ASTVผู้จัดการรายวัน- เผยโฉม 4 ผู้สมัครชิงดำผู้นำปตท. คนใหม่แทนบิ๊กไฝ คนใน 3 คน ตามคาด”เทวินทร์- ไพรินทร์-สุรงค์" ขณะที่คนนอกไม่ยอมเผยตัว วงในยันไม่มีรายชื่อ "กรพจน์-ภูษณ" เตรียมเรียกสัมภาษณ์สัปดาห์หน้าก่อนชงบอร์ดเคาะภายใน 1 เดือน
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า จากการออกประกาศรับสมัครบุคคลที่ประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-21 เมษายน 2554 มีผู้ที่ยื่นสมัครทั้งสิ้น 4 คน เป็นคนใน 3 คน ได้แก่ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) และ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนคนนอก 1 คนไม่ประสงค์จะเปิดเผยรายชื่อ
สำหรับขั้นตอนนับจากนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการคัดเลือกผู้สมัครที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนว่าเป็นไปตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ หลังจากนั้น ให้ผู้สมัครแต่ละคนแสดงวิสัยทัศน์และให้คะแนนอย่างโปร่งใสโดยจะเรียกสัมภาษณ์ในสัปดาห์หน้าและหลังจากนั้นจะเสนอบอร์ดใน 1 เดือนโดยจะเสนอบอร์ดปตท.ให้พิจารณาทั้ง4รายตามคะแนนสูงสุดจนถึงต่ำสุด
“ ยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งจากทางการเมืองในการสรรหา ขอให้มั่นใจที่ผ่านมา ตนเคยเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. คนปัจจุบัน และครั้งนั้น ทุกอย่างโปร่งใส ส่วนระยะเวลาการสรรหาจะเสร็จสิ้นเมื่อใดยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับระยะเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละคน”นายไกรฤทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวถึงการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ที่จะเข้ามาแทนนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ปัจจุบันที่จะเกษียณในเดือนก.ย.นี้โดยมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาแทรกจนทำให้กระแสคนนอกปตท.มาแรงโดยเฉพาะนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ,และนายภูษณ ปรีย์มาโนช ที่วงในระบุความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะผู้กุมบังเหียนกระทรวงพลังงานตัวจริงแต่ปรากฏว่าแหล่งข่าววงในยืนยันว่าไม่มีรายชื่อทั้งสองคนแต่อย่างใดตรงกับที่ทั้งสองออกมาปฏิเสธแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนตัวเต็งจากคนในปตท.มีกระแสว่า นายประเสริฐพยายามผลักดันนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของปตท.ขึ้นมาแทน โดยนายเทวินทร์ได้พยายามเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ ด้วยการเข้าหากองบรรธณาธิการสื่อหลายฉบับโดยเฉพาะหัวสี ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นายสุวัจน์ไม่พอใจ อย่างไรก็ตามกระแสการต่อต้านคนนอกของปตท.คาดว่าการเมืองคงจะเลือกเน้นคนในเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการบริหาร
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวว่า การสรรหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.คนใหม่ ยังคาดหวังว่า ผู้ได้รับคัดเลือกจะเป็นคนใน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพราะการที่ ปตท. เป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการทำงานที่เป็นทีม บุคคลภายในจึงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะเข้ามารับหน้าที่ได้ โดยคนในมีการสมัครมากกว่า 1 คน ถือว่า เป็นเรื่องปกติ ในอดีตก็มีการแข่งขันเช่นนี้
“สุดท้ายเมื่อใครได้รับการคัดเลือก การแข่งขันก็จะยุติ ทุกฝ่ายจะสามัคคีบริหารงาน ปตท. ต่อไป อย่างไรก็ตาม ภาระหนักของผู้บริหารคนใหม่ คงหนีไม่พ้นการบริหาร ปตท. อย่างไรให้เกิดผลตอบแทนกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้สมดุล ทั้งผู้ถือหุ้น รัฐบาล และสังคม โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาพลังงานสูง และ ปตท. ต้องเข้ามาร่วมตรึงราคาพลังงาน”นายประเสริฐกล่าว
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนตัดสินใจสมัครชิงตำแหน่งCEOปตท. เพราะมีความพร้อม และเป็นหน้าที่ในฐานะที่ทำงานในเครือปตท.มานาน 22 ปี จึงต้องการนำความรู้ความสามารถที่มีสะสมมานำพาปตท.ก้าวหน้าต่อไป พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับปตท. เนื่องจากปตท.เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อประเทศ โดยตนพร้อมที่จะสานต่อภาระกิจที่CEOคนปัจจุบันได้วางรากฐานไว้
ที่ผ่านมา นายเทวินทร์ทำงานในปตท.สผ.มานาน 15 ปี ก่อนที่จะถูกดึงเข้ามาทำงานในปตท.7 ปี และในช่วง 2 ปีนี้ได้ทำงานในตำแหน่งCFO ทำให้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท. จึงตระหนักว่าตำแหน่งนี้เป็นงานที่ท้าทาย ต้องทำงานประสานกับผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน
ในอนาคตปตท.จำเป็นต้องมีการขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนด้านอัพสตรีม และการซื้อกิจการ ซึ่งตนมีประสบการณ์ด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพราะทำงานในปตท.สผ.มานาน รวมทั้งความรู้ด้านการเงิน แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกCEO คนใหม่ขึ้นกับอยู่คณะกรรมการสรรรหาฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารปตท.ที่ลงสมัครชิงCEOอีก 2 ท่าน มีความรู้ความสามารถเช่นกัน เนื่องจากผ่านการทำงานในองค์กรปตท. ซึ่งท่านเหล่่านี้ก็พร้อมที่สานต่องานในองค์กรที่วางไว้
นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า จากการออกประกาศรับสมัครบุคคลที่ประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-21 เมษายน 2554 มีผู้ที่ยื่นสมัครทั้งสิ้น 4 คน เป็นคนใน 3 คน ได้แก่ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) และ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนคนนอก 1 คนไม่ประสงค์จะเปิดเผยรายชื่อ
สำหรับขั้นตอนนับจากนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการคัดเลือกผู้สมัครที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคนว่าเป็นไปตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ หลังจากนั้น ให้ผู้สมัครแต่ละคนแสดงวิสัยทัศน์และให้คะแนนอย่างโปร่งใสโดยจะเรียกสัมภาษณ์ในสัปดาห์หน้าและหลังจากนั้นจะเสนอบอร์ดใน 1 เดือนโดยจะเสนอบอร์ดปตท.ให้พิจารณาทั้ง4รายตามคะแนนสูงสุดจนถึงต่ำสุด
“ ยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งจากทางการเมืองในการสรรหา ขอให้มั่นใจที่ผ่านมา ตนเคยเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. คนปัจจุบัน และครั้งนั้น ทุกอย่างโปร่งใส ส่วนระยะเวลาการสรรหาจะเสร็จสิ้นเมื่อใดยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับระยะเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละคน”นายไกรฤทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวถึงการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ที่จะเข้ามาแทนนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ปัจจุบันที่จะเกษียณในเดือนก.ย.นี้โดยมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาแทรกจนทำให้กระแสคนนอกปตท.มาแรงโดยเฉพาะนายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ,และนายภูษณ ปรีย์มาโนช ที่วงในระบุความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะผู้กุมบังเหียนกระทรวงพลังงานตัวจริงแต่ปรากฏว่าแหล่งข่าววงในยืนยันว่าไม่มีรายชื่อทั้งสองคนแต่อย่างใดตรงกับที่ทั้งสองออกมาปฏิเสธแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนตัวเต็งจากคนในปตท.มีกระแสว่า นายประเสริฐพยายามผลักดันนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของปตท.ขึ้นมาแทน โดยนายเทวินทร์ได้พยายามเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ ด้วยการเข้าหากองบรรธณาธิการสื่อหลายฉบับโดยเฉพาะหัวสี ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นายสุวัจน์ไม่พอใจ อย่างไรก็ตามกระแสการต่อต้านคนนอกของปตท.คาดว่าการเมืองคงจะเลือกเน้นคนในเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการบริหาร
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวว่า การสรรหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.คนใหม่ ยังคาดหวังว่า ผู้ได้รับคัดเลือกจะเป็นคนใน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพราะการที่ ปตท. เป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการทำงานที่เป็นทีม บุคคลภายในจึงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะเข้ามารับหน้าที่ได้ โดยคนในมีการสมัครมากกว่า 1 คน ถือว่า เป็นเรื่องปกติ ในอดีตก็มีการแข่งขันเช่นนี้
“สุดท้ายเมื่อใครได้รับการคัดเลือก การแข่งขันก็จะยุติ ทุกฝ่ายจะสามัคคีบริหารงาน ปตท. ต่อไป อย่างไรก็ตาม ภาระหนักของผู้บริหารคนใหม่ คงหนีไม่พ้นการบริหาร ปตท. อย่างไรให้เกิดผลตอบแทนกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้สมดุล ทั้งผู้ถือหุ้น รัฐบาล และสังคม โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาพลังงานสูง และ ปตท. ต้องเข้ามาร่วมตรึงราคาพลังงาน”นายประเสริฐกล่าว
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนตัดสินใจสมัครชิงตำแหน่งCEOปตท. เพราะมีความพร้อม และเป็นหน้าที่ในฐานะที่ทำงานในเครือปตท.มานาน 22 ปี จึงต้องการนำความรู้ความสามารถที่มีสะสมมานำพาปตท.ก้าวหน้าต่อไป พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับปตท. เนื่องจากปตท.เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อประเทศ โดยตนพร้อมที่จะสานต่อภาระกิจที่CEOคนปัจจุบันได้วางรากฐานไว้
ที่ผ่านมา นายเทวินทร์ทำงานในปตท.สผ.มานาน 15 ปี ก่อนที่จะถูกดึงเข้ามาทำงานในปตท.7 ปี และในช่วง 2 ปีนี้ได้ทำงานในตำแหน่งCFO ทำให้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ปตท. จึงตระหนักว่าตำแหน่งนี้เป็นงานที่ท้าทาย ต้องทำงานประสานกับผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน
ในอนาคตปตท.จำเป็นต้องมีการขยายงานไปต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนด้านอัพสตรีม และการซื้อกิจการ ซึ่งตนมีประสบการณ์ด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพราะทำงานในปตท.สผ.มานาน รวมทั้งความรู้ด้านการเงิน แต่ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกCEO คนใหม่ขึ้นกับอยู่คณะกรรมการสรรรหาฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารปตท.ที่ลงสมัครชิงCEOอีก 2 ท่าน มีความรู้ความสามารถเช่นกัน เนื่องจากผ่านการทำงานในองค์กรปตท. ซึ่งท่านเหล่่านี้ก็พร้อมที่สานต่องานในองค์กรที่วางไว้
