การเมืองทำท่าพลิกผันไปสู่ความไม่แน่นอนมากกว่าเดิม มีมิติ ตัวแปรพิลึกๆ ทำให้ภาพรวมขุ่นมัว อนาคตบ้านเมืองแทบมองไม่เห็น หมอดูขอหยุดพักร้อน
ดูก็แล้วกัน “รองฯ เทือก” มีอารมณ์ขุ่นมัว ไม่ปลื้มผลงาน “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” หรืออย่างไร จึงเปรยแบบใช้ก้อนหินปาเข้าป่าสะตอถามทาง
บอกว่า ปชป. ไม่มีปัญหานายกฯ มีตัวสำรองเยอะ อย่างน้อยมี “เสี่ยกรณ์” และ หล่อใหญ่ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” อดีตผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ยุครถและเรือดับเพลิงมีปัญหา แทนที่จะสั่งมาจากออสเตรีย ดันมีคนส่งจากภาคตะวันออก
“รองฯ เทือก” พูดพรวดๆ ไม่สอบถามความรู้สึกผู้คนในพรรคนั้น น่าจะแสดงความมั่นคงส่วนตัวว่ายังรักษาสภาพ “ผู้จัดการ” ตัวเชิดพรรค มีสิทธิ์ยกระดับเป็น “นักปั้นนายกฯ” เทียบชั้นผู้เฒ่านักปั้น 3-4 เดนนรกมากินเมือง
ใครจะเรียก “ป๋าเทือก” และเจ้าตัวชอบหรือไม่ต้องรอดูอาการ!
“รองฯ เทือก” ไม่สอบถามความในใจ “เสี่ยมาร์ค” ว่าอยากจะลงจากเก้าอี้นายกฯ หรือยัง หลังจาก 2 ปี จนชาวบ้านมองว่าเสพติดอำนาจงอมแงม ถ้าหลุดจากตำแหน่ง อาจเข้าขั้นลงแดงต้องไปรักษาที่อังกฤษโน่น
ความชอกช้ำในหัวอกของผู้นำตกจากอำนาจนั้น ใครไม่โดน ย่อมไม่รู้!
นอกจากไม่ถาม “เสี่ยมาร์ค” แล้ว “รองฯ เทือก” ยังไม่ถามทั้ง “เสี่ยกรณ์” และ “หล่อใหญ่” ว่าอยากเป็นนายกฯ หุ่นเชิด หรือยัง! อย่างมากคงแค่อมยิ้ม สงวนท่าที จะรีบปฏิเสธโดยไวก็ใช่ที่ เพราะอีกรายอาจเต็มใจ ไม่บอกปัดก็ได้
จะพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย! เสียแล้ว เสียเลย ไม่ถามซ้ำ! ฮ่า!
ดูศักยภาพแล้ว “เสี่ยกรณ์” มีภาษีกว่าเยอะ มีทุนหนา ประสบการณ์ในตำแหน่งขุนคลังย่อมไม่ด้อยกว่าผู้ว่า กทม. แต่ทั้งคู่มีปัญหา! “เสี่ยอภิรักษ์” ยังไม่พ้นควันไฟซึ่งกำลังสุมรถ-เรือดับเพลิง จะเป็นชนักปักหลังอีกนาน
“เสี่ยกรณ์” โดนควันบุหรี่อเมริกันรมดำ ต้องพึ่งร่างสูงหาอากาศสะอาด!
