ตลท.จับตาปัจจัยนอกประเทศ ทำนักลงทุนปรับพอร์ตทิ้งหุ้น เผย ปัจจุบันวอลุ่มวันละประมาณ 23,000-25,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ไทย ยังลามไปทั่วโลก แนะให้ติดตามข้อมูลการลงทุนตลาดโลกทั้งสหรัฐฯและยุโรป
วันนี้ (23 มี.ค.) นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มเทขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและสึนามิ แต่ถือว่ายังมีปริมาณไม่มาก และไม่มีนัยสำคัญ เพราะปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) ต่อวันเบาบาง โดยหากนักลงทุนต่างชาติเริ่มปรับพอร์ตครั้งใหญ่ จะมีวอลุ่มมากหรือเฉลี่ยวันละ 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันอยู่ที่วันละ 23,000-25,000 ล้านบาท ทำให้ยังไม่เห็นกระแสเงินทุนไหลออกที่ชัดเจน
“จากนี้ไปคงต้องดูว่าญี่ปุ่นจะฟื้นฟูประเทศได้เร็วแค่ไหน ซึ่งขณะนี้เร็วไปที่จะสรุป โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะไทย เพราะมีผลกระทบทั่วโลก แต่ปัจจุบันมีปัญหาในตะวันออกกลางเข้ามาแทรกทำให้มีผลต่อราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น ต้องติดตามการลงทุนในตลาดโลกทั้งสหรัฐและยุโรปเป็นหลัก”
โดยปัจจุบันมีบัญชีลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นเพิ่มเป็น 600,000 บัญชี จากเดิม 500,000 บัญชี โดยเป็นบัญชีที่มีการซื้อขายต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจาก 130,000 บัญชี เป็น 160,000 บัญชี หรือเติบโต 20% และคาดว่า หลัง ตลท.ร่วมมือกับสถาบันการเงินเปิดโครงการแบงเกอร์ ทู โบรกเกอร์ จะช่วยขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่มากขึ้น