ASTVผู้จัดการรายวัน-"รองโรมานอฟ" ยัน "เพื่อแม้ว-เสื้อแดง" ยังต้องปฏิบัติการคู่ขนานกันไป ไม่ได้ถูกสั่งตัดหาง เผย"ทักษิณ"รู้แล้วจิ๋วออก แต่ไม่รั้งไว้ ด้าน"บิ๊กจิ๋ว" เตรียมแถลงเปิดใจเร็วๆ นี้ เผยเหตุลาออก หลังถกเครียดกับส.ส.อีสาน-ทหารแก่ พบ"แก๊งหางแดง"ไม่หยุดจาบจ้วงเบื้องสูง ด้านปชป.ยุส่งให้ส.ส.ลาออกตาม
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพียงแต่ทราบข้อมูลจากการรายงานข่าวทางโทรทัศน์เท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายกับการลาออกของพล.อ.ชวลิต เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้ง แต่คงต้องมีการปรับแนวทาง โดยในวันเสาร์ที่ 23 เม.ย.นี้ จะมีการแถลงเปิดตัวผู้สมัครส.ส. และนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้ก็มีความพร้อม 95เปอร์เซ็นต์แล้ว
เมื่อถามว่าที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศให้แยกบทบาทของพรรคเพื่อไทยออกจากการชุมนุมคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยต้องแยกจากกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยังมีจุดร่วมเดียวกัน คือ เรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้ยอมรับว่าคนส่วนใหญ่หลังจากมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยต้องไปขึ้นเวทีปราศรัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้ ส่วนช่วงเลือกตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติความเคลื่อนไหวหรือไม่ ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าหากแกนนำคนเสื้อแดงถูกส่งลงเลือกตั้ง จะแยกบทบาทออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างไร พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครว่าหากลงสนามเลือกตั้งแล้ว ต้องปฏิบัติตนเองอย่างไร ต้องแยกแยะ เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีปัญหา
เมื่อถามย้ำว่า หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุให้แยกบทบาทของพรรคเพื่อไทยออกจากกลุ่มคนเสื้อแดง จะกลายเป็นความขัดแย้งหรือไม่ เพราะเหมือนกับส่งสัญญาณว่า ให้พรรคเพื่อไทยโดดเดี่ยวคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้บอกว่าให้แยกกันเด็ดขาด แต่บอกว่าเป็นกลุ่มคนที่ประสงค์อย่างเดียวกัน คือ ความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียว ดังนั้น ต้องมีการทำงานคู่ขนาน แต่ต้องแยกบทบาทให้ดี ทั้งนี้ ยอมรับว่าคนเสื้อแดงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผู้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และกลุ่มที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยที่ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่าหากเพื่อไทยแยกออกจากคนเสื้อแดงจะกระทบฐานเสียงหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะหลักการเพื่อไทยต้องรณรงค์การเลือกตั้ง เสนอสิ่งที่ดีกว่าให้ประชาชนเลือก
ส่วนกรณีที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายออกไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะมีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มาย้ายเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยเช่นกัน แต่หากจะให้เป็นไปตามมารยาททางการเมืองแล้ว ทั้ง 2 พรรคไม่ควรจะรับไว้ เพราะจุดยืนของพรรคแตกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
**"แม้ว"รู้แล้วแต่ไม่เหนี่ยวรั้ง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบแล้วว่า พล.อ.ชวลิต ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยเคารพในการตัดสินใจของพล.อ.ชวลิต ส่วนจะมีการเชิญชวนให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองคงมีการพูดคุยกันภายหลังจากนี้ ยืนยันว่าคนในพรรคเพื่อไทย ยังเคารพ และไม่เคยรู้สึกในทางลบกับพล.อ.ชวลิต และมีความยินดี หากพล.อ.ชวลิต จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช อาจไม่เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น ตนได้พูดคุยกับบุตรชายของนายเสนาะ เมื่อวานนี้ ก็ยังคงยืนยันว่าจะเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง
**"เติ้ง"บอก"จิ๋ว" กลุ้มใจหลายเรื่อง
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต คงกลุ้มใจเพราะหลายเรื่องเกิดขึ้นมากในพรรค แต่ตนยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ชวลิต จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการลาออก แต่พล.อ.ชวลิต ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไปหมดแล้ว โดยบอกว่าเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ดื่มน้ำพิพัฒนสัตยา จึงต้องรักและเทิดทูนสถาบันฯ
เมื่อถามว่า การลาออกของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังมองไปไม่ถึง เพราะยังไม่รู้ว่าคนที่จะลงสมัครส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นใคร จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้
*"จิ๋ว" เตรียมชี้แจงเหตุทิ้ง"เพื่อแม้ว"
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะส.ส.ที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากนี้ไปต้องรอคอยดูไปอีกสัปดาห์ ว่า พล.อ.ชวลิต จะดำเนินแนวทางต่อไปอย่างไร จะยุติบทบาททางการเมือง หรือตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ เพราะหากพล.อ.ชวลิตไปตั้งพรรคใหม่จริง ก็อาจมีผลต่อการตัดสินใจ และมีส.ส.อีสานบางส่วนขยับตาม ส่วนจะมีใครตามไปบ้าง ก็ต้องคอยติดตามดูต่อไป
เมื่อถามถึงสาเหตุการตัดสินใจลาออกของ พล.อ.ชวลิต ครั้งนี้ ลึกๆ เป็นอย่างไร นายไพจิต กล่าวว่า ตลอดที่พล.อ.ชวลิต เข้ามาทำงานกับพรรคเพื่อไทย ก็มุ่งมั่นที่จะแก้ไขความขัดแย้งให้ยุติ แต่กลับมีการพูดพาดพิงสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดปัญหามาตลอด ท่านก็เหนื่อย โดยเฉพาะเรื่องสถาบันฯเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีที่หลายคนเป็นห่วงการพูดพาดพิงสถาบันฯ ของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะกระทบกับการทำงานของพรรคหรือไม่นั้น นายไพจิต กล่าวว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะได้พูดคุยเคลียร์กันในพรรคเรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ในแนวทางการปฎิบัติต่างๆ
แหล่งข่าวคนใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดเผยถึงเบื้องหลังที่ พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา มีส.ส.ที่สนิทกับพล.อ.ชวลิต และคณะทำงานที่เป็นนายทหารนอกราชการกว่า 20 คน ได้มาปรึกษาแนวทางการทำงานทางการเมืองในอนาคต ซึ่งพล.อ.ชวลิต ได้บอกว่าแนวทางการทำงานของตน ไม่ตรงกับคนในพรรคเพื่อไทย
"ท่านได้สะท้อนให้พวกเราฟังว่า ท่านยืนหยัดแนวทางประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จวบจนชีวิตจะหาไม่ ท่านได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถึง 3-4 ครั้ง เกี่ยวกับประเด็นสถาบันฯ มาโดยตลอดว่า กลุ่มนปช. มีการจาบจ้วง และบอกโดยตรงว่า รู้สึกไม่สบายใจ ขอให้แกนนำนปช.ยุติเสีย แต่เมื่อไม่สามารถตักเตือนได้ ก็รู้สึกอึดอัด ซีเรียสมาก จึงขอลาออกจากพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ท่านได้ถามความเห็น ส.ส.และคณะทำงานหลายคนก่อนจะได้ข้อยุติดังกล่าว"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวผู้ร่วมวงหารือกับ พล.อ.ชวลิต เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.ชวลิต ยืนยันจะไม่ทิ้งการเมือง ซึ่งภายในสองวันนี้ พล.อ.ชวลิต จะเปิดแถลงข่าวการดำเนินงานทางการเมืองต่อไป ส่วนจะไปร่วมงานการเมืองกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช หรือไม่ยังไม่ขอเปิดเผย และ ตอนนี้ไม่มั่นใจว่า จะมีส.ส.อีสาน สายพล.อ.ชวลิต จะออกตามมาด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเหตผลของแต่ละคน
"ท่านบอกว่าทิ้งบ้านเมืองไม่ได้ ภารกิจเราทำเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นขอให้รอคำยืนยันจากท่านภายในสองสามวันนี้ ท่านจะแถลงด้วยตัวท่านเอง ทางไหนถูก ก็จะร่วมงาน อันไหนผิดก็ไม่ร่วมงาน" แหล่งข่าวกล่าว
** "เทือก"ยันพท.-เสื้อแดง"พวกเดียวกัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น รอให้ท่านพูดเองดีกว่า การที่ท่านไม่พูดอะไรออกมาคราวนี้ ก็แปลกกว่าทุกครั้ง คงมีอะไรในใจที่ยังไม่ประสงค์จะพูดจา
เมื่อถามว่าประเด็นการหมิ่นสถาบันฯ ทำให้กระทบเสถียรภาพพรรคเพี่อไทย จะมีผลทางการเมืองต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไม่พูดอีกแล้ว เพราะพูดไปก็ไม่หยุด
