นายประสาท เกศวพิทักษ์ ประธานกรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ AFET เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย มีมติให้นำข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5% FOB โดยใช้สัญลักษณ์ " WRF5 " เข้ามาซื้อขายล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน เป็นต้นไป และกำหนดให้เดือนกรกฎาคม 54 เป็นเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบเดือนแรก และมีเดือนส่งมอบล่วงหน้าไม่เกิน 6 เดือน โดยการซื้อขายในช่วงแรกกำหนดให้มีเดือนซื้อขาย 5 เดือนส่งมอบ คือ เดือนส่งมอบกรกฎาคม 54 (WRF5 JUL 11) กันยายน 54 ( WRF5 SEP 11) พฤศจิกายน 54 (WRF5 NOV 11) มกราคม 55 ( WRF5 JAN 12 ) มีนาคม 55 (WRF5 MAR 12) และเมื่อถึงวันทำการแรกของเดือนมิถุนายน ให้เปิดซื้อขายเพิ่มอีก 1 เดือน คือเดือนส่งมอบพฤษภาคม 55 (WRF5 MAY 12) เพื่อให้ครบ 6 เดือนส่งมอบ ทั้งนี้คุณสมบัติของข้าวขาว 5% ที่จะซื้อขายในตลาด คงต้องมีคุณภาพและชนิดตามที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงพาณิชย์
โดยหน่วยการซื้อขายของสัญญาดังกล่าวกำหนดไว้ที่ 50 ตัน (50,000 กิโลกรัม) และการส่งมอบสินค้าจะเริ่มต้นที่ 250 ตัน (250,000 กิโลกรัม) ซึ่งเท่ากับ 5 เท่าของหน่วยการซื้อขาย ซึ่งเป็นขนาดที่มีความเหมาะสมกับการส่งออกข้าวในปัจจุบัน และราคาขึ้นลงในแต่ละขั้นเท่ากับ 10 บาท/ตัน ข้อจำกัดจำนวนการถือครองข้อตกลงต้องหรือจำนวนสัญญาที่ผู้ลงทุนจะถือได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 สัญญาของทุกเดือนรวมกันและในเดือนส่งมอบจะถือได้ไม่เกิน 100 สัญญา ส่วนเงินประกันขั้นต้นที่นำมาวางเพื่อเข้ามาการซื้อขายกำหนดไว้ 40,000 บาท/สัญญา
ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวมีการกำหนดจุดส่งมอบ ตามเงื่อนไข FOB (Free on Board) กรุงเทพฯ แหลมฉบัง และเกาะสีชัง และเพิ่มความคล่องตัวให้สามารถเลือกส่งมอบ ณ คลังสินค้าภายในประเทศได้ด้วย โดย AFET ได้จัดให้มีคลังสินค้าที่ทันสมัยมีมาตรฐานและความพร้อมที่จะปรับปรุงและเก็บรักษาคุณภาพข้าว การจัดหาบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการ ตลอดจนจัดเตรียมเอกสารเพื่อการส่งออก เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกให้กับผู้ซื้อผู้ขายที่ต้องการส่งมอบรับมอบผ่าน AFET
สำหรับจุดเด่นของสัญญาข้าวขาว 5% แบบ FOB ที่แตกต่างจากสัญญาข้าวเดิม ในเรื่องของการส่งมอบรับมอบสินค้าจริงที่สอดคล้องกับการค้าข้าวในธุรกิจ และเพิ่มช่องทางการค้าข้าวให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และก่อนหน้านี้ AFET ได้หารือกับผู้ประกอบการข้าวทุกระดับ ตลอดจนผู้ซื้อข้าวในต่างประเทศจนได้ร่างสัญญาที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง ส่วนด้านนักลงทุนนั้นแม้ว่าขนาดสัญญาจะมีขนาดใหญ่ (50 ตัน) แต่มูลค่าของสัญญา และเงินประกันที่ต้องวางมีขนาดใกล้เคียงกับสัญญายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ที่ผู้ลงทุนคุ้นเคย อีกทั้งราคาข้าว ตามเงื่อนไข FOB ยังได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั่วไป
โดยหน่วยการซื้อขายของสัญญาดังกล่าวกำหนดไว้ที่ 50 ตัน (50,000 กิโลกรัม) และการส่งมอบสินค้าจะเริ่มต้นที่ 250 ตัน (250,000 กิโลกรัม) ซึ่งเท่ากับ 5 เท่าของหน่วยการซื้อขาย ซึ่งเป็นขนาดที่มีความเหมาะสมกับการส่งออกข้าวในปัจจุบัน และราคาขึ้นลงในแต่ละขั้นเท่ากับ 10 บาท/ตัน ข้อจำกัดจำนวนการถือครองข้อตกลงต้องหรือจำนวนสัญญาที่ผู้ลงทุนจะถือได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 สัญญาของทุกเดือนรวมกันและในเดือนส่งมอบจะถือได้ไม่เกิน 100 สัญญา ส่วนเงินประกันขั้นต้นที่นำมาวางเพื่อเข้ามาการซื้อขายกำหนดไว้ 40,000 บาท/สัญญา
ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวมีการกำหนดจุดส่งมอบ ตามเงื่อนไข FOB (Free on Board) กรุงเทพฯ แหลมฉบัง และเกาะสีชัง และเพิ่มความคล่องตัวให้สามารถเลือกส่งมอบ ณ คลังสินค้าภายในประเทศได้ด้วย โดย AFET ได้จัดให้มีคลังสินค้าที่ทันสมัยมีมาตรฐานและความพร้อมที่จะปรับปรุงและเก็บรักษาคุณภาพข้าว การจัดหาบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการ ตลอดจนจัดเตรียมเอกสารเพื่อการส่งออก เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกให้กับผู้ซื้อผู้ขายที่ต้องการส่งมอบรับมอบผ่าน AFET
สำหรับจุดเด่นของสัญญาข้าวขาว 5% แบบ FOB ที่แตกต่างจากสัญญาข้าวเดิม ในเรื่องของการส่งมอบรับมอบสินค้าจริงที่สอดคล้องกับการค้าข้าวในธุรกิจ และเพิ่มช่องทางการค้าข้าวให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และก่อนหน้านี้ AFET ได้หารือกับผู้ประกอบการข้าวทุกระดับ ตลอดจนผู้ซื้อข้าวในต่างประเทศจนได้ร่างสัญญาที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง ส่วนด้านนักลงทุนนั้นแม้ว่าขนาดสัญญาจะมีขนาดใหญ่ (50 ตัน) แต่มูลค่าของสัญญา และเงินประกันที่ต้องวางมีขนาดใกล้เคียงกับสัญญายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ที่ผู้ลงทุนคุ้นเคย อีกทั้งราคาข้าว ตามเงื่อนไข FOB ยังได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่เกิดขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั่วไป