xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เผยเงินไหลเข้าดันบาทแข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยเนื้อหอม เงินนอกไหลเข้า แบงก์ชาติเผย เดือน มี.ค.บาทแข็งค่าจากเดือนก่อนหน้า 1.1% และหากเทียบปีก่อนแข็งขึ้น 7% ระบุภัยพิบัติญี่ปุ่นกระทบเงินบาทให้อ่อนค่าแค่บางวัน ฟันธง แนวโน้มเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แต่ยอมรับส่วนหนึ่งเกิดจากการเทขายเงินเยนของผู้ส่งออกหลังเงินเยนแข็งค่า

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ในรายงานเศรษฐกิจและการเงินฉบับล่าสุดได้ประเมินการเคลื่อนไหวเงินบาทในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยแข็งค่าขึ้น 7.00% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน และแข็งค่าขึ้น 1.10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและไตรมาสก่อน โดยเหตุผลสำคัญเกิดจากการไหลเข้าของเงินทุนอย่างต่อเนื่องจากความรู้สึก (Sentiment)ของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างดีขึ้น ทำให้ผู้ส่งออกมีการขายเงินดอลลาร์สหรัฐออกมา จึงส่งผลให้เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้น

“แม้เหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่นจะมีผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงในบางวัน แต่เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากแรงขายเงินเยนของผู้ส่งออก หลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาก”

สำหรับดัชนีค่าเงินบาท (NEER) และดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง(REER)ล่าสุดในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดย NEER อ่อนค่าลงจากเดือนม.ค.ประมาณ 0.91% จากระดับ 102.41 ขยับมาอยู่ที่ระดับ 102.79 ในเดือนมี.ค. โดยเป็นผลจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินสกุลอื่นๆ ส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้น หลัง Sentiment ของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับ REER ล่าสุดในเดือนก.พ.อ่อนค่า 0.89%จากเดือนก่อนหน้า จากระดับ 101.90 จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 102.82

ขณะที่เงินทุนเคลื่อนย้ายล่าสุดในเดือนก.พ.ที่ผ่านมามีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนก่อนที่มีเงินไหลเข้า 894 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีเงินไหลเข้าน้อยลง 865 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ธปท.และภาครัฐมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 150 และ 161 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ จากเดือนม.ค.ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิในส่วนของธปท. 1,561 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาครัฐ 228 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรในตลาดรองเป็นสำคัญ

ภาคธนาคารกลับมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 447 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนก่อนที่เป็นเงินทุนไหลเข้า 1,455 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะมีการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและการเพิ่มเงินฝากในต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกรรมดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการลดการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ส่งออกและนักลงทุนเป็นสำคัญ

ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารมีเงินไหลเข้าสุทธิ 263 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนก่อนไหลเข้าสุทธิ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากการไหลกลับของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของไทย โดยเฉพาะการครบกำหนดไถ่ถอนพันธบัตรเกาหลีและการไหลข้าวของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในธุรกิจโฆษณาเป็นสำคัญ ด้านภาครัฐวิสาหกิจมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 98 ล้านเหรียญ โดยส่วนใหญ่เป็นการให้สินเชื่อการค้ากับลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งแตกต่างจากเดือนก่อนที่ไหลออกค่อนข้างมาก เพราะมีการให้กู้กับบริษัทในเครือ
กำลังโหลดความคิดเห็น