก คือ Twin Peaks ในการสร้างสรรค์งานสื่อสารตามเป้าหมาย เน้น 2 องค์ประกอบหลัก คือ ประสิทธิภาพ และ ความสร้างสรรค์
สำหรับทีมผู้บริหารใหม่นั้น ประกอบด้วย 6 บริษัทในเครือ ได้แก่ นางพรรณี ชัยกุล ประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง, นางสาวจิรวรา วีรยวรรธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ พับลิครีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด, นางสาวยุพิน มินซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่ แอ็คชั่น,
นางสาว มัวรีน ตัน การ์ ลิงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ กรุงเทพฯ, นางสาว วรรณรมัย เอื้อทวีกุล ผู้จัดการทั่วไป โซโห สแควร์ สาขาของบริษัท ดับบลิวพีพี ประเทศไทย จำกัด และ นางสาว โซวีนาร์ บาสซิล กรรมการผู้จัดการ The Brand Union Bangkok
ขณะเดียวกันในปีนี้ ทางกลุ่มยังได้มีการนำเสนอเครื่องมือทางการตลาดใหม่ เรียกว่า Fusion เป็นเครื่องมือล่าสุดที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของทุกบริษัทในกลุ่ม โดยช่วยให้เอเยนซี่สามารถระบุปัญหาหรือประเด็นสำคัญทางธุรกิจของลูกค้าได้ว่าเป็นอะไร รวมถึงสำรวจและทำความเข้าใจถึง Customer Journeys ตลอดจนมีการวัดผลอย่างมีระบบ
ที่สำคัญในปีนี้ทางกลุ่มได้ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น หลังพบว่าสื่อออนไลน์เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งทิศทางของการเติบโตจะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะในส่วนของ สมาร์ทโฟน และโซเชียลมีเดียต่างๆ
ดังนั้นปีนี้ทางกลุ่มจะมีการลงทุนเพิ่มบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านออนไลน์เข้ามาเสริมทัพให้แก่ทุกบริษัทในเครือ ซึ่งมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน
นางพรรณี กล่าวต่อว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 12-15% เพราะช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาการเติบโตอยู่ที่ 12% ทั้งนี้การเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น อาจจะส่งผลทางอ้อมให้กับภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา เนื่องจากเป็นช่วงที่ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายดีขึ้น ลูกค้าเองก็มองเห็นโอกาสในการที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่กันมากขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มโอกิลวี่เองนั้น สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 8% เท่าปีก่อน โดยรายได้กว่า 70% ยังมาจากโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นหลัก ซึ่งปีนี้ในส่วนนี้จะเติบโต 8% ส่วนรายได้รวมที่เหลืออีกกว่า 40% นั้น มาจากบริษัทอื่นๆรวมกัน ขณะที่กลุ่มลูกค้ากว่า 70% เป็นลูกค้าในประเทศ และอีก 30% เป็นต่างชาติ