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ กลุ่มนปช. ที่พูดจาพาดพิงสถาบันฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงมันประจักษ์ชัดเจนว่า ในช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ พรรคเพื่อไทยกับกลุ่มนปช. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฟังคำสั่งโดยตรงจากพ.ต.ท. ทักษิณ เหมือนกัน ตนอภิปรายในสภาชี้ให้เห็นชัดเจนว่า การต่อสู้ในทางการเมือง เอาแค่พรรคการเมืองดีกว่า ถ้าไปทำทั้งมีพรรคการเมืองด้วย และมีนปช. มีคนทำอะไรที่รุนแรงด้วยก็ไปกันใหญ่ ทั้งพรรค ทั้งเสื้อแดง เสื้อดำ อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ท่านหวังผลมองไปไกลถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย เลยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่หวังผลอะไร ตนเตรียมตัวที่จะสู้ในระบบการเลือกตั้ง ตนเรียกร้องให้เขามาสู้ในวีธีการเลือกตั้งตามปกติ
**ยุ ส.ส.ไม่เอาเสื้อแดงลาออกตาม"จิ๋ว"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจถึงความอึดอัดของพล.อ.ชวลิต เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้ออกมาการันตีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนจึงอยากถามไปถึงบรรดาทหารแก่ ที่เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจแบบ พล.อ.ชวลิต หรือไม่ รวมทั้งส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ควรที่จะลาออกจากพรรคพื่อไทย ตาม พล.อ.ชวลิตมา และปล่อยให้พรรคเป็นของกลุ่มคนเสื้อแดงไป
"ท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ได้เลือกแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่สนใจการลาออกของ พล.อ.ชวลิตเลย และคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคถูกเลื่อนการประกาศออกไปอีก ซึ่งเป็นการชี้ชัดว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯ จะต้องยืนอยู่ข้างหลังพ.ต.ท.ทักษิณ และตอนนี้ก็ค่อนข้างชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เลือกน้องสาวของตัวเอง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หวังให้เป็นนายกฯหญิง และที่สังเกตได้คือ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใส่เสื้อสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดง"
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพียงแต่ทราบข้อมูลจากการรายงานข่าวทางโทรทัศน์เท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายกับการลาออกของพล.อ.ชวลิต เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการหาเสียงเลือกตั้ง แต่คงต้องมีการปรับแนวทาง โดยในวันเสาร์ที่ 23 เม.ย.นี้ จะมีการแถลงเปิดตัวผู้สมัครส.ส. และนโยบายของพรรค ซึ่งขณะนี้ก็มีความพร้อม 95เปอร์เซ็นต์แล้ว
เมื่อถามว่าที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศให้แยกบทบาทของพรรคเพื่อไทยออกจากการชุมนุมคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยต้องแยกจากกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยังมีจุดร่วมเดียวกัน คือ เรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ได้ยอมรับว่าคนส่วนใหญ่หลังจากมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยต้องไปขึ้นเวทีปราศรัยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้ ส่วนช่วงเลือกตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติความเคลื่อนไหวหรือไม่ ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าหากแกนนำคนเสื้อแดงถูกส่งลงเลือกตั้ง จะแยกบทบาทออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างไร พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครว่าหากลงสนามเลือกตั้งแล้ว ต้องปฏิบัติตนเองอย่างไร ต้องแยกแยะ เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีปัญหา
เมื่อถามย้ำว่า หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุให้แยกบทบาทของพรรคเพื่อไทยออกจากกลุ่มคนเสื้อแดง จะกลายเป็นความขัดแย้งหรือไม่ เพราะเหมือนกับส่งสัญญาณว่า ให้พรรคเพื่อไทยโดดเดี่ยวคนเสื้อแดง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้บอกว่าให้แยกกันเด็ดขาด แต่บอกว่าเป็นกลุ่มคนที่ประสงค์อย่างเดียวกัน คือ ความยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียว ดังนั้น ต้องมีการทำงานคู่ขนาน แต่ต้องแยกบทบาทให้ดี ทั้งนี้ ยอมรับว่าคนเสื้อแดงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผู้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และกลุ่มที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยที่ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่าหากเพื่อไทยแยกออกจากคนเสื้อแดงจะกระทบฐานเสียงหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะหลักการเพื่อไทยต้องรณรงค์การเลือกตั้ง เสนอสิ่งที่ดีกว่าให้ประชาชนเลือก
ส่วนกรณีที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายออกไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะมีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มาย้ายเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยเช่นกัน แต่หากจะให้เป็นไปตามมารยาททางการเมืองแล้ว ทั้ง 2 พรรคไม่ควรจะรับไว้ เพราะจุดยืนของพรรคแตกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
**"แม้ว"รู้แล้วแต่ไม่เหนี่ยวรั้ง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบแล้วว่า พล.อ.ชวลิต ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยเคารพในการตัดสินใจของพล.อ.ชวลิต ส่วนจะมีการเชิญชวนให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้งหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองคงมีการพูดคุยกันภายหลังจากนี้ ยืนยันว่าคนในพรรคเพื่อไทย ยังเคารพ และไม่เคยรู้สึกในทางลบกับพล.อ.ชวลิต และมีความยินดี หากพล.อ.ชวลิต จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช อาจไม่เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น ตนได้พูดคุยกับบุตรชายของนายเสนาะ เมื่อวานนี้ ก็ยังคงยืนยันว่าจะเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง
**"เติ้ง"บอก"จิ๋ว" กลุ้มใจหลายเรื่อง
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต คงกลุ้มใจเพราะหลายเรื่องเกิดขึ้นมากในพรรค แต่ตนยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ชวลิต จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการลาออก แต่พล.อ.ชวลิต ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไปหมดแล้ว โดยบอกว่าเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ดื่มน้ำพิพัฒนสัตยา จึงต้องรักและเทิดทูนสถาบันฯ
เมื่อถามว่า การลาออกของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยในภาคอีสานเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังมองไปไม่ถึง เพราะยังไม่รู้ว่าคนที่จะลงสมัครส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นใคร จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้
*"จิ๋ว" เตรียมชี้แจงเหตุทิ้ง"เพื่อแม้ว"
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะส.ส.ที่ใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากนี้ไปต้องรอคอยดูไปอีกสัปดาห์ ว่า พล.อ.ชวลิต จะดำเนินแนวทางต่อไปอย่างไร จะยุติบทบาททางการเมือง หรือตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ เพราะหากพล.อ.ชวลิตไปตั้งพรรคใหม่จริง ก็อาจมีผลต่อการตัดสินใจ และมีส.ส.อีสานบางส่วนขยับตาม ส่วนจะมีใครตามไปบ้าง ก็ต้องคอยติดตามดูต่อไป
เมื่อถามถึงสาเหตุการตัดสินใจลาออกของ พล.อ.ชวลิต ครั้งนี้ ลึกๆ เป็นอย่างไร นายไพจิต กล่าวว่า ตลอดที่พล.อ.ชวลิต เข้ามาทำงานกับพรรคเพื่อไทย ก็มุ่งมั่นที่จะแก้ไขความขัดแย้งให้ยุติ แต่กลับมีการพูดพาดพิงสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดปัญหามาตลอด ท่านก็เหนื่อย โดยเฉพาะเรื่องสถาบันฯเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ส่วนกรณีที่หลายคนเป็นห่วงการพูดพาดพิงสถาบันฯ ของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะกระทบกับการทำงานของพรรคหรือไม่นั้น นายไพจิต กล่าวว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะได้พูดคุยเคลียร์กันในพรรคเรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ในแนวทางการปฎิบัติต่างๆ
แหล่งข่าวคนใกล้ชิดพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดเผยถึงเบื้องหลังที่ พล.อ.ชวลิต ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา มีส.ส.ที่สนิทกับพล.อ.ชวลิต และคณะทำงานที่เป็นนายทหารนอกราชการกว่า 20 คน ได้มาปรึกษาแนวทางการทำงานทางการเมืองในอนาคต ซึ่งพล.อ.ชวลิต ได้บอกว่าแนวทางการทำงานของตน ไม่ตรงกับคนในพรรคเพื่อไทย
"ท่านได้สะท้อนให้พวกเราฟังว่า ท่านยืนหยัดแนวทางประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จวบจนชีวิตจะหาไม่ ท่านได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถึง 3-4 ครั้ง เกี่ยวกับประเด็นสถาบันฯ มาโดยตลอดว่า กลุ่มนปช. มีการจาบจ้วง และบอกโดยตรงว่า รู้สึกไม่สบายใจ ขอให้แกนนำนปช.ยุติเสีย แต่เมื่อไม่สามารถตักเตือนได้ ก็รู้สึกอึดอัด ซีเรียสมาก จึงขอลาออกจากพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้ท่านได้ถามความเห็น ส.ส.และคณะทำงานหลายคนก่อนจะได้ข้อยุติดังกล่าว"แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวผู้ร่วมวงหารือกับ พล.อ.ชวลิต เปิดเผยด้วยว่า พล.อ.ชวลิต ยืนยันจะไม่ทิ้งการเมือง ซึ่งภายในสองวันนี้ พล.อ.ชวลิต จะเปิดแถลงข่าวการดำเนินงานทางการเมืองต่อไป ส่วนจะไปร่วมงานการเมืองกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช หรือไม่ยังไม่ขอเปิดเผย และ ตอนนี้ไม่มั่นใจว่า จะมีส.ส.อีสาน สายพล.อ.ชวลิต จะออกตามมาด้วยหรือไม่ เพราะเป็นเหตผลของแต่ละคน
"ท่านบอกว่าทิ้งบ้านเมืองไม่ได้ ภารกิจเราทำเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้นขอให้รอคำยืนยันจากท่านภายในสองสามวันนี้ ท่านจะแถลงด้วยตัวท่านเอง ทางไหนถูก ก็จะร่วมงาน อันไหนผิดก็ไม่ร่วมงาน" แหล่งข่าวกล่าว
** "เทือก"ยันพท.-เสื้อแดง"พวกเดียวกัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น รอให้ท่านพูดเองดีกว่า การที่ท่านไม่พูดอะไรออกมาคราวนี้ ก็แปลกกว่าทุกครั้ง คงมีอะไรในใจที่ยังไม่ประสงค์จะพูดจา
เมื่อถามว่าประเด็นการหมิ่นสถาบันฯ ทำให้กระทบเสถียรภาพพรรคเพี่อไทย จะมีผลทางการเมืองต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนจะไม่พูดอีกแล้ว เพราะพูดไปก็ไม่หยุด
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ กลุ่มนปช. ที่พูดจาพาดพิงสถาบันฯ นายสุเทพ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงมันประจักษ์ชัดเจนว่า ในช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ พรรคเพื่อไทยกับกลุ่มนปช. เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ฟังคำสั่งโดยตรงจากพ.ต.ท. ทักษิณ เหมือนกัน ตนอภิปรายในสภาชี้ให้เห็นชัดเจนว่า การต่อสู้ในทางการเมือง เอาแค่พรรคการเมืองดีกว่า ถ้าไปทำทั้งมีพรรคการเมืองด้วย และมีนปช. มีคนทำอะไรที่รุนแรงด้วยก็ไปกันใหญ่ ทั้งพรรค ทั้งเสื้อแดง เสื้อดำ อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ท่านหวังผลมองไปไกลถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทย เลยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่หวังผลอะไร ตนเตรียมตัวที่จะสู้ในระบบการเลือกตั้ง ตนเรียกร้องให้เขามาสู้ในวีธีการเลือกตั้งตามปกติ
**ยุ ส.ส.ไม่เอาเสื้อแดงลาออกตาม"จิ๋ว"
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเข้าใจถึงความอึดอัดของพล.อ.ชวลิต เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้ออกมาการันตีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนจึงอยากถามไปถึงบรรดาทหารแก่ ที่เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจแบบ พล.อ.ชวลิต หรือไม่ รวมทั้งส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ควรที่จะลาออกจากพรรคพื่อไทย ตาม พล.อ.ชวลิตมา และปล่อยให้พรรคเป็นของกลุ่มคนเสื้อแดงไป
"ท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ได้เลือกแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่สนใจการลาออกของ พล.อ.ชวลิตเลย และคนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคถูกเลื่อนการประกาศออกไปอีก ซึ่งเป็นการชี้ชัดว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯ จะต้องยืนอยู่ข้างหลังพ.ต.ท.ทักษิณ และตอนนี้ก็ค่อนข้างชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เลือกน้องสาวของตัวเอง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หวังให้เป็นนายกฯหญิง และที่สังเกตได้คือ การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใส่เสื้อสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดง"