ASTVผู้จัดการรายวัน- “ภูมิใจห้อย”ยอมปรับนโยบายหาเสียงกับสถาบัน “แกนนำพรรค”ดาหน้าถามผิดตรงไหน “เฒ่าชัย”ถึงขั้นยอมให้ตัดหัวหากทำผิด นำเอกสารแจงครม.-สื่อ อ้างเข้าใจผิด “สดศรี”แนะให้ถามความชัดเจนสำนักราชเลขาฯ ก่อน“มาร์ค”จะมาหากกต.
วานนี้(20 เม.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้นำเอกสารจากกองงานส่วนพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง มายืนยันในที่ประชุมว่า พรรคภูมิใจไทย รับพระบรมราชานุญาตให้พิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ 1 ล้านฉบับ จากสำนักพระราชวัง เพื่อแจกให้ประชาชนแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี และครม.ได้รับทราบและไม่ติดใจ ทั้งนี้เราไม่ต้องการให้นำเรื่องสถาบันมาเกี่ยวข้องทางการเมือง จึงเรียกร้องให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งทุกฝ่ายยุติ ขณะที่พรรคก็จะหยุดพูดเรื่องนี้ และหลังจากทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เพื่อขอความชัดเจน
“ทางพรรคก็จะนำมาปรับปรุงเพื่อประกาศเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งต่อไป พร้อมขอให้ กกต.ออกระเบียบอย่างสมเหตุผล และไม่ควรกำหนดโทษรุนแรง และเพื่อให้เกิดความสะดวกในการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมือง”นายศุชัยกล่าว
นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มีความเข้าใจผิด แล้วแต่ประชาชนจะตัดสิน แต่พรรคจะยังคงดำเนินการต่อไป เพราะมันเป็นนโยบายปกป้องสถาบัน เราไม่ได้จาบจ้วง ในหนังสือราชเลขาธิการนั้นมีเพียงแต่บอกว่า ทางสำนัก ราชเลขาฯ ไม่ได้รับจดหมายหรือไม่ได้อนุมัติให้มีการไปแอบอ้างสถาบัน แต่การดำเนินการของพรรคภูมิใจไทย เราก็ไม่ได้แอบอ้าง เราขอเป็นทางการ
เมื่อถามว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องปกป้องสถาบัน แต่พรรคเอาประเด็นนี้ไปชูเป็นนโยบายของพรรคเลยได้หรือ นายชวรัตน์ นิ่ง หัวเราะ พร้อมกับบอกว่าไม่รู้จะตอบอย่างไร
วันเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้นำเอกสารจากกองงานส่วนพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง มาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว พร้อมกับได้อ่านข้อความในหนังสือว่า
“ที่ภว. 004 / 014 กองงานส่วนพระองค์พระราชวังดุสิต กรุงเทพฯ วันที่ 1 เม.ย. 2554 เรื่องขออนุญาตให้จัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ เรียน นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตามหนังสือของพรรคภูมิใจที่ พท. 03 / 012 / 2554 ลงวันที่ 15 มี.ค. 2554 ความว่า ขอพระบรมราชานุญาตจัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ตามตัวอย่างที่แนบมา 1 ล้านภาพ เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไป เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่สมาชิก และประชาชนชาวไทย นั้น กองงานส่วนพระองค์อนุญาตให้ดำเนินการได้ เนื่องจากพระบรมฉายาลักษณ์มีแนบมานั้น เป็นพระรูปที่เคยเผยแพร่ทั่วไปแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบขอแสดงความนับถือ นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง”
นายชัย กล่าวว่า ก็ไม่รู้เนี่ย คุณเห็นไหมนี้หนังสือของพรรคเขาส่งไป นี่หนังสือของกองงานส่วนพระองค์ ชัดหรือยัง พรรคภูมิใจไทยทำอะไรต้องมีเอกสารหลักฐาน ก็เรียนให้สื่อทราบความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ เราไม่มีอะไรแอบแฝง เราไม่ได้หาเสียง ส่วนเอกสารที่ให้เซ็นชื่อนั้นก็มาจากบางคนที่อยู่ห่างไกลที่เดินทางมากราบบังคมทูลพระบรมฉายาลักษณ์ที่โรงพยาบาลศิริราช ลำบาก ค่าใช้จ่ายสูง ทางพรรคจึงทำเป็นเอกสารให้เซ็นชื่อเพื่อกราบบังคมทูล เพื่อนำชื่อเหล่านั้นมาถวายพระพรเท่านั้น
“ ถ้าผมผิดผมยอมให้ตัดคอ เพราะชีวิตของกระผมนั้นพลีเพื่อพระองค์ท่าน ศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติคือ องค์ประมุของค์เดียวคือ พระมหากษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผมยืนยันอย่างนี้ ตระกูลผมทุกคนสละเพื่อพระองค์ท่าน ” นายชัย กล่าว
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในหนังสือของสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ไม่ได้มีการเจาะจง แต่พูดเป็นการทั่วไปว่า ไม่เคยมีการพระราชทานอนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปจัดพิมพ์เอกสารเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ย้ำว่า บางครั้งอาจเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย หรือบางครั้งไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น แต่อาจขาดความตระหนักในสถานะของความเป็นการแข่งขันทางการเมือง ฉะนั้นก็ให้ทางกกต.เขาดูแล แต่กับพรรคภูมิใจไทยเคลียร์กันแล้ว
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การที่พรรคการเมืองเอาพระราชดำรัสขึ้นมาใช้ หรือนำมาใช้เพื่อปกป้องสถาบันเขาก็ใช้กันอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้มีการขอพระบรมราชานุญาตผ่านทางสำนักราชเลขาฯ ซึ่งก็มีหนังสือได้อนุญาตให้ใช้ เรื่องนี้ทางที่ดีควรที่จะต้องสำหนังสือสอบถามไปยังสำนักพระราชวังว่า จะอนุญาตได้แค่ไหนเพียงใด จะมาบอกว่าเป็นงานของกกต.ก็คงจะไม่ได้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ กกต.จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆทุกพรรคการเมืองมาหารือในส่วนรายละเอียดของระเบียบเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน
แหล่งข่าว.แจ้งว่า กกต.ตั้งคณะทำงานแก้ไขปรับปรุงระเบียบขึ้นมาโดยมีนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการกกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นปประธาน โดยในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วทุกพรรคการเมืองไม่ควรนำสถาบันมาหาเสียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหากพรรคใดดำเนินการก็อาจจะมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ หากเข้าข่ายมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญปี50
วานนี้(20 เม.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้นำเอกสารจากกองงานส่วนพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง มายืนยันในที่ประชุมว่า พรรคภูมิใจไทย รับพระบรมราชานุญาตให้พิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ 1 ล้านฉบับ จากสำนักพระราชวัง เพื่อแจกให้ประชาชนแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี และครม.ได้รับทราบและไม่ติดใจ ทั้งนี้เราไม่ต้องการให้นำเรื่องสถาบันมาเกี่ยวข้องทางการเมือง จึงเรียกร้องให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งทุกฝ่ายยุติ ขณะที่พรรคก็จะหยุดพูดเรื่องนี้ และหลังจากทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เพื่อขอความชัดเจน
“ทางพรรคก็จะนำมาปรับปรุงเพื่อประกาศเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งต่อไป พร้อมขอให้ กกต.ออกระเบียบอย่างสมเหตุผล และไม่ควรกำหนดโทษรุนแรง และเพื่อให้เกิดความสะดวกในการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมือง”นายศุชัยกล่าว
นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มีความเข้าใจผิด แล้วแต่ประชาชนจะตัดสิน แต่พรรคจะยังคงดำเนินการต่อไป เพราะมันเป็นนโยบายปกป้องสถาบัน เราไม่ได้จาบจ้วง ในหนังสือราชเลขาธิการนั้นมีเพียงแต่บอกว่า ทางสำนัก ราชเลขาฯ ไม่ได้รับจดหมายหรือไม่ได้อนุมัติให้มีการไปแอบอ้างสถาบัน แต่การดำเนินการของพรรคภูมิใจไทย เราก็ไม่ได้แอบอ้าง เราขอเป็นทางการ
เมื่อถามว่า ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องปกป้องสถาบัน แต่พรรคเอาประเด็นนี้ไปชูเป็นนโยบายของพรรคเลยได้หรือ นายชวรัตน์ นิ่ง หัวเราะ พร้อมกับบอกว่าไม่รู้จะตอบอย่างไร
วันเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้นำเอกสารจากกองงานส่วนพระองค์ สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง มาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว พร้อมกับได้อ่านข้อความในหนังสือว่า
“ที่ภว. 004 / 014 กองงานส่วนพระองค์พระราชวังดุสิต กรุงเทพฯ วันที่ 1 เม.ย. 2554 เรื่องขออนุญาตให้จัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ เรียน นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตามหนังสือของพรรคภูมิใจที่ พท. 03 / 012 / 2554 ลงวันที่ 15 มี.ค. 2554 ความว่า ขอพระบรมราชานุญาตจัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ตามตัวอย่างที่แนบมา 1 ล้านภาพ เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไป เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่สมาชิก และประชาชนชาวไทย นั้น กองงานส่วนพระองค์อนุญาตให้ดำเนินการได้ เนื่องจากพระบรมฉายาลักษณ์มีแนบมานั้น เป็นพระรูปที่เคยเผยแพร่ทั่วไปแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบขอแสดงความนับถือ นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง”
นายชัย กล่าวว่า ก็ไม่รู้เนี่ย คุณเห็นไหมนี้หนังสือของพรรคเขาส่งไป นี่หนังสือของกองงานส่วนพระองค์ ชัดหรือยัง พรรคภูมิใจไทยทำอะไรต้องมีเอกสารหลักฐาน ก็เรียนให้สื่อทราบความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ เราไม่มีอะไรแอบแฝง เราไม่ได้หาเสียง ส่วนเอกสารที่ให้เซ็นชื่อนั้นก็มาจากบางคนที่อยู่ห่างไกลที่เดินทางมากราบบังคมทูลพระบรมฉายาลักษณ์ที่โรงพยาบาลศิริราช ลำบาก ค่าใช้จ่ายสูง ทางพรรคจึงทำเป็นเอกสารให้เซ็นชื่อเพื่อกราบบังคมทูล เพื่อนำชื่อเหล่านั้นมาถวายพระพรเท่านั้น
“ ถ้าผมผิดผมยอมให้ตัดคอ เพราะชีวิตของกระผมนั้นพลีเพื่อพระองค์ท่าน ศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติคือ องค์ประมุของค์เดียวคือ พระมหากษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผมยืนยันอย่างนี้ ตระกูลผมทุกคนสละเพื่อพระองค์ท่าน ” นายชัย กล่าว
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในหนังสือของสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ไม่ได้มีการเจาะจง แต่พูดเป็นการทั่วไปว่า ไม่เคยมีการพระราชทานอนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปจัดพิมพ์เอกสารเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ย้ำว่า บางครั้งอาจเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย หรือบางครั้งไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น แต่อาจขาดความตระหนักในสถานะของความเป็นการแข่งขันทางการเมือง ฉะนั้นก็ให้ทางกกต.เขาดูแล แต่กับพรรคภูมิใจไทยเคลียร์กันแล้ว
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การที่พรรคการเมืองเอาพระราชดำรัสขึ้นมาใช้ หรือนำมาใช้เพื่อปกป้องสถาบันเขาก็ใช้กันอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้มีการขอพระบรมราชานุญาตผ่านทางสำนักราชเลขาฯ ซึ่งก็มีหนังสือได้อนุญาตให้ใช้ เรื่องนี้ทางที่ดีควรที่จะต้องสำหนังสือสอบถามไปยังสำนักพระราชวังว่า จะอนุญาตได้แค่ไหนเพียงใด จะมาบอกว่าเป็นงานของกกต.ก็คงจะไม่ได้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ กกต.จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆทุกพรรคการเมืองมาหารือในส่วนรายละเอียดของระเบียบเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน
แหล่งข่าว.แจ้งว่า กกต.ตั้งคณะทำงานแก้ไขปรับปรุงระเบียบขึ้นมาโดยมีนายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการกกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เป็นปประธาน โดยในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วทุกพรรคการเมืองไม่ควรนำสถาบันมาหาเสียงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองหากพรรคใดดำเนินการก็อาจจะมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้ หากเข้าข่ายมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญปี50