ASTVผู้จัดการรายวัน – “พานาโซนิค” เผยล่าสุดพบ 10 โรงงานที่ญี่ปุ่นเสียหายจากสึนามิถล่ม เร่รงผลิตถ่านไฟฉายช่วงสงกรานต์ส่งกลับญี่ปุ่น ยันแผนธุรกิจในไทยเดินหน้าต่อ ไม่ลดงบตลาด กางแผนรุกทีวีเวียร่าเต็มสูบ
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า โรงงานของกลุ่มพานาโซนิคที่ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิถล่มรวมทั้งหมดกว่า 10 แห่ง จากเดิมที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้นเพียง 6 แห่ง ในเมืองเซนได ฟุกูชิมา อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบถึงความเสียหายทั้งหมดว่าเท่าไร และจะสามารถกู้สถานการณ์กลับมาเป็นปรกติได้เมื่อไร แต่โดยภาพรวมแล้วยังไม่มีการโยกย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ่นไปที่ประเทศอื่นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อพานาโซนิคในไทยบ้างบางส่วน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเอวีหรือภาพและเสียง กล้องวงจรปิด โปรเจคเตอร์ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูจากทางซัพพลายเออร์วัตถุดิบว่าจะจัดการบริหารแก้ไขปัญหากับเราอย่างไร ขณะที่กล้องดิจิตอลนัน บริษัทฯได้สั่งสินค้าไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สึนามิพอดีและมีของส่งมาบ้างแล้วทำให้ไม่กระทบ ส่วนสินค้าทีวีพลาสม่านั้นไม่กระทบเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ผลิตในไทย มาเลเซีย เป็นหลัก
ขณะเดียวกันในส่วนของโรงงานผลิตถ่านไฟฉายและอัลคาไลน์ ในไทยนั้นก็มีการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์นี้ที่เดิมทีจะหยุดยาวแต่คงต้องเปิดไลน์ผลิตปรกติ เพื่อให้ผิลตเต็มที่แล้วอส่งถ่านไฟฉายกลับไปยังญี่ปุ่นที่เวลานี้ขาดแคลนอย่างมาก สินค้าไม่มีขาย เพระความต้องการใช้มากในพื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
ส่วนแผนธุรกิจและแผนการตลาดในไทยยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งบริศัทฯตั้งงบตลาดไว้ 10% ของยอดขายยังคงเดิมไม่มีการลดลง
สำหรับผลประกอบการปีงบประมาณ 2554 (1 เมษายน 2553 - 31 มีนาคม 2554) ยอดขายรวมในไทยมีประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มอวี(ภาพและเสียง) 10,500 ล้านบาท กลุ่มเฮชเอ ประมาณ 9,500 ล้านบาท รวมเติบโต 18% แต่ยอมรับว่าปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไว้เพียง 15% เพราะมีหลายปัจจัยประกอบ
สำหรับแผนรุกตลาดกลุ่มทีวีปีนี้ นายฮิโรทากะ กล่าวว่า วางแผนรุกตลาดพานาโซนิคเวียร่าต่อเนื่อง ทั้ง 3มิตินีโอพลาสม่า, แอลซีดีทีวี, แอลอีดีทีวี ซึ่งจะมีรุ่นใหม่วางตลาดปีนี้ 20 รุ่น แบ่งเป็น 3 มิติ 7 รุ่น โดยคาดว่าตลาดรวมปีนี้จะเติบโตมากขึ้น 30% หรือประมาณ 2 ล้านเครื่อง โดยในส่วนของเวียร่ามีแชร์ 12% และปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มแชร์เป็น 15%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดทีวีในไทย ในกลุ่มของจอแบน ค่ายซัมซุงมีแชร์ 33% แอลจี 20% โซนี่ 18% พานาโซนิค 10% ขณะที่ในตลาดมาเลเซียนั้นพานาโซนิคเป็นที่สองของตลาดรวม ส่วนตลาดในประเทศสิงคโปร์และเวียดนาม พานาโซนิคอยู่ในอันดับที่สาม
ส่วนตลาดทีวีขนาดจอ 37 นิ้วขึ้นไปในไทย พบว่า ทางซัมซุงเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 40% แอลจีมีแชร์ 23% โซนี่แชร์ 16% พานาโซนิคแชร์ 9% ที่เหลืออื่นๆ
ขณะที่ตลาดในไทยพบว่ายอดขายรวมของพานาโซนิคมีการเติบโตสองหลักมากกว่าในตลาดเอเซียแปวิฟิค โดยในปี 2552 มีประมาณ 75,200 เครื่อง ปี 2553 มีประมาณ 139,200 เครื่อง เติบโต 16% มีแชร์ 20% ส่วนปี 2554 นี้ตั้งเป้าหมายเป็น 215,500 เครื่อง เติบโต 18% มีแชร์ 15%
นายฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า โรงงานของกลุ่มพานาโซนิคที่ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิถล่มรวมทั้งหมดกว่า 10 แห่ง จากเดิมที่ได้รับผลกระทบเบื้องต้นเพียง 6 แห่ง ในเมืองเซนได ฟุกูชิมา อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบถึงความเสียหายทั้งหมดว่าเท่าไร และจะสามารถกู้สถานการณ์กลับมาเป็นปรกติได้เมื่อไร แต่โดยภาพรวมแล้วยังไม่มีการโยกย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ่นไปที่ประเทศอื่นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อพานาโซนิคในไทยบ้างบางส่วน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเอวีหรือภาพและเสียง กล้องวงจรปิด โปรเจคเตอร์ แต่ทั้งนี้ต้องรอดูจากทางซัพพลายเออร์วัตถุดิบว่าจะจัดการบริหารแก้ไขปัญหากับเราอย่างไร ขณะที่กล้องดิจิตอลนัน บริษัทฯได้สั่งสินค้าไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์สึนามิพอดีและมีของส่งมาบ้างแล้วทำให้ไม่กระทบ ส่วนสินค้าทีวีพลาสม่านั้นไม่กระทบเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ผลิตในไทย มาเลเซีย เป็นหลัก
ขณะเดียวกันในส่วนของโรงงานผลิตถ่านไฟฉายและอัลคาไลน์ ในไทยนั้นก็มีการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์นี้ที่เดิมทีจะหยุดยาวแต่คงต้องเปิดไลน์ผลิตปรกติ เพื่อให้ผิลตเต็มที่แล้วอส่งถ่านไฟฉายกลับไปยังญี่ปุ่นที่เวลานี้ขาดแคลนอย่างมาก สินค้าไม่มีขาย เพระความต้องการใช้มากในพื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
ส่วนแผนธุรกิจและแผนการตลาดในไทยยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งบริศัทฯตั้งงบตลาดไว้ 10% ของยอดขายยังคงเดิมไม่มีการลดลง
สำหรับผลประกอบการปีงบประมาณ 2554 (1 เมษายน 2553 - 31 มีนาคม 2554) ยอดขายรวมในไทยมีประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มอวี(ภาพและเสียง) 10,500 ล้านบาท กลุ่มเฮชเอ ประมาณ 9,500 ล้านบาท รวมเติบโต 18% แต่ยอมรับว่าปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไว้เพียง 15% เพราะมีหลายปัจจัยประกอบ
สำหรับแผนรุกตลาดกลุ่มทีวีปีนี้ นายฮิโรทากะ กล่าวว่า วางแผนรุกตลาดพานาโซนิคเวียร่าต่อเนื่อง ทั้ง 3มิตินีโอพลาสม่า, แอลซีดีทีวี, แอลอีดีทีวี ซึ่งจะมีรุ่นใหม่วางตลาดปีนี้ 20 รุ่น แบ่งเป็น 3 มิติ 7 รุ่น โดยคาดว่าตลาดรวมปีนี้จะเติบโตมากขึ้น 30% หรือประมาณ 2 ล้านเครื่อง โดยในส่วนของเวียร่ามีแชร์ 12% และปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มแชร์เป็น 15%
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดทีวีในไทย ในกลุ่มของจอแบน ค่ายซัมซุงมีแชร์ 33% แอลจี 20% โซนี่ 18% พานาโซนิค 10% ขณะที่ในตลาดมาเลเซียนั้นพานาโซนิคเป็นที่สองของตลาดรวม ส่วนตลาดในประเทศสิงคโปร์และเวียดนาม พานาโซนิคอยู่ในอันดับที่สาม
ส่วนตลาดทีวีขนาดจอ 37 นิ้วขึ้นไปในไทย พบว่า ทางซัมซุงเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 40% แอลจีมีแชร์ 23% โซนี่แชร์ 16% พานาโซนิคแชร์ 9% ที่เหลืออื่นๆ
ขณะที่ตลาดในไทยพบว่ายอดขายรวมของพานาโซนิคมีการเติบโตสองหลักมากกว่าในตลาดเอเซียแปวิฟิค โดยในปี 2552 มีประมาณ 75,200 เครื่อง ปี 2553 มีประมาณ 139,200 เครื่อง เติบโต 16% มีแชร์ 20% ส่วนปี 2554 นี้ตั้งเป้าหมายเป็น 215,500 เครื่อง เติบโต 18% มีแชร์ 15%