ASTVผู้จัดการรายวัน- "เพื่อแม้ว" ส่อเค้าแตกยับ หลัง"จิ๋ว" ลาออก "สุพล" ทิ้งเก้าอี้เลขาฯ "เด็กจิ๋ว-ศิษย์เก่าวังน้ำเย็น-สายอีดี้จวบ-เจ๊มิ่ง" เตรียมเผ่นตาม "ชิงชัย" คึก เผยความหวังใหม่ยินดีต้อนรับ ด้านปชป.ยุส่ง ให้ตั้งพรรคใหม่มาสู้กัน "เทพไท" เสี้ยมส.ส.เพื่อไทยร่วมกันลงชื่อ ยื่นคำขาดให้"แม้ว" เลิกจุ้น เพราะจะทำให้ถูกยุบพรรค
ภายหลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 20 เม.ย.) ได้มีนายไชยยงค์ รัตนวัน อ้างว่าเป็นเลขานุการส่วนตัวของ พล.อ.ชวลิต ได้ส่งเอกสารแถลงการณ์ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ของ พล.อ.ชวลิต กว่า 10 หน้า ผ่านทางอีเมล์ มายังสื่อมวลชน โดยระบุถึงเหตุที่พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจลาออกว่า เป็นเพราะมีความขัดแย้งเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ได้มีการตกลงกันไว้ ก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่มีความละเอียดอ่อน
ทั้งนี้ นายไชยยงค์ รัตนวัน ซึ่งอ้างตัวเป็นเลขานุการส่วนตัว พล.อ.ชวลิต ได้แจกจ่ายคำแถลงการณ์เรื่อง พล.อ.ชวลิต ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ให้กับสื่อมวลชนที่รัฐสภา พร้อมอ้างว่า พล.อ.ชวลิต ไม่สามารถแถลงข้อเท็จจริงได้ด้วยตัวเอง จึงได้มอบหมายให้ดำเนินการแทน สาระสำคัญเป็นการเรียกร้องให้คนไทยทุกฝ่าย มาร่วมปฏิบัติตามภารกิจเพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ และราชบัลลังก์ที่เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต ก็ได้รับการปฏิเสธว่า หนังสือดังกล่าวว่าไม่ได้เป็นคำแถลงการณ์ของ พล.อ.ชวลิต และไม่ทราบว่านาย ไชยยงค์ เป็นใคร
พล.อ.ชวลิต ในขณะนี้ยังต้องการเก็บตัวก่อน ส่วนจะออกมาแถลงการณ์เมื่อใดนั้นยังไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าพล.อ.ชวลิต จะออกมาชี้แจงถึงเหตุผลการลาออกจากพรรคเพื่อไทย ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
**"เสธ.หมึก" เผย "นาย"จะชี้แจงอาทิตย์นี้
ด้านพล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ หรือ เสธ.หมึก นายทหารคนสนิทพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของปลอม ซึ่งมีคนส่งเอกสารดังกล่าวมาให้ พล.อ.ชวลิต ดูแล้ว และกำลังคิดกันอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่พล.อ.ชวลิต ก็ไม่ได้เครียดอะไร ยังพูดติดตลกว่า ไม่เคยมีเลขาฯส่วนตัวเป็นผู้ชาย ส่วนเหตุผลการลาออก รวมถึงกระแสข่าวต่างๆนั้น ขอเวลา 3-4 วัน พล.อ.ชวลิต จะออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง รอให้ฝุ่นจางลงก่อน คาดว่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.นี้ ส่วนสถานที่ และเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
**"สุพล" ทิ้งเก้าอี้เลขาฯเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสุพล ฟองงาม ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผลจากการที่ ส.ส.เพื่อไทย ทะยอยยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมตัวลงสมัครับเลือกตั้ง และป้องกันการถูกร้องยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง เป็นผลให้ขณะนี้เหลือกรรมการบริหารพรรค 7 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้มีตำแหน่งเป็น ส.ส. เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค นายวรวีร์ มะกูดี กรรมการบริหารพรรค เป็นต้น ยกเว้นพล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.สัดส่วน ที่ยังอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
**ตั้งพรรคใหม่หรือไม่ 23 เม.ย.รู้กัน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การลาออกของพล.อ.ชวลิตนั้น ต้องยอมรับว่ามีผลกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยในด้านขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนกับขาดแม่ทัพในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภาคใต้ที่ พล.อ.ชวลิต เคยระบุว่าจะนำส.ส.เข้าสู่สภาให้ได้ 7-8 คน ขณะที่ภาคอีสาน แม้ว่าพล.อ.ชวลิต จะสร้างแนวคิดและองค์กรให้ดำเนินงานต่อไปได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมือนกับการที่ท่านมาช่วยงานด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพล.อ.ชวลิต ตั้งพรรคการเมืองใหม่จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออกตามไปหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า ถ้าจะตั้งพรรคใหม่ก็ต้องดูว่า จะทำให้ประชาชนและฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะได้อย่างไร ต้องให้เวลาพล.อ.ชวลิต ตัดสินใจ ขณะนี้มีแต่กระแสข่าวเท่านั้น คงต้องรอฟังจากปากท่านเอง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าก่อนวันที่ 23 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย จะแถลงนโยบายหาเสียงของพรรคนั้น ทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจน
**เย้ย "จิ๋ว"ลาออกเพราะวืดตัวเก็งนายกฯ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในแกนนำ นปช. กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกเพราะผิดหวังที่ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคตามที่หวังไว้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีท่าทีชัดเจน ว่าจะสนับสนุนคนใกล้ตัว จึงเข้าข่ายคนแก่อกหัก มากกว่า
นายก่อแก้ว กล่าวว่า ตนนั่งฟังการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ก็ไม่เห็นว่ามีจุดไหนที่พาดพิง หรือหมิ่นสถาบันฯ แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง นปช. กับทหาร เป็นเพราะทหารเข้ามายุ่งกับการเมือง และหาทางที่จะช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ โดยโจมตีจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านมีจุดอ่อนน้อย จึงมุ่งไปที่จุดอ่อนของคนเสื้อแดงมากกว่า ซึ่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครั้งนี้ ต้องเดินควบคู่กัน ระหว่างเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นแล้วว่ากลไกในสภา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่เมื่อแกนนำเสื้อแดงจะไปลงสมัคร ส.ส. ก็ต้องยึดเวทีของพรรคเป็นหลัก เพราะเวทีของเสื้อแดง มีการร้องรำทำเพลง ซึ่งอาจจะหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
"มวลชนคนเสื้อแดงก็เป็นมวลชนของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อย่าเหนียมกันอีกเลย เพราะหากต่อต้าน หรือไม่เห็นด้วยกับแกนนำเสื้อแดง ก็เท่ากับว่า ไม่เอามวลชนคนเสื้อแดงเหมือนกัน จริงๆ แล้วเมื่อเราถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน หากเป็นพวกเดียวกัน ก็ควรที่จะออกมาช่วยเหลือ ปกป้องกัน ไม่ใช่มากระทืบซ้ำ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เป็นภาพที่ไม่ดี และไม่น่าเกิดขึ้น จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทย ควรจะขอบคุณนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยืนเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันมาตลอด ถ้าไม่มีนายจตุพร ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยถูกยุบไปกี่ครั้งแล้ว" นายก่อแก้วกล่าว
**"จิ๋ว"ออกเพราะแก้ละเมิดสถาบันฯไม่ได้
พล.ต.ศรชัย มนตรีวัต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะนักการเมืองคนสนิทของพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ให้นายไชยยงค์ รัตนวัน ทำแถลงการณ์เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลในการลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยตอนนี้ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด ภายหลังลาอออกจากพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงขอปฎิเสธกระแสข่าวว่า จะไปตั้งพรรคการเมืองด้วย โดยตอนนี้พล.อ.ชวลิต จะขอยุติบทบาทเป็นการชั่วคราวก่อน
"การลาออกของพล.อ.ชวลิต ทุกครั้งมีเหตุมีผล มีการไตร่ตรองรอบคอบ เช่น เมื่อสมัยลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ทั้งที่มีอายุราชการอีก 3 ปี เพราะเวลานั้นท่านได้วางแนวทางให้กับกองทัพเอาไว้หมดแล้ว และควรเปิดโอกาสให้รุ่นน้องขึ้นมาทำหน้าที่แทน เช่นเดียวกับ กรณี 7 ตุลา 51 ก็เพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ได้สั่งควบคุมการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิต" พล.ต.ศรชัย กล่าว
สำหรับการลาออกครั้งนี้ เป็นเพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ โดยการตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยครั้งแรกเพื่อต้องการเอาตัวเองเข้าเป็นหลักประกันว่า พรรคเพื่อไทยมีความจงรักภักดี แต่เมื่อเข้าไปแล้วแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจลาออก
"การทำพรรคการเมือง มีความจำเป็นที่ต้องมีมวลชนให้การสนับสนุน แต่ในบางกรณีก็ต้องแยกแยะออกมาบ้าง ไม่ใช่เอาไปรวมกันหมด ส่วนที่พรรคจะตัดสินใจให้แกนนำคนเสื้อแดง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของพรรค พล.อ.ชวลิตไม่ขอเกี่ยวข้อง" พล.ต.ศรชัย กล่าว
เมื่อถามว่า สาเหตุการลาออกเพราะถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ลดบทบาทจนไมได้รับการเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.ต.ศรชัย กล่าวว่า ไม่ได้มาจากเหตุผลดังกล่าว แต่เพราะเห็นว่าเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ควรแสดงความรับผิดชอบ และที่สำคัญตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่าจะให้ใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่กระทบต่อสถาบันฯ
**ควม.อ้าแขนรับ"จิ๋ว-เหนาะ-มิ่ง"
นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ชวลิต จะกลับมายึดหัวหาดที่พรรคความหวังใหม่ แต่ยอมรับว่าสายสัมพันธ์ยังดี และพรรคความหวังใหม่ยินดีต้อนรับ ทั้ง พล.อ.ชวลิต นายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หากจะมาร่วมงานกัน และยอมรับแนวนโยบายของพรรค คือ รัฐบาลแห่งชาติ ต้องมีกำลังอำนาจสูงสุด ไม่ใช่รัฐบาลฉบับนักการเมือง
**ศิษย์เก่าวังน้ำเย็น-อีดี้จวบ ซบจิ๋ว
รายงานข่าวแจ้งจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า มีการรวบรวม ส.ส. และอดีต ส.ส.เพื่อไปร่วมงานกับพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ ผ่านทางสายสัมพันธ์ที่เคยร่วมงานกันมา อาทิ อดีตพรรคเสรีธรรมของนายประจวบ ไชยสาส์น ที่มี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย เป็นตัวหลักในการเจรจา และอดีตลิ่วล้อกลุ่มวังน้ำเย็น ของนายเสนาะ อาทิ นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นต้น รวมถึงอดีตส.ส.พรรคความหวังใหม่ อาทิ นายไพจิต ศรีวรขาน นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังมีการทาบทาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย
โดยมีนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ประสานรวบรวมรายชื่อ
**ปชป.จี้"จิ๋ว"เคลียร์ความสับสน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ชวลิต จะออกมาร่วมตั้งพรรคการเมืองร่วมกับ นายเสนาะ เทียนทอง ว่า ตนยังวิจารณ์ไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นเลยว่าท่านจะตั้งพรรคใหม่ หรือไม่ตั้ง แต่ตนยืนยันว่า ยินดีต้อนรับทุกคนทุกพรรคการเมือง ถ้าใครเสนอตัวมาให้ประชาชนได้พิจารณาให้เป็นตัวแทนของประชาชนในการทำหน้าที่ทางการเมือง
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าพล.อ.ชวลิต ลาออกเพราะอะไร ทำให้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา โดยเฉพาะการที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า เป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต ถูกบีบคั้นอย่างหนัก จนต้องลาออกไป ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่บีบคั้นคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ที่เป็นถึงอดีตนายกฯ
การลาออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ จากการที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดพาดพิงจวบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้ พล.อ.ชวลิต นึกถึงคำของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่กล่าวเตือนก่อนที่จะเข้าพรรคเพื่อไทย ว่า ให้ระวังจะเป็นคนทรยศต่อชาติ
ตนอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต ออกมาพูดเพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมใน 6 ประเด็น คือ
1. มีการลาออกจริงหรือไม่ เพื่อลบข้อครหาว่าหนังสือลาออกยื่นโดยเลขานุการส่วนตัว นั้นเป็นของปลอม และไม่ใช่ความสมัครใจของ พล.อ.ชวลิต
2. ต้องออกมาตอบคำถามว่า การลาออกครั้งนี้ ถูกบีบบังคับจริงหรือไม่ และหากมี ใครเป็นผู้บีบบังคับ
3. ต้องออกมาแก้ข้อกล่าวหาว่าที่ลาออกเพราะผิดหวังในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ
4. เพื่อลบข้อกล่าวหาของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าการลาออกของ พล.อ.ชวลิต เป็นเรื่องปกติธรรมดา จนเรียกกันทั่วไปว่า "พ่อใหญ่ลา"
5. ต้องตอบคำถามนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ที่กล่าวหาว่า พล.อ.ชวลิต ไม่มีเหตุผลในการลาออก และไม่เกี่ยวกับการปราศรัยของนายจตุพร เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวกับการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
6. เพื่อตอบคำถาม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ว่า พล.อ.ชวลิต ลาออกเพียงคนเดียว คงไม่มีผู้ใดลาออกตาม และตกอยู่ในฐานะหัวเดียวกระเทียมลีบ
** ยุ "จิ๋ว"ตั้งพรรคใหม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการจับมือกัน ระหว่าง พล.อ.ชวลิต นายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เพื่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ และจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออกตามมา 20-30 คน ว่า หากข่าวนี้เป็นเรื่องจริง ก็น่ายินดี และควรรีบดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับการยุบสภา และการเลือกตั้งใหม่ อย่างน้อยการตั้งพรรคดังกล่าว จะมีผลดีใน 3 ประการ คือ
1. เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น 2. เป็นการรักษาหน้าของนายเสนาะ ที่ได้ไปชูมือนายมิ่งขวัญ และประกาศให้เป็นนายกฯ คนต่อไปในงานวันเกิดของตัวเอง และ 3. เพื่อลบคำสบประมาทจากคนเพื่อไทยบางคน ที่บอกว่า ไม่มี ส.ส.คนใดลาออกตามไป เพราะกลัวจะสอบตก
ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น พรรคเพื่อไทย เตรียมจะชูนายกฯหญิงคนแรกของประเทศ เพื่อใช้ในการหาเสียง เหมือนกับ นางมาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายกฯอังกฤษ และนางอินธิรา คานธี อดีตนายกฯ อินเดียนั้น นายเทพไท กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยเร่งประกาศตัวออกมาให้ชัดเจน เพราะการแข่งขันทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย สวมเสื้อแดงรดน้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านวิดีโอลิ้งค์มาแล้ว ก็ควรออกมาแสดงตัวให้ชัดเจน อย่าให้ลิ่วล้อออกมาพูดโฆษณาด้วยความสนุกปาก ซึ่งยิ่งใกล้เลือกตั้ง ก็จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยควรมีความชัดเจนในเรื่องนี้ เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ
** เสี้ยมส.ส.บอกให้"แม้ว"เลิกจุ้น
นายเทพไท กล่าวว่า ตนอยากให้สังคมจับตามองความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะประกาศผ่านวิดีโอลิ้งค์มาเปิดนโยบาย และเปิดตัวผู้สมัครทั้งหมดของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะในขณะนี้คนในเพื่อไทยกำลังหวั่นไหวกับบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้ามาแทรกแซงบงการ และอาจนำไปสู่การยุบพรรคในอนาคตได้ จนทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องลาออกเกือบหมด
" ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยจาก ส.ส.บางส่วน มีการลงชื่อเพื่อคัดค้านไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาจุ้นจ้านในพรรคต่อไป จนเกิดความระส่ำระสายอย่างรุนแรง อีกทั้งท่อน้ำเลี้ยง ก็ไหลกระปริบกระปรอย จนทำให้สมาชิกบางส่วน บ่นหากลุ่มทุน และสปอนเซอร์ของตัวเองที่ชัดเจน เพราะยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แต่ยังไม่มีนายทุน ยิ่งสร้างความว้าเหว่ และความไม่มั่นใจให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย กับกลุ่ม นปช. ว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง ที่มีการชิงดีชิงเด่น และช่วงชิงการนำภายในองค์กร ระหว่างกลุ่ม นปช.ในฐานะที่มีมวลชนเป็นของตัวเอง ก็หวังเข้าเทกโอเวอร์พรรคเพื่อไทย จนทำให้สมาชิกบางคนรู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดจากกลุ่ม นปช.ได้ เพราะพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคขาลอย ไม่มีฐานมวลชน จึงอิงฐานเสียงสนับสนุนจากกลุ่มนปช. จนมีการเรียกร้องให้ทำงานในลักษณะคู่ขนาน ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว
ภายหลังจากที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 20 เม.ย.) ได้มีนายไชยยงค์ รัตนวัน อ้างว่าเป็นเลขานุการส่วนตัวของ พล.อ.ชวลิต ได้ส่งเอกสารแถลงการณ์ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ของ พล.อ.ชวลิต กว่า 10 หน้า ผ่านทางอีเมล์ มายังสื่อมวลชน โดยระบุถึงเหตุที่พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจลาออกว่า เป็นเพราะมีความขัดแย้งเกี่ยวกับเงื่อนไขที่ได้มีการตกลงกันไว้ ก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับสถาบันฯ ที่มีความละเอียดอ่อน
ทั้งนี้ นายไชยยงค์ รัตนวัน ซึ่งอ้างตัวเป็นเลขานุการส่วนตัว พล.อ.ชวลิต ได้แจกจ่ายคำแถลงการณ์เรื่อง พล.อ.ชวลิต ลาออกจากพรรคเพื่อไทย ให้กับสื่อมวลชนที่รัฐสภา พร้อมอ้างว่า พล.อ.ชวลิต ไม่สามารถแถลงข้อเท็จจริงได้ด้วยตัวเอง จึงได้มอบหมายให้ดำเนินการแทน สาระสำคัญเป็นการเรียกร้องให้คนไทยทุกฝ่าย มาร่วมปฏิบัติตามภารกิจเพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ และราชบัลลังก์ที่เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต ก็ได้รับการปฏิเสธว่า หนังสือดังกล่าวว่าไม่ได้เป็นคำแถลงการณ์ของ พล.อ.ชวลิต และไม่ทราบว่านาย ไชยยงค์ เป็นใคร
พล.อ.ชวลิต ในขณะนี้ยังต้องการเก็บตัวก่อน ส่วนจะออกมาแถลงการณ์เมื่อใดนั้นยังไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าพล.อ.ชวลิต จะออกมาชี้แจงถึงเหตุผลการลาออกจากพรรคเพื่อไทย ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
**"เสธ.หมึก" เผย "นาย"จะชี้แจงอาทิตย์นี้
ด้านพล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ หรือ เสธ.หมึก นายทหารคนสนิทพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของปลอม ซึ่งมีคนส่งเอกสารดังกล่าวมาให้ พล.อ.ชวลิต ดูแล้ว และกำลังคิดกันอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่พล.อ.ชวลิต ก็ไม่ได้เครียดอะไร ยังพูดติดตลกว่า ไม่เคยมีเลขาฯส่วนตัวเป็นผู้ชาย ส่วนเหตุผลการลาออก รวมถึงกระแสข่าวต่างๆนั้น ขอเวลา 3-4 วัน พล.อ.ชวลิต จะออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง รอให้ฝุ่นจางลงก่อน คาดว่าจะเป็นวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.นี้ ส่วนสถานที่ และเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
**"สุพล" ทิ้งเก้าอี้เลขาฯเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสุพล ฟองงาม ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผลจากการที่ ส.ส.เพื่อไทย ทะยอยยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมตัวลงสมัครับเลือกตั้ง และป้องกันการถูกร้องยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง เป็นผลให้ขณะนี้เหลือกรรมการบริหารพรรค 7 คน โดยทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้มีตำแหน่งเป็น ส.ส. เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค นายวรวีร์ มะกูดี กรรมการบริหารพรรค เป็นต้น ยกเว้นพล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.สัดส่วน ที่ยังอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
**ตั้งพรรคใหม่หรือไม่ 23 เม.ย.รู้กัน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การลาออกของพล.อ.ชวลิตนั้น ต้องยอมรับว่ามีผลกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยในด้านขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนกับขาดแม่ทัพในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภาคใต้ที่ พล.อ.ชวลิต เคยระบุว่าจะนำส.ส.เข้าสู่สภาให้ได้ 7-8 คน ขณะที่ภาคอีสาน แม้ว่าพล.อ.ชวลิต จะสร้างแนวคิดและองค์กรให้ดำเนินงานต่อไปได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมือนกับการที่ท่านมาช่วยงานด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพล.อ.ชวลิต ตั้งพรรคการเมืองใหม่จะมีส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออกตามไปหรือไม่ นายไพจิต กล่าวว่า ถ้าจะตั้งพรรคใหม่ก็ต้องดูว่า จะทำให้ประชาชนและฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะได้อย่างไร ต้องให้เวลาพล.อ.ชวลิต ตัดสินใจ ขณะนี้มีแต่กระแสข่าวเท่านั้น คงต้องรอฟังจากปากท่านเอง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าก่อนวันที่ 23 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย จะแถลงนโยบายหาเสียงของพรรคนั้น ทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจน
**เย้ย "จิ๋ว"ลาออกเพราะวืดตัวเก็งนายกฯ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในแกนนำ นปช. กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกเพราะผิดหวังที่ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคตามที่หวังไว้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีท่าทีชัดเจน ว่าจะสนับสนุนคนใกล้ตัว จึงเข้าข่ายคนแก่อกหัก มากกว่า
นายก่อแก้ว กล่าวว่า ตนนั่งฟังการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ก็ไม่เห็นว่ามีจุดไหนที่พาดพิง หรือหมิ่นสถาบันฯ แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง นปช. กับทหาร เป็นเพราะทหารเข้ามายุ่งกับการเมือง และหาทางที่จะช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ โดยโจมตีจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านมีจุดอ่อนน้อย จึงมุ่งไปที่จุดอ่อนของคนเสื้อแดงมากกว่า ซึ่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครั้งนี้ ต้องเดินควบคู่กัน ระหว่างเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทย เพราะเห็นแล้วว่ากลไกในสภา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่เมื่อแกนนำเสื้อแดงจะไปลงสมัคร ส.ส. ก็ต้องยึดเวทีของพรรคเป็นหลัก เพราะเวทีของเสื้อแดง มีการร้องรำทำเพลง ซึ่งอาจจะหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
"มวลชนคนเสื้อแดงก็เป็นมวลชนของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อย่าเหนียมกันอีกเลย เพราะหากต่อต้าน หรือไม่เห็นด้วยกับแกนนำเสื้อแดง ก็เท่ากับว่า ไม่เอามวลชนคนเสื้อแดงเหมือนกัน จริงๆ แล้วเมื่อเราถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน หากเป็นพวกเดียวกัน ก็ควรที่จะออกมาช่วยเหลือ ปกป้องกัน ไม่ใช่มากระทืบซ้ำ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เป็นภาพที่ไม่ดี และไม่น่าเกิดขึ้น จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทย ควรจะขอบคุณนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยืนเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันมาตลอด ถ้าไม่มีนายจตุพร ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยถูกยุบไปกี่ครั้งแล้ว" นายก่อแก้วกล่าว
**"จิ๋ว"ออกเพราะแก้ละเมิดสถาบันฯไม่ได้
พล.ต.ศรชัย มนตรีวัต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะนักการเมืองคนสนิทของพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ไม่ได้ให้นายไชยยงค์ รัตนวัน ทำแถลงการณ์เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลในการลาออกจากพรรคเพื่อไทย โดยตอนนี้ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่อย่างใด ภายหลังลาอออกจากพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงขอปฎิเสธกระแสข่าวว่า จะไปตั้งพรรคการเมืองด้วย โดยตอนนี้พล.อ.ชวลิต จะขอยุติบทบาทเป็นการชั่วคราวก่อน
"การลาออกของพล.อ.ชวลิต ทุกครั้งมีเหตุมีผล มีการไตร่ตรองรอบคอบ เช่น เมื่อสมัยลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ทั้งที่มีอายุราชการอีก 3 ปี เพราะเวลานั้นท่านได้วางแนวทางให้กับกองทัพเอาไว้หมดแล้ว และควรเปิดโอกาสให้รุ่นน้องขึ้นมาทำหน้าที่แทน เช่นเดียวกับ กรณี 7 ตุลา 51 ก็เพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ได้สั่งควบคุมการชุมนุมจนมีผู้เสียชีวิต" พล.ต.ศรชัย กล่าว
สำหรับการลาออกครั้งนี้ เป็นเพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ โดยการตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยครั้งแรกเพื่อต้องการเอาตัวเองเข้าเป็นหลักประกันว่า พรรคเพื่อไทยมีความจงรักภักดี แต่เมื่อเข้าไปแล้วแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจลาออก
"การทำพรรคการเมือง มีความจำเป็นที่ต้องมีมวลชนให้การสนับสนุน แต่ในบางกรณีก็ต้องแยกแยะออกมาบ้าง ไม่ใช่เอาไปรวมกันหมด ส่วนที่พรรคจะตัดสินใจให้แกนนำคนเสื้อแดง ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของพรรค พล.อ.ชวลิตไม่ขอเกี่ยวข้อง" พล.ต.ศรชัย กล่าว
เมื่อถามว่า สาเหตุการลาออกเพราะถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ลดบทบาทจนไมได้รับการเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.ต.ศรชัย กล่าวว่า ไม่ได้มาจากเหตุผลดังกล่าว แต่เพราะเห็นว่าเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ควรแสดงความรับผิดชอบ และที่สำคัญตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่าจะให้ใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่กระทบต่อสถาบันฯ
**ควม.อ้าแขนรับ"จิ๋ว-เหนาะ-มิ่ง"
นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ชวลิต จะกลับมายึดหัวหาดที่พรรคความหวังใหม่ แต่ยอมรับว่าสายสัมพันธ์ยังดี และพรรคความหวังใหม่ยินดีต้อนรับ ทั้ง พล.อ.ชวลิต นายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หากจะมาร่วมงานกัน และยอมรับแนวนโยบายของพรรค คือ รัฐบาลแห่งชาติ ต้องมีกำลังอำนาจสูงสุด ไม่ใช่รัฐบาลฉบับนักการเมือง
**ศิษย์เก่าวังน้ำเย็น-อีดี้จวบ ซบจิ๋ว
รายงานข่าวแจ้งจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า มีการรวบรวม ส.ส. และอดีต ส.ส.เพื่อไปร่วมงานกับพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ ผ่านทางสายสัมพันธ์ที่เคยร่วมงานกันมา อาทิ อดีตพรรคเสรีธรรมของนายประจวบ ไชยสาส์น ที่มี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย เป็นตัวหลักในการเจรจา และอดีตลิ่วล้อกลุ่มวังน้ำเย็น ของนายเสนาะ อาทิ นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นต้น รวมถึงอดีตส.ส.พรรคความหวังใหม่ อาทิ นายไพจิต ศรีวรขาน นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังมีการทาบทาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย
โดยมีนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ประสานรวบรวมรายชื่อ
**ปชป.จี้"จิ๋ว"เคลียร์ความสับสน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ชวลิต จะออกมาร่วมตั้งพรรคการเมืองร่วมกับ นายเสนาะ เทียนทอง ว่า ตนยังวิจารณ์ไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นเลยว่าท่านจะตั้งพรรคใหม่ หรือไม่ตั้ง แต่ตนยืนยันว่า ยินดีต้อนรับทุกคนทุกพรรคการเมือง ถ้าใครเสนอตัวมาให้ประชาชนได้พิจารณาให้เป็นตัวแทนของประชาชนในการทำหน้าที่ทางการเมือง
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จนถึงบัดนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าพล.อ.ชวลิต ลาออกเพราะอะไร ทำให้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา โดยเฉพาะการที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า เป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต ถูกบีบคั้นอย่างหนัก จนต้องลาออกไป ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ที่บีบคั้นคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ที่เป็นถึงอดีตนายกฯ
การลาออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ จากการที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดพาดพิงจวบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้ พล.อ.ชวลิต นึกถึงคำของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่กล่าวเตือนก่อนที่จะเข้าพรรคเพื่อไทย ว่า ให้ระวังจะเป็นคนทรยศต่อชาติ
ตนอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต ออกมาพูดเพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมใน 6 ประเด็น คือ
1. มีการลาออกจริงหรือไม่ เพื่อลบข้อครหาว่าหนังสือลาออกยื่นโดยเลขานุการส่วนตัว นั้นเป็นของปลอม และไม่ใช่ความสมัครใจของ พล.อ.ชวลิต
2. ต้องออกมาตอบคำถามว่า การลาออกครั้งนี้ ถูกบีบบังคับจริงหรือไม่ และหากมี ใครเป็นผู้บีบบังคับ
3. ต้องออกมาแก้ข้อกล่าวหาว่าที่ลาออกเพราะผิดหวังในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ
4. เพื่อลบข้อกล่าวหาของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าการลาออกของ พล.อ.ชวลิต เป็นเรื่องปกติธรรมดา จนเรียกกันทั่วไปว่า "พ่อใหญ่ลา"
5. ต้องตอบคำถามนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. ที่กล่าวหาว่า พล.อ.ชวลิต ไม่มีเหตุผลในการลาออก และไม่เกี่ยวกับการปราศรัยของนายจตุพร เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวกับการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
6. เพื่อตอบคำถาม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ว่า พล.อ.ชวลิต ลาออกเพียงคนเดียว คงไม่มีผู้ใดลาออกตาม และตกอยู่ในฐานะหัวเดียวกระเทียมลีบ
** ยุ "จิ๋ว"ตั้งพรรคใหม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องการจับมือกัน ระหว่าง พล.อ.ชวลิต นายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เพื่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ และจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออกตามมา 20-30 คน ว่า หากข่าวนี้เป็นเรื่องจริง ก็น่ายินดี และควรรีบดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ทันกับการยุบสภา และการเลือกตั้งใหม่ อย่างน้อยการตั้งพรรคดังกล่าว จะมีผลดีใน 3 ประการ คือ
1. เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น 2. เป็นการรักษาหน้าของนายเสนาะ ที่ได้ไปชูมือนายมิ่งขวัญ และประกาศให้เป็นนายกฯ คนต่อไปในงานวันเกิดของตัวเอง และ 3. เพื่อลบคำสบประมาทจากคนเพื่อไทยบางคน ที่บอกว่า ไม่มี ส.ส.คนใดลาออกตามไป เพราะกลัวจะสอบตก
ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น พรรคเพื่อไทย เตรียมจะชูนายกฯหญิงคนแรกของประเทศ เพื่อใช้ในการหาเสียง เหมือนกับ นางมาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายกฯอังกฤษ และนางอินธิรา คานธี อดีตนายกฯ อินเดียนั้น นายเทพไท กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยเร่งประกาศตัวออกมาให้ชัดเจน เพราะการแข่งขันทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย สวมเสื้อแดงรดน้ำ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านวิดีโอลิ้งค์มาแล้ว ก็ควรออกมาแสดงตัวให้ชัดเจน อย่าให้ลิ่วล้อออกมาพูดโฆษณาด้วยความสนุกปาก ซึ่งยิ่งใกล้เลือกตั้ง ก็จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับสังคม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยควรมีความชัดเจนในเรื่องนี้ เหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ
** เสี้ยมส.ส.บอกให้"แม้ว"เลิกจุ้น
นายเทพไท กล่าวว่า ตนอยากให้สังคมจับตามองความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะประกาศผ่านวิดีโอลิ้งค์มาเปิดนโยบาย และเปิดตัวผู้สมัครทั้งหมดของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะในขณะนี้คนในเพื่อไทยกำลังหวั่นไหวกับบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เข้ามาแทรกแซงบงการ และอาจนำไปสู่การยุบพรรคในอนาคตได้ จนทำให้กรรมการบริหารพรรคต้องลาออกเกือบหมด
" ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวภายในพรรคเพื่อไทยจาก ส.ส.บางส่วน มีการลงชื่อเพื่อคัดค้านไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาจุ้นจ้านในพรรคต่อไป จนเกิดความระส่ำระสายอย่างรุนแรง อีกทั้งท่อน้ำเลี้ยง ก็ไหลกระปริบกระปรอย จนทำให้สมาชิกบางส่วน บ่นหากลุ่มทุน และสปอนเซอร์ของตัวเองที่ชัดเจน เพราะยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แต่ยังไม่มีนายทุน ยิ่งสร้างความว้าเหว่ และความไม่มั่นใจให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทย"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย กับกลุ่ม นปช. ว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง ที่มีการชิงดีชิงเด่น และช่วงชิงการนำภายในองค์กร ระหว่างกลุ่ม นปช.ในฐานะที่มีมวลชนเป็นของตัวเอง ก็หวังเข้าเทกโอเวอร์พรรคเพื่อไทย จนทำให้สมาชิกบางคนรู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ไม่สามารถตัดขาดจากกลุ่ม นปช.ได้ เพราะพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคขาลอย ไม่มีฐานมวลชน จึงอิงฐานเสียงสนับสนุนจากกลุ่มนปช. จนมีการเรียกร้องให้ทำงานในลักษณะคู่ขนาน ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว