ศูนย์ข่าวภาคใต้-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยน้ำท่วมใต้ พระราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือ พร้อมด้วยพระบรมศานุวงศ์ "มาร์ค"ได้ฤกษ์ตรวจเยี่ยมชาวใต้ที่ต้องประสบภัยน้ำท่วมมาเกือบสัปดาห์วันนี้ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใต้หลายจังหวัดยังอยู่ในขั้นวิกฤตหนัก ชาวบ้านโวยไม่เห็นเงาหัวส.ส. รัฐมนตรีมาช่วยเหลือ รถไฟสายใต้และสายการบินประกาศหยุดให้บริการไร้กำหนด กรมอุตุฯ เตือนระวังฝนตกหนักต่อไปอีก 1-2 วัน ด้านคชอ.อนุมัติกว่า 20 ล้านบาทซื้อถุงยังชีพแจก ทัพเรือส่งเรือรบหลวงช่วยคนติดเกาะ
วานนี้ (29 มี.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้พระราชทานถุงยังชีพเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้แก่ราษฎรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายประสงค์ วิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ พร้อมคณะจากส่วนกลางเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในท้องที่ จ.สุราษฎร์ธานี พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช รวม 4,000 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าสิ่งของสงเคราะห์ทั้งสิ้น 3,286,119 บาท
วันเดียวกัน เวลา 12.00 น.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงโปรดให้นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ จัดเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรจุถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สำหรับให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ในเบื้องต้นอีก 3,000 ชุด โดยเดินทางจากกองบิน 2 กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มายังท่าอากาศยานตรัง โดยนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนพสกนิกรชาวจังหวัดตรัง เดินทางมารับถุงยังชีพพระราชทานเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยต่อไป
**“มาร์ค”ได้ฤกษ์ลงดูใต้จมน้ำ
มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องประสบกับอุทกภัยอย่างหนักมาร่วม 1 สัปดาห์ ในวันนี้ (30มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะเดินทางเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ โดยหนึ่งในเป้าหมาย คือ การพบปะประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.พร้อมกับมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ปัญหาภัยพิบัติภาคใต้ ตนได้ลาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แล้ว เพื่อเดินทางไปเยี่ยมพี่น้องภาคใต้ในวันนี้ โดยไปที่ตะลุมพุกแล้วจะดูว่าจะเยี่ยมประชาชนที่อพยพในหลายพื้นที่ได้มากน้อยหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องการเยียวยาที่พี่น้องกังวล กำลังหารือกันอยู่และจะประเมินตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ได้ทราบว่าภาคเหนือก็มีปัญหา วัวเสียชีวิตจำนวนมาก ที่เกิดจากภัยหนาวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ได้เร่งเข้าไปดูแลช่วยแก้ปัญหา ขณะที่ภาคอีสานมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ตนก็พยายามตามทุกเรื่องและเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ
**รถไฟสายใต้หยุดบริการไร้กำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่วิกฤตหนักและรุ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการคมนาคมบทถนนทุกสายที่มุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้เกือบทุกสายจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว ยังได้ส่งผลกระทบกับการเดินรถไฟสายใต้ด้วย
โดยล่าสุดทางศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศหยุดเดินรถไฟสายใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องกรุงเทพฯ ชั่วคราวเกือบทุกขบวนโดยไม่มีกำหนด มีเพียงขบวนรถด่วนที่ 430 และ 440 ที่วิ่งไปกลับกรุงเทพฯ-ชุมพร ที่ยังสามารถให้บริการได้ รวมทั้งขบวนรถท้องถิ่นระหว่างสถานีหาดใหญ่กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังให้บริการตามปกติ ส่งผลให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยรถไฟขึ้นกรุงเทพฯ จำเป็นต้องใช้บริการรถทัวร์แทน
**เครื่องบินลงใต้หยุดให้บริการชั่วคราว
สายการบินวัน-ทู-โก แจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำให้สนามบินนครศรีธรรมราช จำเป็นต้องปิดทำการชั่วคราวนั้น สายการบินได้ดำเนินงานช่วยเหลือผู้โดยสารด้วยเที่ยวบินพิเศษดอนเมือง-กระบี่-ดอนเมือง ในวันที่ 30 มี.ค.และ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถขนส่งได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้น ผู้โดยสารที่ซื้อบัตรโดยสารเส้นทางนครศรีธรรมราช ยังสามารถเปลี่ยนวันเดินทาง หรือคืนเงินได้ภายใน 30 วัน หรือเปลี่ยนเส้นทางบินไปที่จังหวัดตรังและหาดใหญ่ก็ได้
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ แจ้งว่า สายการบินนกแอร์ ได้ร่วมกับ บขส.สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปมายัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยการจัดให้มีบริการรถ บขส.เชื่อมระหว่างท่าอากาศยานตรัง กับท่าอากาศนครศรีธรรมราช โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนผู้ซื้อตั๋วนกแอร์แล้วต้องการจะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ก็สามารถ check in ที่รถ บขส.เพื่อมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานตรัง ได้เช่นเดียวกัน
**เมืองคอนยังวิกฤตหนักทั้ง23อำเภอ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ยังคงวิกฤตหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 23 อำเภอ ยังเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่องส่งผลให้หลายพื้นที่อยู่ในสภาพวิกฤต ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอพยพออกมาอยู่ยังที่ปลอดภัย เนื่องจากนอกจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักแล้วยังมีลมกรรโชกเข้ามาเสริมอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มอย่างต่อเนื่อง ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ด้วย
โดยในช่วงเวลา 13.00 น.วานนี้ ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลทะลักลงมาตามลำคลองท่าเลา และคลองทุ่งสง เข้าท่วมตลาดในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ชาวบ้านต้องพากันหนีน้ำตั้งตัวแทบไม่ทัน ต่างพากันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย ถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จมอยู่ใต้น้ำ ถนนชนปรีดา ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจมีระดับน้ำสูงถึง 1-2 เมตร แถมมีลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นในเขตเทศบาลโค่นล้มลงมาจำนวนหลายต้น
นายคเณศวร์ คงหอม รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ.ชะอวด ว่า ทั้งอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง อ.พิปูน มีปริมาณน้ำเต็มความจุและล้นอาคารระบายน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า อ่างยังมั่นคงแข็งแรง ไม่มีร้าวหรือแตกแต่อย่างใด
**ชาวบ้านโวยไม่เห็นหัวส.ส.-รัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ ม.2 และ ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนอาศัยอยู่ราว 250 ครัวเรือน พบว่า คลื่นสูงกว่า 4 เมตร ระดับน้ำทะเลหนุนยกตัวเข้าซัดหมู่บ้านตลอดแนว ถนนคอนกรีตพังเสียหายยับเยิน บ้านชาวบ้านถูกทะเลกลืนไปแล้วหลายหลัง ต้นมะพร้าวถูกทะเลเซาะล้มระเนระนาด และที่ยังยืนต้นมั่นคงกลับถูกแรงลมพัดจนหักกลางอย่างน่าใจหาย และในหมู่บ้านมีชาวบ้านที่อยู่ในอาการสับสน ออกมายืนดูบ้าน และเรือประมง อุปกรณ์ในการหาปลาอย่างไร้ทางออก
นางประกาย ชูดวง อายุ 45 ปี กล่าวว่า ทะเลและคลื่นได้ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อราวเที่ยงคืน ไม่มีใครได้หลับนอนกัน คลื่นซัดถล่มอย่างหนัก บ้านพังไปแล้วหลายหลัง ต้นมะพร้าวโค่นล้มอย่างต่อเนื่อง เราเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเหลียวแล อยากขอความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องอาหารลำบากอย่างมาก และสิ่งที่ต้องขอต่อจากนี้ คือ เรื่องที่อยู่อาศัยอีกไม่กี่เดือนไม่กี่วันทั้ง 2 หมู่บ้านถูกซัดกัดเซาะลงทะเลจนหมดแน่นอน แม้แต่ถนนคอนกรีตที่ช่วยกั้นอยู่ยังทนไม่ได้พังยับเยินไปแล้ว
"ชาวประมงพื้นบ้านที่นี่ออกหาปลาไม่ได้หลายวันแล้ว รายจ่ายต้องจ่ายทุกวันต้องไปหยิบยืมกู้เงินดอกเบี้ยแพงมาใช้จ่ายก่อน ไม่รู้จะหาที่ไหน อยากบอกไปถึงนายกรัฐมนตรี ส.ส.ในพื้นที่ ช่วยเหลือชาวแหลมตะลุมพุก 2 หมู่บ้านนี้ด้วย จะอพยพก็ไม่รู้จะอพยพไปไหนใครก็ไม่มาดูผู้เกี่ยวข้องหายหมด เห็นที่มีมาเมื่อเช้านี้มีปลัดอำเภอมาคนหนึ่งแล้วหายไปเลย”
นายสนธยา สิงห์แก้ว อายุ 32 ปี ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า กระแสลมพัดอย่างหนัก คลื่นแรงสูงมากเข้าซัดหมู่บ้าน น้ำทะเลหนุนสูง พัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เที่ยงคืน ชาวบ้านต้องพยายามป้องกันทรัพย์สินของตัวเองที่สุด แต่ทั้งน้ำ คลื่นลมเข้ามาพร้อมกันต้องปล่อยให้พังไปต่อหน้าต่อตา เดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งพาใคร ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ เชื่อว่า อีกไม่นานทะเลกลืนหมู่บ้านนี้ทั้งหมด
**กลัวจระเข้ขออพยพออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวบ้านได้มีความกังวลหลังจากทราบข่าวว่ามีจระเข้หลุดออกมาจากสวนสัตว์ จึงเพิ่มความกลัวให้กับชาวบ้านทั้งหมด จึงไปประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยอพยพไปอยู่ที่อื่นก่อน แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ จึงประสานไปยังมูลนิธิประชาร่วมใจว่า เกิดเหตุโรงอิฐพังชาวบ้านติดอยู่ข้างในหลายคน เมื่อรับแจ้งมูลนิธิพร้อมด้วย อบต.ปากพูน จึงมาช่วยอพยพช่วยเหลือ โดยพาไปพักอาศัยอยู่ภายในกองทัพภาค 4 ค่ายวชิราวุธ
ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามไล่ล่าจระเข้ตามการพบเห็นของประชาชนในจุดต่างๆ เช่น ในลำคลองท่าแพ ต.ปากพูน ต.นาทราย ต.นาเคียน และล่าสุดนั้น ยังมีรายการพบเห็นย่าน ต.โพธิ์เสด็จ อีกหลายตัว
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้พบแล้ว 6 ตัว ตัวที่ 6 นั้นเป็นรู้จักของเด็ก คือ “ไอ้ค่อม” เป็นจระเข้พิการ พบว่า ตายอยู่ในกรงเลี้ยงตอนนี้พองอืด เจ้าหน้าที่ได้นำออกมาแล้ว และเชื่อว่า ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในบริเวณสวนสัตว์ แต่ยังหาไม่พบอีก 4 ตัว ดังนั้น ที่พบหลายจุดของตัวเมืองนั้น แน่นอนแล้วว่าเป็นจระเข้ที่หลุดมาจากการเลี้ยงของประชาชน ซึ่งไม่รู้ว่าพฤติกรรมการกินนั้นเป็นเช่นไร แต่ยืนยันว่า อันตรายมาก
**สุราษฎร์ฯอ่วมหนักตาย4สูญหาย1
ส่วนที่ จ.สุราษฏร์ธานี น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าฉาง และพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่บ้านนาลึก ต.มะลวน เขตรอยต่อของทั้งสองอำเภอ น้ำมาเร็วและไหลแรงสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านต้องเก็บข้าวของที่จำเป็นที่พอจะเก็บได้ใส่กะละมัง หอบลูกจูงหลานลุยน้ำออกนอกพื้นที่ โดยขณะนี้ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังเข้าไปไม่ถึง
ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงวันนี้ มีรวม 4 คน สูญหายอีก 1 คน
ส่วนที่ อ.เกาะสมุย ถนนเกือบทุกสายถูกน้ำท่วม นักท่องเที่ยวราว 600-700 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากเกาะ แต่ยังไม่สามารถเดินทางออกมาได้ เนื่องจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์สหยุดให้บริการโดยไม่มีกำหนด นอกจากนั้น เรือวิ่งระหว่าง อ.ดอนสัก เกาะสมุย ก็หยุดให้บริการโดยไม่มีกำหนดเช่นกัน เนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูงถึง 3 เมตร
**พัทลุงถนนถูกตัดขาดทุกเส้นทาง
ที่ จ.พัทลุง ก็ยังวิกฤตหนักเช่นกัน ฝนยังตกต่อเนื่องส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อ.กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม และ อ.ศรีบรรพต อีกครั้ง โดยเฉพาะ อ.ศรีบรรพต ได้เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มและดินสไลด์ความยาวประมาณ 100 เมตร และห่างตัวบ้านเพียง 1 เมตร จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องอพยพออก ซึ่งกินบริเวณกว้าง 5 จุด และถนนเข้าสู่ อ.ศรีบรรพต ถูกตัดขาดทุกเส้นทางแล้ว ขณะที่ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนต่างพากันวิ่งหนีตายกันให้วุ่น
**ตรังเร่งอพยพผู้ป่วยรพ.นาโยง
ส่วนที่ จ.ตรัง ช่วงเวลา 15.30 น.วานนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง โดยระดับน้ำบนถนนสายตรัง-พัทลุง สูงกว่า 90 ซม.เป็นระยะทางยาว 2-3 กิโลเมตร ส่งผลให้รถเกือบทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ ขณะที่พื้นที่ชั้นในซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ติดกับคลองนางน้อย มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือท้องแบนในการเดินทาง
ขณะที่โรงพยาบาลนาโยงได้เคลื่อนย้ายคนไข้ที่ป่วยหนักเพื่อส่งต่อไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง 9 ราย ประกอบด้วย คนไข้ที่ป่วยโรคปอด คนไข้เลือดออก คนไข้ใกล้คลอด คนไข้อุบัติเหตุทางสมองที่ต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา ส่วนคนไข้อื่นยังไม่เคลื่อนย้ายและยังเปิดให้บริการตามปกติแม้ว่าบางส่วนของโรงพยาบาลจะประสบปัญหาน้ำท่วมก็ตาม
**เตือนใต้ฝนตกหนักอีก1-2วัน
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย เรื่องสภาวะน้ำท่วมในภาคใต้ ฉบับที่ 14 ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณ จ.กระบี่ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันตั้งแต่คืนวานนี้ (29มี.ค.) ลักษณะเช่นนี้ ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดเพิ่มขึ้นต่อไปอีก1-2 วัน หลังจากนั้นปริมาณฝนตกหนักจะลดลง
**คชอ.อนุมัติกว่า20ล้านซื้อถุงยังชีพ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) แถลงภายหลังมีการประชุมว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณ 22,400,000 บาท ในการจัดซื้อถุงยังชีพ 40,000 ถุง ถุงละ 560 บาทรวมค่าขนส่งในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะเริ่มแจกจ่ายในวันนี้ (30มี.ค.) เป็นต้นไป โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดำเนินการให้ครอบคลุมไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบประมาณให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุน้ำท่วม 11 รายศพละ 50,000 บาท ซึ่งไม่รวมกับเงินที่ ปภ.มอบให้ศพละ 25,000 บาท
"ขณะนี้รัฐบาลกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม รวมทั้งพื้นที่ลุ่มที่น้ำอาจจะท่วมถึง พร้อมประกาศเตือนภัย ห้ามเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย" นายสาทิตย์กล่าวและว่า รัฐบาลจะจัดรายการระดมเงินบริจาค ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ในคืนวันนี้ (30มี.ค.) ด้วย
**ทัพเรือส่งเรือหลวง4ลำช่วยคนติดเกาะ
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ประชุมกับส่วนงานของกองทัพเรือ เพื่อที่เตรียมเรือหลวง และอากาศยานที่จะเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ โดยจะนำเรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมอากาศยาน หรือเฮลิคอปเตอร์ แบบซีฮอว์ค 2 ลำ ลงไปยังทัพเรือภาค 2 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ กองทัพเรือ ยังได้จัดเรือหลวงอีก 3 ลำ ได้แก่ เรือหลวงสุโขทัย ให้ไปประจำการที่ทัพเรือภาค 1 ส่วนเรือหลวงบางปะกง และเรือหลวงล่องลม ให้ดูแลในพื้นที่ทัพเรือภาค 3 โดยเรือทั้งสามนี้่ จะมีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ตามเกาะแก่งต่างๆ ที่ไม่สามารถเดินทางออกมาได้
**พันธมิตรฯ ตั้งโรงทานช่วยเหลือ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงในขณะนี้ ว่า ในเบื้องต้นได้มีมติให้พันธมิตรฯ ส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยที่พันธมิตรฯ ส่วนกลาง จะส่งงบประมาณลงไปสนับสนุน แต่ตอนนี้ ยังไม่เปิดรับเงินบริจาคจากประชาชน เพราะยังมีเงินที่ได้รับบริจาคมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โดยเราจะใช้เงินที่พอมีเหลืออยู่ ในการจัดทำอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยใน 6 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อ.เมือง อ.ร่อนพิบูลย์ อ.เชียรใหญ่ อ.ท่าศาลา อ.ปากพนัง และ อ.นบพิตำ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ส่วนท้องถิ่นได้เริ่มให้การช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน โดยตั้งเป็นโรงทานหรือโรงบุญขึ้นมา
วานนี้ (29 มี.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้พระราชทานถุงยังชีพเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้แก่ราษฎรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายประสงค์ วิทูรกิจจา เลขาธิการมูลนิธิฯ พร้อมคณะจากส่วนกลางเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในท้องที่ จ.สุราษฎร์ธานี พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช รวม 4,000 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าสิ่งของสงเคราะห์ทั้งสิ้น 3,286,119 บาท
วันเดียวกัน เวลา 12.00 น.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงโปรดให้นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ จัดเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรจุถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย สำหรับให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ในเบื้องต้นอีก 3,000 ชุด โดยเดินทางจากกองบิน 2 กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มายังท่าอากาศยานตรัง โดยนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นตัวแทนพสกนิกรชาวจังหวัดตรัง เดินทางมารับถุงยังชีพพระราชทานเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยต่อไป
**“มาร์ค”ได้ฤกษ์ลงดูใต้จมน้ำ
มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ต้องประสบกับอุทกภัยอย่างหนักมาร่วม 1 สัปดาห์ ในวันนี้ (30มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จะเดินทางเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคใต้ โดยหนึ่งในเป้าหมาย คือ การพบปะประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.พร้อมกับมอบถุงยังชีพและเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ปัญหาภัยพิบัติภาคใต้ ตนได้ลาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แล้ว เพื่อเดินทางไปเยี่ยมพี่น้องภาคใต้ในวันนี้ โดยไปที่ตะลุมพุกแล้วจะดูว่าจะเยี่ยมประชาชนที่อพยพในหลายพื้นที่ได้มากน้อยหรือไม่อย่างไร ส่วนเรื่องการเยียวยาที่พี่น้องกังวล กำลังหารือกันอยู่และจะประเมินตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ได้ทราบว่าภาคเหนือก็มีปัญหา วัวเสียชีวิตจำนวนมาก ที่เกิดจากภัยหนาวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ได้เร่งเข้าไปดูแลช่วยแก้ปัญหา ขณะที่ภาคอีสานมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ตนก็พยายามตามทุกเรื่องและเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ
**รถไฟสายใต้หยุดบริการไร้กำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่วิกฤตหนักและรุ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการคมนาคมบทถนนทุกสายที่มุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้เกือบทุกสายจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว ยังได้ส่งผลกระทบกับการเดินรถไฟสายใต้ด้วย
โดยล่าสุดทางศูนย์ภาคใต้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศหยุดเดินรถไฟสายใต้ทั้งขาขึ้นและขาล่องกรุงเทพฯ ชั่วคราวเกือบทุกขบวนโดยไม่มีกำหนด มีเพียงขบวนรถด่วนที่ 430 และ 440 ที่วิ่งไปกลับกรุงเทพฯ-ชุมพร ที่ยังสามารถให้บริการได้ รวมทั้งขบวนรถท้องถิ่นระหว่างสถานีหาดใหญ่กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังให้บริการตามปกติ ส่งผลให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยรถไฟขึ้นกรุงเทพฯ จำเป็นต้องใช้บริการรถทัวร์แทน
**เครื่องบินลงใต้หยุดให้บริการชั่วคราว
สายการบินวัน-ทู-โก แจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำให้สนามบินนครศรีธรรมราช จำเป็นต้องปิดทำการชั่วคราวนั้น สายการบินได้ดำเนินงานช่วยเหลือผู้โดยสารด้วยเที่ยวบินพิเศษดอนเมือง-กระบี่-ดอนเมือง ในวันที่ 30 มี.ค.และ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถขนส่งได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้น ผู้โดยสารที่ซื้อบัตรโดยสารเส้นทางนครศรีธรรมราช ยังสามารถเปลี่ยนวันเดินทาง หรือคืนเงินได้ภายใน 30 วัน หรือเปลี่ยนเส้นทางบินไปที่จังหวัดตรังและหาดใหญ่ก็ได้
นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ แจ้งว่า สายการบินนกแอร์ ได้ร่วมกับ บขส.สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปมายัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยการจัดให้มีบริการรถ บขส.เชื่อมระหว่างท่าอากาศยานตรัง กับท่าอากาศนครศรีธรรมราช โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนผู้ซื้อตั๋วนกแอร์แล้วต้องการจะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ก็สามารถ check in ที่รถ บขส.เพื่อมาขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานตรัง ได้เช่นเดียวกัน
**เมืองคอนยังวิกฤตหนักทั้ง23อำเภอ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ยังคงวิกฤตหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 23 อำเภอ ยังเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่องส่งผลให้หลายพื้นที่อยู่ในสภาพวิกฤต ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย ต้องอพยพออกมาอยู่ยังที่ปลอดภัย เนื่องจากนอกจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักแล้วยังมีลมกรรโชกเข้ามาเสริมอย่างรุนแรงทำให้ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มอย่างต่อเนื่อง ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ด้วย
โดยในช่วงเวลา 13.00 น.วานนี้ ได้มีน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลทะลักลงมาตามลำคลองท่าเลา และคลองทุ่งสง เข้าท่วมตลาดในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ชาวบ้านต้องพากันหนีน้ำตั้งตัวแทบไม่ทัน ต่างพากันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย ถนนทุกสายในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จมอยู่ใต้น้ำ ถนนชนปรีดา ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจมีระดับน้ำสูงถึง 1-2 เมตร แถมมีลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่หลายต้นในเขตเทศบาลโค่นล้มลงมาจำนวนหลายต้น
นายคเณศวร์ คงหอม รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ.ชะอวด ว่า ทั้งอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง อ.พิปูน มีปริมาณน้ำเต็มความจุและล้นอาคารระบายน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า อ่างยังมั่นคงแข็งแรง ไม่มีร้าวหรือแตกแต่อย่างใด
**ชาวบ้านโวยไม่เห็นหัวส.ส.-รัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ ม.2 และ ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนอาศัยอยู่ราว 250 ครัวเรือน พบว่า คลื่นสูงกว่า 4 เมตร ระดับน้ำทะเลหนุนยกตัวเข้าซัดหมู่บ้านตลอดแนว ถนนคอนกรีตพังเสียหายยับเยิน บ้านชาวบ้านถูกทะเลกลืนไปแล้วหลายหลัง ต้นมะพร้าวถูกทะเลเซาะล้มระเนระนาด และที่ยังยืนต้นมั่นคงกลับถูกแรงลมพัดจนหักกลางอย่างน่าใจหาย และในหมู่บ้านมีชาวบ้านที่อยู่ในอาการสับสน ออกมายืนดูบ้าน และเรือประมง อุปกรณ์ในการหาปลาอย่างไร้ทางออก
นางประกาย ชูดวง อายุ 45 ปี กล่าวว่า ทะเลและคลื่นได้ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อราวเที่ยงคืน ไม่มีใครได้หลับนอนกัน คลื่นซัดถล่มอย่างหนัก บ้านพังไปแล้วหลายหลัง ต้นมะพร้าวโค่นล้มอย่างต่อเนื่อง เราเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเหลียวแล อยากขอความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องอาหารลำบากอย่างมาก และสิ่งที่ต้องขอต่อจากนี้ คือ เรื่องที่อยู่อาศัยอีกไม่กี่เดือนไม่กี่วันทั้ง 2 หมู่บ้านถูกซัดกัดเซาะลงทะเลจนหมดแน่นอน แม้แต่ถนนคอนกรีตที่ช่วยกั้นอยู่ยังทนไม่ได้พังยับเยินไปแล้ว
"ชาวประมงพื้นบ้านที่นี่ออกหาปลาไม่ได้หลายวันแล้ว รายจ่ายต้องจ่ายทุกวันต้องไปหยิบยืมกู้เงินดอกเบี้ยแพงมาใช้จ่ายก่อน ไม่รู้จะหาที่ไหน อยากบอกไปถึงนายกรัฐมนตรี ส.ส.ในพื้นที่ ช่วยเหลือชาวแหลมตะลุมพุก 2 หมู่บ้านนี้ด้วย จะอพยพก็ไม่รู้จะอพยพไปไหนใครก็ไม่มาดูผู้เกี่ยวข้องหายหมด เห็นที่มีมาเมื่อเช้านี้มีปลัดอำเภอมาคนหนึ่งแล้วหายไปเลย”
นายสนธยา สิงห์แก้ว อายุ 32 ปี ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า กระแสลมพัดอย่างหนัก คลื่นแรงสูงมากเข้าซัดหมู่บ้าน น้ำทะเลหนุนสูง พัดเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เที่ยงคืน ชาวบ้านต้องพยายามป้องกันทรัพย์สินของตัวเองที่สุด แต่ทั้งน้ำ คลื่นลมเข้ามาพร้อมกันต้องปล่อยให้พังไปต่อหน้าต่อตา เดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งพาใคร ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ เชื่อว่า อีกไม่นานทะเลกลืนหมู่บ้านนี้ทั้งหมด
**กลัวจระเข้ขออพยพออกจากพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวบ้านได้มีความกังวลหลังจากทราบข่าวว่ามีจระเข้หลุดออกมาจากสวนสัตว์ จึงเพิ่มความกลัวให้กับชาวบ้านทั้งหมด จึงไปประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยอพยพไปอยู่ที่อื่นก่อน แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ จึงประสานไปยังมูลนิธิประชาร่วมใจว่า เกิดเหตุโรงอิฐพังชาวบ้านติดอยู่ข้างในหลายคน เมื่อรับแจ้งมูลนิธิพร้อมด้วย อบต.ปากพูน จึงมาช่วยอพยพช่วยเหลือ โดยพาไปพักอาศัยอยู่ภายในกองทัพภาค 4 ค่ายวชิราวุธ
ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกติดตามไล่ล่าจระเข้ตามการพบเห็นของประชาชนในจุดต่างๆ เช่น ในลำคลองท่าแพ ต.ปากพูน ต.นาทราย ต.นาเคียน และล่าสุดนั้น ยังมีรายการพบเห็นย่าน ต.โพธิ์เสด็จ อีกหลายตัว
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้พบแล้ว 6 ตัว ตัวที่ 6 นั้นเป็นรู้จักของเด็ก คือ “ไอ้ค่อม” เป็นจระเข้พิการ พบว่า ตายอยู่ในกรงเลี้ยงตอนนี้พองอืด เจ้าหน้าที่ได้นำออกมาแล้ว และเชื่อว่า ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในบริเวณสวนสัตว์ แต่ยังหาไม่พบอีก 4 ตัว ดังนั้น ที่พบหลายจุดของตัวเมืองนั้น แน่นอนแล้วว่าเป็นจระเข้ที่หลุดมาจากการเลี้ยงของประชาชน ซึ่งไม่รู้ว่าพฤติกรรมการกินนั้นเป็นเช่นไร แต่ยืนยันว่า อันตรายมาก
**สุราษฎร์ฯอ่วมหนักตาย4สูญหาย1
ส่วนที่ จ.สุราษฏร์ธานี น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าฉาง และพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่บ้านนาลึก ต.มะลวน เขตรอยต่อของทั้งสองอำเภอ น้ำมาเร็วและไหลแรงสูง 1-2 เมตร ชาวบ้านต้องเก็บข้าวของที่จำเป็นที่พอจะเก็บได้ใส่กะละมัง หอบลูกจูงหลานลุยน้ำออกนอกพื้นที่ โดยขณะนี้ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังเข้าไปไม่ถึง
ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงวันนี้ มีรวม 4 คน สูญหายอีก 1 คน
ส่วนที่ อ.เกาะสมุย ถนนเกือบทุกสายถูกน้ำท่วม นักท่องเที่ยวราว 600-700 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากเกาะ แต่ยังไม่สามารถเดินทางออกมาได้ เนื่องจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์สหยุดให้บริการโดยไม่มีกำหนด นอกจากนั้น เรือวิ่งระหว่าง อ.ดอนสัก เกาะสมุย ก็หยุดให้บริการโดยไม่มีกำหนดเช่นกัน เนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูงถึง 3 เมตร
**พัทลุงถนนถูกตัดขาดทุกเส้นทาง
ที่ จ.พัทลุง ก็ยังวิกฤตหนักเช่นกัน ฝนยังตกต่อเนื่องส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อ.กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ป่าพะยอม และ อ.ศรีบรรพต อีกครั้ง โดยเฉพาะ อ.ศรีบรรพต ได้เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มและดินสไลด์ความยาวประมาณ 100 เมตร และห่างตัวบ้านเพียง 1 เมตร จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องอพยพออก ซึ่งกินบริเวณกว้าง 5 จุด และถนนเข้าสู่ อ.ศรีบรรพต ถูกตัดขาดทุกเส้นทางแล้ว ขณะที่ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนต่างพากันวิ่งหนีตายกันให้วุ่น
**ตรังเร่งอพยพผู้ป่วยรพ.นาโยง
ส่วนที่ จ.ตรัง ช่วงเวลา 15.30 น.วานนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง โดยระดับน้ำบนถนนสายตรัง-พัทลุง สูงกว่า 90 ซม.เป็นระยะทางยาว 2-3 กิโลเมตร ส่งผลให้รถเกือบทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ ขณะที่พื้นที่ชั้นในซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ติดกับคลองนางน้อย มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือท้องแบนในการเดินทาง
ขณะที่โรงพยาบาลนาโยงได้เคลื่อนย้ายคนไข้ที่ป่วยหนักเพื่อส่งต่อไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง 9 ราย ประกอบด้วย คนไข้ที่ป่วยโรคปอด คนไข้เลือดออก คนไข้ใกล้คลอด คนไข้อุบัติเหตุทางสมองที่ต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา ส่วนคนไข้อื่นยังไม่เคลื่อนย้ายและยังเปิดให้บริการตามปกติแม้ว่าบางส่วนของโรงพยาบาลจะประสบปัญหาน้ำท่วมก็ตาม
**เตือนใต้ฝนตกหนักอีก1-2วัน
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย เรื่องสภาวะน้ำท่วมในภาคใต้ ฉบับที่ 14 ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณ จ.กระบี่ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันตั้งแต่คืนวานนี้ (29มี.ค.) ลักษณะเช่นนี้ ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดเพิ่มขึ้นต่อไปอีก1-2 วัน หลังจากนั้นปริมาณฝนตกหนักจะลดลง
**คชอ.อนุมัติกว่า20ล้านซื้อถุงยังชีพ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) แถลงภายหลังมีการประชุมว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณ 22,400,000 บาท ในการจัดซื้อถุงยังชีพ 40,000 ถุง ถุงละ 560 บาทรวมค่าขนส่งในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะเริ่มแจกจ่ายในวันนี้ (30มี.ค.) เป็นต้นไป โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดำเนินการให้ครอบคลุมไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบประมาณให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุน้ำท่วม 11 รายศพละ 50,000 บาท ซึ่งไม่รวมกับเงินที่ ปภ.มอบให้ศพละ 25,000 บาท
"ขณะนี้รัฐบาลกังวลว่าสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้น จึงกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม รวมทั้งพื้นที่ลุ่มที่น้ำอาจจะท่วมถึง พร้อมประกาศเตือนภัย ห้ามเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย" นายสาทิตย์กล่าวและว่า รัฐบาลจะจัดรายการระดมเงินบริจาค ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ในคืนวันนี้ (30มี.ค.) ด้วย
**ทัพเรือส่งเรือหลวง4ลำช่วยคนติดเกาะ
พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ประชุมกับส่วนงานของกองทัพเรือ เพื่อที่เตรียมเรือหลวง และอากาศยานที่จะเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ โดยจะนำเรือหลวงจักรีนฤเบศร พร้อมอากาศยาน หรือเฮลิคอปเตอร์ แบบซีฮอว์ค 2 ลำ ลงไปยังทัพเรือภาค 2 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ กองทัพเรือ ยังได้จัดเรือหลวงอีก 3 ลำ ได้แก่ เรือหลวงสุโขทัย ให้ไปประจำการที่ทัพเรือภาค 1 ส่วนเรือหลวงบางปะกง และเรือหลวงล่องลม ให้ดูแลในพื้นที่ทัพเรือภาค 3 โดยเรือทั้งสามนี้่ จะมีภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ตามเกาะแก่งต่างๆ ที่ไม่สามารถเดินทางออกมาได้
**พันธมิตรฯ ตั้งโรงทานช่วยเหลือ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงในขณะนี้ ว่า ในเบื้องต้นได้มีมติให้พันธมิตรฯ ส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยที่พันธมิตรฯ ส่วนกลาง จะส่งงบประมาณลงไปสนับสนุน แต่ตอนนี้ ยังไม่เปิดรับเงินบริจาคจากประชาชน เพราะยังมีเงินที่ได้รับบริจาคมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โดยเราจะใช้เงินที่พอมีเหลืออยู่ ในการจัดทำอาหารให้แก่ผู้ประสบภัยใน 6 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อ.เมือง อ.ร่อนพิบูลย์ อ.เชียรใหญ่ อ.ท่าศาลา อ.ปากพนัง และ อ.นบพิตำ ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ส่วนท้องถิ่นได้เริ่มให้การช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน โดยตั้งเป็นโรงทานหรือโรงบุญขึ้นมา