“ชัย” โชว์หนังสือกองงานส่วนพระองค์ อนุญาต ภท.แจกพระบรมฉายาลักษณ์

“ชัย” โชว์เอกสารกองงานส่วนพระองค์ อนุญาตให้ภูมิใจไทย พิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ 1 ล้านภาพ แจกให้ประชาชนเพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนที่ต้องเซ็นชื่อเพื่อให้ถวายพระพรในหลวง ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ยันไม่เกี่ยวหาเสียง ท้ายัดคุก ตัดคอ หากพบหลักฐานทำผิด งง กองงานส่วนพระองค์อนุญาต แต่สำนักราชเลขาธิการฯ ไม่ทราบ ด้าน “ชุมพล“ เผยคงไม่นำหนังสือจากสำนักราชเลขาธิการฯ มาถกใน ครม.อีก ย้ำค้าน กกต.ออกระเบียบห้ามนำสถาบันหาเสียง ชี้ เกินเลยบทบาทไปหน่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และแจ้งให้ ครม.ทราบเรื่องที่มีพรรคการเมืองได้พิมพ์เอกสารขึ้นมา โดยระบุว่า ได้รับพระบรมราชานุญาต ทางราชเลขาธิการ ได้ตอบหนังสือปฏิเสธมา บอกว่า ไม่เคยมีพระบรมราชานุญาตแก่ผู้ใด ไม่ว่าพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น วันนี้ (20 เม.ย.) นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้นำเอกสารสำนักเลขาธิการสำนักพระราชวังในการอนุญาตให้มีการจัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ มาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว พร้อมกับได้อ่านข้อความในหนังสือว่า

ที่ ภว.004/ 014 กองงานส่วนพระองค์พระราชวังดุสิต กรุงเทพฯ วันที่ 1 เม.ย.2554 เรื่อง ขออนุญาตให้จัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ เรียน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตามหนังสือของพรรคภูมิใจไทย ที่ ภท.03/012/2554 ลงวันที่ 15 มี.ค.2554 ความว่า ขอพระบรมราชานุญาตจัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ตามตัวอย่างที่แนบมา 1 ล้านภาพ เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไป เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สมาชิก และประชาชนชาวไทย นั้น กองงานส่วนพระองค์อนุญาตให้ดำเนินการได้ เนื่องจากพระบรมฉายาลักษณ์ ที่แนบมานั้น เป็นพระรูปที่เคยเผยแพร่ทั่วไปแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบขอแสดงความนับถือ นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมข้อเท็จจริงจึงเกิดความสับสน นายชัย กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ก็ไม่รู้ เนี้ย คุณเห็นไหมนี้หนังสือของพรรคเขาส่งไป นี้หนังสือของกองงานส่วนพระองค์ ชัดหรือยัง พรรคภูมิใจไทยเขาทำอะไรต้องมีเอกสารหลักฐาน ก็เรียนให้สื่อทราบความเป็นจริงเป็นอย่างนี้"

เมื่อถามต่อว่า กองงานส่วนพระองค์ ส่งหนังสือกลับมาเมื่อไร นายชัย กล่าวว่า วันที่ 1 เม.ย. 2554 และส่งหนังสือไปเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2554 ท่านก็ทราบแล้ว เมื่อสื่อไปที่พรรคภูมิใจไทยวันที่ 6 เม.ย.ก็เห็นว่า ที่เขาทำนั้นมันก่อนหรือมันหลังหนังสือที่ได้รับอนุญาต จากกองงานส่วนพระองค์ ไม่ได้เกี่ยวกับสำนักราชเลขาฯ มันคนละที่กัน คนละสายงานกัน

ส่วนจะมีการประสาน ทำความเข้าใจกันหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่ต้องประสานทำความเข้าใจอะไร ขอให้สื่อเข้าใจก็แล้วกันว่า พรรคภูมิใจไทยทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะพรรคภูมิใจไทยมีนโยบายที่แน่วแน่ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พูดมาตลอด ฉะนั้น ส่วนที่ว่าจะไปหาเสียงอะไรนั้น ไม่ได้หาเสียง ส่วนเอกสารที่ให้เซ็นชื่อนั้น คือ พี่น้องประชาชนคนไทยที่อยู่ห่างไกลที่เดินทางมากราบบังคมทูลพระบรมฉายาลักษณ์ที่โรงพยาบาลศิริราช ลำบาก ค่าใช้จ่ายสูง ทางพรรคจึงทำเป็นเอกสารให้เซ็นชื่อเพื่อกราบบังคมทูล เพื่อนำชื่อเหล่านั้นมาถวายก็มีแค่นั้นเองข้อเท็จจริง ไม่ได้ไปหาเสียงอะไร

“พวกเราเข้าใจกันผิด ไขว่เขว พรรคภูมิใจไทยแม้แต่ผมเอง การสัมมนาทุกครั้ง ผมจะพูดเรื่องเทิดทูนองค์พระมหากษัตริย์ทุกครั้งในการสัมมนา ถ้าผมผิดผมยอมให้ตัดคอ เพราะชีวิตของกระผมนั้น พลีเพื่อพระองค์ท่าน ศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ คือ องค์ประมุของค์เดียวคือ พระมหากษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผมยืนยันอย่างนี้ครับ ตระกูลผมทุกคนสละเพื่อพระองค์ท่าน” นายชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทย จะยังคงเดินหน้าเรื่องสถาบันต่อไปหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า อันนั้นเรื่องของพรรค แต่ข้อเท็จจริงที่ฟังข่าวจากสื่อหลายๆ ประการ ไม่ทราบข้อเท็จจริง ตนจึงเอาข้อเท็จจริงมาให้ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ถ้ามันผิดก็เอาพวกผมที่เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเข้าคุกให้หมดก็หมดเรื่อง เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การใช้สถาบันในการหาเสียงไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม นายชัย กล่าวอย่างมีอารมณ์ทันทีว่า ไม่ได้หาเสียง เราเทิดทูนองค์สถาบัน ใครบ้างละครับที่มากราบที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วไม่ได้พระบรมฉายาลักษณ์ไปแม้แต่คนเดียวมีไหมครับ ทุกคนได้รับไปทั้งนั้น

“แล้วนี้เขาเอารูปไปให้ชาวบ้าน มันผิดตรงไหนครับ เอาไปขายหรือเปล่า แล้วตอนนี้มีการเลือกตั้งหรือไม่ มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา และพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้วหรือไม่ มันผิดตรงไหน ผมก็เรียนแค่นี้ครับ” นายชัย กล่าว

ด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งออกมาระบุถึงเรื่อง ครม.รับทราบหนังสือสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ปฏิเสธอนุญาตให้พรรคการเมืองบางพรรค แจกจ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ เพราะยังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต กล่าวว่า คงไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ข้อกำหนด หรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกในวันนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องของ ครม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำนักราชเลขาธิการ มีการระบุหรือไม่ว่า พรรคการเมืองใดที่หมิ่นเบื้องสูง นายชุมพล กล่าวว่า ในหนังสือของสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง ไม่ได้มีการเจาะจง แต่พูดเป็นการทั่วไปว่าไม่เคยมีการพระบรมราชานุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปจัดพิมพ์เอกสารเท่านั้นเอง

ส่วนกรณีที่ท่านไม่เห็นด้วยกับการที่ กกต.จะออกข้อกำหนดห้ามนำสถาบันมาหาเสียง หรือกล่าวปราศรัยจาบจ้วง ตามที่นายกรัฐมนตีเสนอไปยังยืนยันที่จะคัดค้านอีกหรือไม่นั้น นายชุมพล กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า นายกฯส่งไปหรือยัง และส่งในลักษณะอย่างไร แต่ที่ตนเองวิพากษ์ คือ หาก กกต.ไปดำเนินการถึงขั้นนั้นมันคงไม่ถูกต้องนัก เกินเลยบทบาทไปนิดหนึ่ง เมื่อถามว่า หาก กกต.ออกข้อกำหนดออกมา นายชุมพล กล่าวว่า เป็นอำนาจที่จะออกอย่างไรก็ได้ถ้าชอบด้วยกฎหมาย แต่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นอีกเรื่องก็ว่ากันไปตามกติกาประชาธิปไตย