โดยสภาพแล้ว “เสี่ยมาร์ค” ชำรุดจนซ่อมลำบาก ลากสังขารไปขึ้นโพเดียมแต่ละครั้งความสง่างาม หล่อแบบไม่ต้องเหลา หายไปเยอะ ความมัวหมอง สิ้นภาพผู้นำจริงๆ คนในค่ายสะตอเริ่มไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ทำให้สภาฯ ล่มซ้ำซาก
ไปนั่งฟังชาวบ้านเผชิญวิกฤติน้ำท่วม แผ่นดินถล่ม ก็อยู่ในอาการเหม่อลอย ขาดสมาธิ! ทำให้สงสัยว่าชาวบ้านมีทุกข์ หรือผู้นำรัฐบาลระทมกว่ากัน
“เสี่ยมาร์ค” เสียผู้เสียคนเพราะความดันทุรังเรื่องปัญหาไทย-กัมพูชาโดนข้อกล่าวหาว่าขายชาติ ยอมเป็นเบี้ยล่างลูกไล่ฮุนเซน จนอธิบายไม่ได้
การที่ฝ่ายทหารไม่ยอมไปร่วมประชุมที่อินโดนีเซียน่าจะเป็นสัญญาณให้ “รองฯ เทือก” ได้รู้ว่าถึงเวลาต้องเอาตัวรอดแล้ว! ไม่ยอมอุ้ม “เสี่ยมาร์ค” ไปเข้าโรงซ่อมสภาพ นอกจากไม่คุ้ม ยังมองไม่เห็นว่าจะฟื้นฟูได้ หาคนใหม่ดีกว่า
“รองฯ เทือก” คงแน่ใจว่าตัวเองมั่นคง แต่ต้องไม่ลืมว่าการปั้นนายกฯ คนแรก แล้วผลออกมาเป็นอย่างนี้ ถือเป็นความล้มเหลว ค่ายสะตอเสี่ยงต่อการแพ้เลือกตั้ง เพราะพฤติกรรมหมู่ในด้านการเปิบ ยโสโอหังในอำนาจ
มาถึงจุดนี้ ไม่ต้องใช้โหรทำนาย ก็น่าจะฟันธงได้แล้วว่า “เสี่ยมาร์ค” ต้องเริ่มนับถอยหลังไปสู่วันที่ตัวเองจะกลายเป็นอดีตนายกฯ อย่างถาวร
วันนั้นจะมาถึงเร็วเพียงใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจยุบสภาฯ! เจอแบบนี้ “เสี่ยมาร์ค” อาจเปลี่ยนใจ อ้างข้อมูลใหม่ ขอนั่งเก้าอี้จนครบเทอมดีกว่า
ถึงอย่างไรก็ควรทำใจ ถ้าอยู่ได้จนถึงวันยุบสภาฯ ต้องวัดดวงว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อกระแสไม่เอาเลือกตั้ง หรือมีเลือกตั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งจะไม่เลือกใครให้เข้ามาเป็นทีม “เฉพาะกิน” จนเสี่ยงต่อบ้านเมืองล่มสลาย
มองด้านอื่น บรรยากาศยิ่งน่าหดหู่ ชวนให้หมดอาลัยตายอยาก เมื่อชาวบ้านเห็นขบวนการผู้เฒ่าบุโรทั่งโหงวเฮ้งกังฉินเต็มองคาพยพไปนั่งสุมหัววางแผนร่วมมือกันกินเมืองรอบใหม่ เตรียมลิ้นไว้เลียแข้งขาดูดเงินคนหนีคุก
แม้จะอยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง เมื่อได้ยินเสียงโฟนอินจากคนหนีคุกอ้อนให้ช่วยพากลับบ้าน ก็คึกคัก! ความโลภ กระสันในเงินตรานั้นไม่จำกัดอายุ
โชว์พลังแค่นี้มัคทายก เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ต้องระวังธรณีสงฆ์แล้ว!
ถ้าขบวนการผู้เฒ่ายึดเมืองสำเร็จด้วยพลังเงินของคนหนีคุก จะนำไปสู่การถอนทุนอย่างเร่งด่วน บ้านเมืองเสี่ยงต่อการวิบัติยิ่งกว่าโดนสึนามิ
คนหนีคุกโฟนอินพร้อมปลิ้นคำหวานแบบเดิมๆ! เศรษฐกิจจะฟื้นใน 3 เดือน เงินในประเป๋าจะเพิ่มขึ้นใน 6 เดือน แต่ไม่บอกว่าตัวเองจะโกยเท่าไหร่
ถ้าไม่มีเลือกตั้ง ผู้เฒ่าและสมุนจะไม่ได้ร้อง “ไอ้เสือเอาวา” รอบใหม่! คนหนีคุกไม่เอาไข่รวมไว้ในตะกร้าใบเดียว! เมื่อจู่ๆ “ปุ” ไม้บรรทัดพลาสติคม้วนได้กลมดิก อยากเช็คเรตติ้ง เปิดตัวเป็นหัวหน้า “พรรครักษ์สันติ”
แกนนำมีตำรวจร่วมรุ่น ร่วมก๊วนรสนิยม น่าจะเป็นพรรคพิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน เป็นอีแอบแบบคนครึ่งผี ชายครึ่งเพศ!
พฤติกรรมและจิตอุบาทว์ของนักซื้อเสียงทำให้คนอยากรู้ว่า ถ้ายังดันทุรังเลือกตั้งแล้วได้แต่พวกหน้าเดิมๆ ใครจะสำเร็จในการหาพระแสงหอกนิ! อิอิอิ!!!
ดูก็แล้วกัน “รองฯ เทือก” มีอารมณ์ขุ่นมัว ไม่ปลื้มผลงาน “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” หรืออย่างไร จึงเปรยแบบใช้ก้อนหินปาเข้าป่าสะตอถามทาง
บอกว่า ปชป. ไม่มีปัญหานายกฯ มีตัวสำรองเยอะ อย่างน้อยมี “เสี่ยกรณ์” และ หล่อใหญ่ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” อดีตผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ยุครถและเรือดับเพลิงมีปัญหา แทนที่จะสั่งมาจากออสเตรีย ดันมีคนส่งจากภาคตะวันออก
“รองฯ เทือก” พูดพรวดๆ ไม่สอบถามความรู้สึกผู้คนในพรรคนั้น น่าจะแสดงความมั่นคงส่วนตัวว่ายังรักษาสภาพ “ผู้จัดการ” ตัวเชิดพรรค มีสิทธิ์ยกระดับเป็น “นักปั้นนายกฯ” เทียบชั้นผู้เฒ่านักปั้น 3-4 เดนนรกมากินเมือง
ใครจะเรียก “ป๋าเทือก” และเจ้าตัวชอบหรือไม่ต้องรอดูอาการ!
“รองฯ เทือก” ไม่สอบถามความในใจ “เสี่ยมาร์ค” ว่าอยากจะลงจากเก้าอี้นายกฯ หรือยัง หลังจาก 2 ปี จนชาวบ้านมองว่าเสพติดอำนาจงอมแงม ถ้าหลุดจากตำแหน่ง อาจเข้าขั้นลงแดงต้องไปรักษาที่อังกฤษโน่น
ความชอกช้ำในหัวอกของผู้นำตกจากอำนาจนั้น ใครไม่โดน ย่อมไม่รู้!
นอกจากไม่ถาม “เสี่ยมาร์ค” แล้ว “รองฯ เทือก” ยังไม่ถามทั้ง “เสี่ยกรณ์” และ “หล่อใหญ่” ว่าอยากเป็นนายกฯ หุ่นเชิด หรือยัง! อย่างมากคงแค่อมยิ้ม สงวนท่าที จะรีบปฏิเสธโดยไวก็ใช่ที่ เพราะอีกรายอาจเต็มใจ ไม่บอกปัดก็ได้
จะพลาดโอกาสอย่างน่าเสียดาย! เสียแล้ว เสียเลย ไม่ถามซ้ำ! ฮ่า!
ดูศักยภาพแล้ว “เสี่ยกรณ์” มีภาษีกว่าเยอะ มีทุนหนา ประสบการณ์ในตำแหน่งขุนคลังย่อมไม่ด้อยกว่าผู้ว่า กทม. แต่ทั้งคู่มีปัญหา! “เสี่ยอภิรักษ์” ยังไม่พ้นควันไฟซึ่งกำลังสุมรถ-เรือดับเพลิง จะเป็นชนักปักหลังอีกนาน
“เสี่ยกรณ์” โดนควันบุหรี่อเมริกันรมดำ ต้องพึ่งร่างสูงหาอากาศสะอาด!
โดยสภาพแล้ว “เสี่ยมาร์ค” ชำรุดจนซ่อมลำบาก ลากสังขารไปขึ้นโพเดียมแต่ละครั้งความสง่างาม หล่อแบบไม่ต้องเหลา หายไปเยอะ ความมัวหมอง สิ้นภาพผู้นำจริงๆ คนในค่ายสะตอเริ่มไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย ทำให้สภาฯ ล่มซ้ำซาก
ไปนั่งฟังชาวบ้านเผชิญวิกฤติน้ำท่วม แผ่นดินถล่ม ก็อยู่ในอาการเหม่อลอย ขาดสมาธิ! ทำให้สงสัยว่าชาวบ้านมีทุกข์ หรือผู้นำรัฐบาลระทมกว่ากัน
“เสี่ยมาร์ค” เสียผู้เสียคนเพราะความดันทุรังเรื่องปัญหาไทย-กัมพูชาโดนข้อกล่าวหาว่าขายชาติ ยอมเป็นเบี้ยล่างลูกไล่ฮุนเซน จนอธิบายไม่ได้
การที่ฝ่ายทหารไม่ยอมไปร่วมประชุมที่อินโดนีเซียน่าจะเป็นสัญญาณให้ “รองฯ เทือก” ได้รู้ว่าถึงเวลาต้องเอาตัวรอดแล้ว! ไม่ยอมอุ้ม “เสี่ยมาร์ค” ไปเข้าโรงซ่อมสภาพ นอกจากไม่คุ้ม ยังมองไม่เห็นว่าจะฟื้นฟูได้ หาคนใหม่ดีกว่า
“รองฯ เทือก” คงแน่ใจว่าตัวเองมั่นคง แต่ต้องไม่ลืมว่าการปั้นนายกฯ คนแรก แล้วผลออกมาเป็นอย่างนี้ ถือเป็นความล้มเหลว ค่ายสะตอเสี่ยงต่อการแพ้เลือกตั้ง เพราะพฤติกรรมหมู่ในด้านการเปิบ ยโสโอหังในอำนาจ
มาถึงจุดนี้ ไม่ต้องใช้โหรทำนาย ก็น่าจะฟันธงได้แล้วว่า “เสี่ยมาร์ค” ต้องเริ่มนับถอยหลังไปสู่วันที่ตัวเองจะกลายเป็นอดีตนายกฯ อย่างถาวร
วันนั้นจะมาถึงเร็วเพียงใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจยุบสภาฯ! เจอแบบนี้ “เสี่ยมาร์ค” อาจเปลี่ยนใจ อ้างข้อมูลใหม่ ขอนั่งเก้าอี้จนครบเทอมดีกว่า
ถึงอย่างไรก็ควรทำใจ ถ้าอยู่ได้จนถึงวันยุบสภาฯ ต้องวัดดวงว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อกระแสไม่เอาเลือกตั้ง หรือมีเลือกตั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งจะไม่เลือกใครให้เข้ามาเป็นทีม “เฉพาะกิน” จนเสี่ยงต่อบ้านเมืองล่มสลาย
มองด้านอื่น บรรยากาศยิ่งน่าหดหู่ ชวนให้หมดอาลัยตายอยาก เมื่อชาวบ้านเห็นขบวนการผู้เฒ่าบุโรทั่งโหงวเฮ้งกังฉินเต็มองคาพยพไปนั่งสุมหัววางแผนร่วมมือกันกินเมืองรอบใหม่ เตรียมลิ้นไว้เลียแข้งขาดูดเงินคนหนีคุก
แม้จะอยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง เมื่อได้ยินเสียงโฟนอินจากคนหนีคุกอ้อนให้ช่วยพากลับบ้าน ก็คึกคัก! ความโลภ กระสันในเงินตรานั้นไม่จำกัดอายุ
โชว์พลังแค่นี้มัคทายก เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ต้องระวังธรณีสงฆ์แล้ว!
ถ้าขบวนการผู้เฒ่ายึดเมืองสำเร็จด้วยพลังเงินของคนหนีคุก จะนำไปสู่การถอนทุนอย่างเร่งด่วน บ้านเมืองเสี่ยงต่อการวิบัติยิ่งกว่าโดนสึนามิ
คนหนีคุกโฟนอินพร้อมปลิ้นคำหวานแบบเดิมๆ! เศรษฐกิจจะฟื้นใน 3 เดือน เงินในประเป๋าจะเพิ่มขึ้นใน 6 เดือน แต่ไม่บอกว่าตัวเองจะโกยเท่าไหร่
ถ้าไม่มีเลือกตั้ง ผู้เฒ่าและสมุนจะไม่ได้ร้อง “ไอ้เสือเอาวา” รอบใหม่! คนหนีคุกไม่เอาไข่รวมไว้ในตะกร้าใบเดียว! เมื่อจู่ๆ “ปุ” ไม้บรรทัดพลาสติคม้วนได้กลมดิก อยากเช็คเรตติ้ง เปิดตัวเป็นหัวหน้า “พรรครักษ์สันติ”
แกนนำมีตำรวจร่วมรุ่น ร่วมก๊วนรสนิยม น่าจะเป็นพรรคพิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน เป็นอีแอบแบบคนครึ่งผี ชายครึ่งเพศ!
พฤติกรรมและจิตอุบาทว์ของนักซื้อเสียงทำให้คนอยากรู้ว่า ถ้ายังดันทุรังเลือกตั้งแล้วได้แต่พวกหน้าเดิมๆ ใครจะสำเร็จในการหาพระแสงหอกนิ! อิอิอิ!!!