“จำลอง” ยันเคยชุมนุมตรงนี้ เมื่อครั้งกาชาดปี 49 ไม่เห็นงานเสีย ระบุแผ่นดินไหวที่โกเบ โครงการเมืองหลวงห่วงเมืองใต้ สึนามิปี47 แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่ากาชาดแต่ก็เป็นสิ่งที่ประชาชนทำเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขตามทัศนคติของกาชาด พร้อมถามกลับ ตร. ใครให้กาชาดมากกว่ากันถึงได้พูดผู้ชุมนุมไม่รู้จักความสำคัญงานกาชาด ย้ำหากยังมีนายกฯ ไม่เอาไหน ปชช.ตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด เตรียมโดนเขมรไล่ในไม่ช้านี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
วันที่ 13 มี.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พรุ่งนี้จะไปยืนคำขาดต่อส.ส. ว่า วันที่ 22 มี.ค.2554 อย่ายกมือลงมติให้ผ่านบันทึกผลการประชุมคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เพราะทำให้เสียดินแดน หากยกมือสนับสนุน คณะกรรมการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดินจะฟ้องโทษหนังถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต และส่วนที่ตำรวจมาไล่เราโดยเอางานกาชาดมาอ้าง นั้น ที่แล้วๆมาการชุมนุมของเราตรงนี้ไม่ได้ขัดขวางงานกาชาดเลย เช่นเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2549 พอเขาจะจัดงานกาชาด เราก็ย้ายเวทีมาสะพานมัฆวาน งานกาชาดไม่เห็นเสียหาย
งานกาชาด คือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ส่งอาหาร เสื้อผ้า เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขคนที่ประสบปัญหา อย่างไรก็ดีตนได้ทำมาบ้างแม้ไม่ใหญ่เท่าสภากาชาด เช่นเมื่อ17 มี.ค.2538 แผ่นดินไหวที่โกเบ แล้ววันที่ 21 มี.ค. ตนได้เอาของบริจาคผ้านวมอย่างดี 4,000 กว่าผืน ข้าวหลามเกือบตัน อาหารแห้ง ส่งไปทางเครื่องบินสายเจแปนแอร์ไลน์ โดยไม่อาศัยเงินหลวงสักบาท
ทั้งนี้ญี่ปุ่นเขาถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐิจ ตอนนั้นเขาไม่เคยขอร้องใคร รองผู้ว่าราชการโกแบมารับของจากตนน้ำตาคลอเลย เราเลยกลายเป็นประเทศแรกของโลก ที่เข้าไปถึงโกเบก่อนใคร โดยไมใช้เงินหลวง ตอนนี้รัฐบาลจะใช้ 7,000 กว่าล้าน ทำเป็นอย่างเดียวผลาญเงินของชาติ แม้จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็ตาม แต่เราทำมาแล้วโดยไม่ใช้เงินภาษีประชาชนสักบาท
นอกจากนี้ตนยังเคยเป็นประธานคณะกรรมการรวมน้ำใจไทยสู่อิรัก เราทำแบบเดียวกับกาชาด ส่งข้าวถึง 271 ตัน โดยไม่ใช้เงินหลวงเหมือนกัน และเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย ช่วง ธ.ค. 2547 ตนก็เป็นผู้ประสานงาน ทำให้ต่างชาติส่งคณะแพทย์ และเครื่องพยาบาลมาเป็นตัน นอกจากนี้ตอนน้ำท่วมใหญ่ ที่สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช เราตั้งโครงการเมืองหลวงห่วงเมืองใต้ ส่งข้าวของที่จำเป็นไปช่วยถึง 3 ขบวน โดยขบวนแรกรถบรรทุกข้าวของ 85 คัน เราช่วยโดยได้รับเงินบริจาคจากประชาชน เท่ากับเราทำแทนกาชาด มีตำรวจคนไหนบ้างทำเท่าตน แล้วจะมาอ้างว่าเราไม่รู้ความสำคัญของงานกาชาด งานเสร็จแล้วแต่เงินยังเหลือก็ไปตั้งมูลนิธิ เมืองหลวงห่วงเมืองใต้ใน จ.สุราษฏร์ธานี จ.นครศรีธรรมราชเพื่อเก็บดอกผลมาช่วยเมื่อเกิดภัยพิบัติ เป็นการทำงานคล้ายกาชาด แม้ไม่ใหญ่โตเท่า แต่ก็สามารถทำได้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่าเป้าหมายการชุมนุมของเรา คือ ทวงพื้นที่ที่เสียให้เขมรกลับคืน และป้องกันไม่ให้เสียอีกต่อไป ที่ผ่านมาเราพูดแต่เรื่อง 4.6 ตารางกิโลเมตร เมื่อรัฐบาลไม่ยอมทำอะไรเลยเพื่อปกป้องดินแดน แล้วหากพวกเราไม่ช่วยกันกดดันนายกฯให้ทำหน้าที่ พี่น้องในจังหวัด อุบลราชธานี ศรีสะเกส สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ได้ บางอำเภอเตรียมอภยพได้แล้ว กัมพูชาจะใช้แผนที่ 1:200000 ทำให้บางพื้นตามตะเข็บ1ล้าน 8 แสนไร่ กลายเป็นที่ดินของเขมร
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป้าหมายใหญ่สุด เสียดินแดนอย่างไม่เคยมีมาก่อน คราวนี้เราไม่ต้องเป่าหวีด รัฐบาลจะสั่งตำรวจเป่าเอง แล้วก็เป่ามาแล้วให้เราไปจากที่นี้ ก่อน 15 มี.ค. 2554 ตำรวจบอก 04.00 ยังไม่สลาย โดยเอาตำแหน่งมายืนยัน อย่างไรก็ดี เราไม่เชื่อใจตำรวจ แต่คืนนี้ขอให้พี่น้องอย่าตกใจ นอนกลับให้สบาย พล.อ.ปรีชาและคณะอยู่เป็นเพื่อนเรา นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง พล.อ.ปรีชา ผู้ที่ผ่านสมรภูมิมากที่สุดในประเทศไทย
“หากวันที่ 15 แล้วตำรวจยังไม่สลาย แสดงว่าคุณแย่แล้วแหละ เพราะคุณเห็นพวกเรามาเยอะใช่หรือไม่ เชื่อรับบาลอยู่ไม่ได้เขาต้องให้สลายโดยเร็ว คราวหน้าเขาเป่านกหวีดเมื่อไรก็มาเมื่อนั้น ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ” พล.ต.จำลอง กล่าว
