สัปดาห์ที่แล้วเราได้ทำความรู้จัก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB ภายใต้สัญลักษณ์ “WRF5” สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าตัวใหม่ล่าสุดของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ซึ่งมีกำหนดเข้าซื้อขายล่วงหน้าวันแรก 29 เมษายน 2554 นี้
นอกเหนือจากประโยชน์ของการเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาข้าว และประโยชน์ในแง่ของการเพิ่มช่องทางใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการข้าว ตั้งแต่ระดับโรงสีจนถึงระดับผู้ค้าข้าวให้สามารถเข้าถึงโอกาสในการค้าและส่งออกข้าวได้มากยิ่งขึ้นแล้ว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) ตัวใหม่นี้ ยังเป็นประโยชน์แก่กลุ่มชาวนาและสหกรณ์การเกษตร ให้สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารการเปลี่ยนแปลงราคาข้าวได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากราคาซื้อขายในสัญญาล่วงหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และข้อมูลใหม่ๆ ทำให้เกิดกระบวนการ “PRICE DISCOVERY” หรือ “กระบวนการค้นพบราคา” ที่เหมาะสม บนพื้นฐานของความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะผู้ขายจะเสนอราคาต่ำสุดที่ตนเต็มใจขาย ขณะที่ผู้ซื้อจะเสนอราคาสูงสุดที่ตนเต็มใจจ่าย และใครที่ให้ราคาที่ดีที่สุด (ราคาขายต่ำสุด/ราคาซื้อสูงสุด) ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ก็จะได้ขาย/ซื้อสัญญาล่วงหน้าสินค้านั้นๆ ไป
ดังนั้น ราคาล่วงหน้าที่มีการซื้อขายใน AFET จะสามารถใช้เป็นราคาอ้างอิง (Benchmark) ที่ผู้ซื้อผู้ขายสินค้าในตลาดจริง จะนำมาเป็นข้อมูลในการใช้ต่อรองราคา เพื่อการซื้อและขายสินค้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการเพิ่มผลผลิตในการเพาะปลูก และการบริหารสต๊อกได้อีกด้วย กล่าวได้ว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการข้าวในทุกระดับ ตั้งแต่เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร โรงสี ผู้ค้าข้าว ผู้ส่งออกข้าว ผู้ซื้อข้าวในต่างประเทศ และภาครัฐสามารถใช้แนวโน้มราคาเพื่อการกำหนดนโยบายข้าวได้ทั้งระบบ
สำหรับในส่วนของนักลงทุนนั้น ทาง AFET ก็ไม่ได้ละเลย เพราะถึงแม้สัญญา WRF5 จะมีขนาดใหญ่ถึง 50 เมตริกตัน แต่มูลค่าของสัญญา WRF5 ก็ใกล้เคียงกับมูลค่าของสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 750,000-800,000 บาท (ราคาส่งออกเอฟโอบี ข้าว 5% อยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ) ดังนั้น อัตราเงินประกันขั้นต้น (Initial margin) ของสัญญา WRF5 จึงอยู่ที่ 40,000 บาท/สัญญา ซึ่งใกล้เคียงกับสัญญา RSS3 ที่ผู้ลงทุนใน AFET ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญา WRF5 ตัวใหม่ ทำให้ราคาของสัญญา WRF5 มีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ดังนั้นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการแสวงหาทางเลือกการลงทุนใหม่ เพื่อใช้ในการเพิ่มผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้ คุณสมบัติของข้าวขาว 5% ที่จะซื้อขายใน AFET จะต้องมีคุณภาพและชนิดตามที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงพาณิชย์ โดยมีหน่วยการซื้อขาย อยู่ที่ 50 ตัน (50,000 กิโลกรัม) และหน่วยการส่งมอบสินค้า อยู่ที่ 250 ตัน (250,000 กิโลกรัม) คิดเป็น 5 เท่าของหน่วยการซื้อขาย ซึ่งเป็นขนาดที่มีความเหมาะสมกับการส่งออกข้าวในปัจจุบัน สำหรับอัตราการขึ้นลงของราคาจะเท่ากับ 10 บาท/ตัน ผู้อ่านท่านใดสนใจ ศึกษาข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าก่อนใคร ได้ที่ www.afet.or.th/v081/thai/product/wrf5/specification.php
นอกเหนือจากประโยชน์ของการเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาข้าว และประโยชน์ในแง่ของการเพิ่มช่องทางใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการข้าว ตั้งแต่ระดับโรงสีจนถึงระดับผู้ค้าข้าวให้สามารถเข้าถึงโอกาสในการค้าและส่งออกข้าวได้มากยิ่งขึ้นแล้ว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) ตัวใหม่นี้ ยังเป็นประโยชน์แก่กลุ่มชาวนาและสหกรณ์การเกษตร ให้สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารการเปลี่ยนแปลงราคาข้าวได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากราคาซื้อขายในสัญญาล่วงหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และข้อมูลใหม่ๆ ทำให้เกิดกระบวนการ “PRICE DISCOVERY” หรือ “กระบวนการค้นพบราคา” ที่เหมาะสม บนพื้นฐานของความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะผู้ขายจะเสนอราคาต่ำสุดที่ตนเต็มใจขาย ขณะที่ผู้ซื้อจะเสนอราคาสูงสุดที่ตนเต็มใจจ่าย และใครที่ให้ราคาที่ดีที่สุด (ราคาขายต่ำสุด/ราคาซื้อสูงสุด) ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ก็จะได้ขาย/ซื้อสัญญาล่วงหน้าสินค้านั้นๆ ไป
ดังนั้น ราคาล่วงหน้าที่มีการซื้อขายใน AFET จะสามารถใช้เป็นราคาอ้างอิง (Benchmark) ที่ผู้ซื้อผู้ขายสินค้าในตลาดจริง จะนำมาเป็นข้อมูลในการใช้ต่อรองราคา เพื่อการซื้อและขายสินค้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการเพิ่มผลผลิตในการเพาะปลูก และการบริหารสต๊อกได้อีกด้วย กล่าวได้ว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการข้าวในทุกระดับ ตั้งแต่เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร โรงสี ผู้ค้าข้าว ผู้ส่งออกข้าว ผู้ซื้อข้าวในต่างประเทศ และภาครัฐสามารถใช้แนวโน้มราคาเพื่อการกำหนดนโยบายข้าวได้ทั้งระบบ
สำหรับในส่วนของนักลงทุนนั้น ทาง AFET ก็ไม่ได้ละเลย เพราะถึงแม้สัญญา WRF5 จะมีขนาดใหญ่ถึง 50 เมตริกตัน แต่มูลค่าของสัญญา WRF5 ก็ใกล้เคียงกับมูลค่าของสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 (RSS3) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 750,000-800,000 บาท (ราคาส่งออกเอฟโอบี ข้าว 5% อยู่ที่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ) ดังนั้น อัตราเงินประกันขั้นต้น (Initial margin) ของสัญญา WRF5 จึงอยู่ที่ 40,000 บาท/สัญญา ซึ่งใกล้เคียงกับสัญญา RSS3 ที่ผู้ลงทุนใน AFET ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญา WRF5 ตัวใหม่ ทำให้ราคาของสัญญา WRF5 มีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ดังนั้นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5% ส่งมอบแบบ FOB (WRF5) จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการแสวงหาทางเลือกการลงทุนใหม่ เพื่อใช้ในการเพิ่มผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้ คุณสมบัติของข้าวขาว 5% ที่จะซื้อขายใน AFET จะต้องมีคุณภาพและชนิดตามที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงพาณิชย์ โดยมีหน่วยการซื้อขาย อยู่ที่ 50 ตัน (50,000 กิโลกรัม) และหน่วยการส่งมอบสินค้า อยู่ที่ 250 ตัน (250,000 กิโลกรัม) คิดเป็น 5 เท่าของหน่วยการซื้อขาย ซึ่งเป็นขนาดที่มีความเหมาะสมกับการส่งออกข้าวในปัจจุบัน สำหรับอัตราการขึ้นลงของราคาจะเท่ากับ 10 บาท/ตัน ผู้อ่านท่านใดสนใจ ศึกษาข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าก่อนใคร ได้ที่ www.afet.or.th/v081/thai/product/wrf5/specification.php