วานนี้ (10 เม.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผู้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ล่าสุดได้คุยกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยจะให้ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หลานสาวนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 จ.เชียงใหม่ แทนตน ที่จะขยับลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อเป็นตัวเดินสาย ช่วยเพื่อนส.ส.หาเสียงทั่วภาคเหนือ เพื่อรวมพลังช่วยกันพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยให้ได้หลังเลือกตั้ง
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่าวันที่ 17 เม.ย.นี้ เวลา 15.00 น. นางเยาวภา จะเปิดบ้านที่เชียงใหม่ จัดพิธีให้ ส.ส.ภาคเหนือ เข้ารดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านสไกด์ เป็นประเพณีของภาคเหนือ ที่ต้องขอพรจากผู้ใหญ่ ขอขมาสิ่งที่ล่วงเกิน ทางกาย วาจา ใจ และ พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้พรเราพาประชาชนพ้นทุกข์ พ้นโศกจากสิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อไว้ บริหารประเทศชาติจนชาวบ้านเดือนร้อนไปทั่ว
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทย ทำเพื่อคนๆ เดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอการนิรโทษกรรมนั้น เป็นการกระทำเพื่อตัวเองนั้น ขอเรียนว่าพรรคเพื่อไทยมองอนาคตของประเทศเป็นหลัก และรู้ว่าปัญหาของประเทศคือความแตกแยกจากการที่ไม่มีความยุติธรรม และสองมาตรฐาน
นอกจากนี้ ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง ค่าครองชีพสูง พรรคเพื่อไทย จึงมีแนวทางที่ชัดเจนที่จะแก้ปัญหาที่สำคัญในสองเรื่องนี้ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละพรรคต้องสู้กันที่นโยบาย ให้ประชาชนพิจารณา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะเสนอให้มีการคืนสิทธิ และคืนความเป็นธรรม รวมทั้งเยียวยาเหยื่อของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ในเดือน กันยายน 2549 เป็นต้นมา
การคืนความเป็นธรรมนั้น จะทำให้กับทุกคน โดยไม่เลือกสี เลือกข้าง และเมื่อบ้านเมืองมีความยุติธรรมแล้วเท่านั้น ความปรองดองจึงจะเกิดได้ ถ้าการคืนสิทธิการเมืองจะทำให้การแข่งขันของพรรคการเมืองเข้มข้นขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ ก็ควรยอมรับ เพราะพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้งทุกครั้งในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา และประชาชนควรเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพ.ต.ท. ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเตรียมการที่จะไม่ยอมรับผลเลือกตั้งนั้น ขอชี้เเจงว่า พวกเราไม่เป็นพวกขี้แพ้ ชวนตี และยอมรับการตัดสินใจของประชาชน และนิยมการเลือกตั้ง โดยจะไม่บอยคอตการเลือกตั้ง เพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวายเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในอดีต และจะไม่เรียกร้องหาตัวช่วยหากแพ้เลือกตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ จะสู้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างตรงไปตรงมา โดยการเอานโยบายมาสู้กัน
นายนพดล กล่าวว่า ในปลายเดือน เม.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะเปิดนโยบายที่เบ็ดเสร็จครบทุกมิติให้พี่น้องประชาชนพิจารณา จึงเชิญชวนพรรคประชาธิปัตย์ ไสช้างออกมาสู้กันทางนโยบาย เพราะประชาชนจะได้ตัดสินว่าของใครเจ๋ง และโดนกว่ากัน
นอกจากนั้นต้องดูว่าประชาชนเชื่อว่าใครน่าเชื่อถือในการนำนโยบายไปทำให้เกิดผลมากกว่ากัน และดูว่าประชาชนจะเลือกอดีตและปัจจุบันที่ขมขื่น หรือจะเลือกการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่สดใส ขอเชิญชวนพรรคประชาธิปัตย์ให้เคารพการตัดสินใจของประชาชน และลงสัตยาบันว่าพรรคใดได้ที่นั่ง ส.ส. มากที่สุด จะเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล ตนถามว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมหรือไม่
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่าวันที่ 17 เม.ย.นี้ เวลา 15.00 น. นางเยาวภา จะเปิดบ้านที่เชียงใหม่ จัดพิธีให้ ส.ส.ภาคเหนือ เข้ารดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านสไกด์ เป็นประเพณีของภาคเหนือ ที่ต้องขอพรจากผู้ใหญ่ ขอขมาสิ่งที่ล่วงเกิน ทางกาย วาจา ใจ และ พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้พรเราพาประชาชนพ้นทุกข์ พ้นโศกจากสิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อไว้ บริหารประเทศชาติจนชาวบ้านเดือนร้อนไปทั่ว
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทย ทำเพื่อคนๆ เดียวคือพ.ต.ท.ทักษิณ และการที่พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอการนิรโทษกรรมนั้น เป็นการกระทำเพื่อตัวเองนั้น ขอเรียนว่าพรรคเพื่อไทยมองอนาคตของประเทศเป็นหลัก และรู้ว่าปัญหาของประเทศคือความแตกแยกจากการที่ไม่มีความยุติธรรม และสองมาตรฐาน
นอกจากนี้ ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง ค่าครองชีพสูง พรรคเพื่อไทย จึงมีแนวทางที่ชัดเจนที่จะแก้ปัญหาที่สำคัญในสองเรื่องนี้ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละพรรคต้องสู้กันที่นโยบาย ให้ประชาชนพิจารณา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะเสนอให้มีการคืนสิทธิ และคืนความเป็นธรรม รวมทั้งเยียวยาเหยื่อของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นจากการยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ในเดือน กันยายน 2549 เป็นต้นมา
การคืนความเป็นธรรมนั้น จะทำให้กับทุกคน โดยไม่เลือกสี เลือกข้าง และเมื่อบ้านเมืองมีความยุติธรรมแล้วเท่านั้น ความปรองดองจึงจะเกิดได้ ถ้าการคืนสิทธิการเมืองจะทำให้การแข่งขันของพรรคการเมืองเข้มข้นขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ ก็ควรยอมรับ เพราะพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้งทุกครั้งในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา และประชาชนควรเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพ.ต.ท. ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยเตรียมการที่จะไม่ยอมรับผลเลือกตั้งนั้น ขอชี้เเจงว่า พวกเราไม่เป็นพวกขี้แพ้ ชวนตี และยอมรับการตัดสินใจของประชาชน และนิยมการเลือกตั้ง โดยจะไม่บอยคอตการเลือกตั้ง เพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวายเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นในอดีต และจะไม่เรียกร้องหาตัวช่วยหากแพ้เลือกตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ จะสู้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างตรงไปตรงมา โดยการเอานโยบายมาสู้กัน
นายนพดล กล่าวว่า ในปลายเดือน เม.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะเปิดนโยบายที่เบ็ดเสร็จครบทุกมิติให้พี่น้องประชาชนพิจารณา จึงเชิญชวนพรรคประชาธิปัตย์ ไสช้างออกมาสู้กันทางนโยบาย เพราะประชาชนจะได้ตัดสินว่าของใครเจ๋ง และโดนกว่ากัน
นอกจากนั้นต้องดูว่าประชาชนเชื่อว่าใครน่าเชื่อถือในการนำนโยบายไปทำให้เกิดผลมากกว่ากัน และดูว่าประชาชนจะเลือกอดีตและปัจจุบันที่ขมขื่น หรือจะเลือกการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่สดใส ขอเชิญชวนพรรคประชาธิปัตย์ให้เคารพการตัดสินใจของประชาชน และลงสัตยาบันว่าพรรคใดได้ที่นั่ง ส.ส. มากที่สุด จะเป็นแกนนำในการตั้งรัฐบาล ตนถามว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมหรือไม่