"สมศักดิ์" ยก"อภิสิทธิ์" เป็นนักโต้วาทีชั้นยอด เก่งอย่างเดียวแก้ตัวไปวันๆ ซัดหมดจรรยาบรรณการเมืองตั้งแต่หอบดอกไม้ให้ "ห้อย-เติ้ง" แนะหากมีเลือกตั้งต้องเลือกคนอาสาเข้าทำการเมือง ไม่ใช่อาชีพการเมือง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสมศักดิ์ โกศัยสุข”
วันที่ 25 ก.พ. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่ามันจบแล้วเรื่องดินแดน เมื่อต่างชาติเข้ามายึดครองแล้วเราทำอะไรไม่ได้เท่ากับเราเสียไปแล้วชัดเจน ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่ยอมรับสารภาพ เพราะหากพูดว่าเสียจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ทำให้เห็นภาพแก้ตัวเพื่อให้มีชีวิตรอดไปวันๆ
ปัญหาของไทยเรื่องใหญ่ๆ มี 1.การทุจริต มีมากเป็นอันดับสองของทวีปเอเซีย หากรัฐบาลแก้เรื่องนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปทำอย่างอื่น เพราะนักการเมืองจะอาศัยเงินเป็นอาวุธในการต่อสู้ แน่นอนต้องไปสมคบกับนักธุรกิจแสวงหาผลประโยชน์ 2.กระจายรายได้ เพราะประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง พี่น้องจะหวังอะไรกับคนพวกนี้ เกิดมาอยู่บนกองเงินกองทอง ไม่เคยทุกข์ยากลำบาก จะเข้าใจได้อย่างไร ด่าไปเราก็เมื่อยป่าวๆ มันไม่รู้เรื่องหรอก
นายสมศักดิ์ กล่าวต้องถือว่ารัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ปัญหาภายในทั้งไฟใต้ ข้าวยากหมากแพง ยาเสพติด โจรผู้ร้ายชุกชุม ไม่มีอะไรแก้ได้ ปัญหาภายนอกก็ไม่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 พื้นที่ที่เขมรแอบอ้างว่าเป็นของเขา นั้น อย่าเมินคุณค่าของมัน หากเอามาแจกจ่ายให้ประชาชนคนละ 20 ไร่ จะได้ถึง 55,000 ครอบครัว ทำให้คนไทยที่ไม่มีที่ทำกินได้มีแถมช่วยเศรษฐกิจดีให้ขึ้นด้วย
"วันนี้ พริ้ว เขาเป็นนักโต้วาทีจริงๆ เราพยายามพูดให้หากเขาทำตามแนวทางพันธมิตรฯ ความสามัคคีก็เกิดขึ้นโดยยึดประเทศชาติเป็นใหญ่ แต่เขาทำตามแนวทางฮุนเซน วันดีคืนดีไปติดกับดัก ก็บอกพันธมิตรฯไปพูดเข้าข้างฮุนเซน ไปกันดื้อๆเลยพี่น้อง เมื่อก่อนเราไล่ต้อนเข้ามุมพลิกเอาเราเข้ามุมเอาตัวเองไปอยู่ข้างนอกเลย แล้วต่อไปก็จะกล่าวหาว่า เสียดินแดนเพราะพันธมิตรฯ คอยดูนะมันไปหน้าด้านๆเลย"
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่านักการเมืองที่หน้าด้านหน้าหนามากที่สุดคือประเทศไทย ในสภาวะเช่นนี้หากเป็นนักการเมืองประเทศที่เจริญเขาลาออกไปนานแล้ว หากมีการเลือกตั้ง ต้องเอาคนอาสาเข้าทำการเมือง ไม่ใช่อาชีพการเมือง การเมืองเป็นงานสาธารณะคนเข้าไปต้องจิตอาสาไม่หวังผลประโยชน์ เมื่อเข้าคูหาใช้สิทธิต้องมีสามัญสำนึก ว่า เลือกเข้าไปทำอะไรเพราะเหตุใด มีคุณสมบัติเหมาะสมบริหารประเทศหรือไม่ ไม่ใช่เลือกเพราะแรงจูงใจอย่างอื่น อย่าฟังแต่คำพูดนักการเมืองเพราะมันโกหกตลอดเวลา เป็นนักฉวยโอกาศตรงไหนได้ประโยชน์ก็จะไปตรงนั้น ไม่เช่นนั้นประเทศไทยก็ตกอยู่ในวงจรอุบาว์ท ความทุกยากก็จะเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า
ทั้งนี้ที่นายอภิสิทธิ์ พูดว่าเราต้องมีจรรยาบรรสูงกว่ากฎหมาย แต่ดันทำผิดตั้งแต่เอาดอกไม้ไปให้ นายเนวิน ชิดชอบ นายบรรหาร ศิลปอาชา แล้วเพราะคนเหล่านั้นศาลพิพากษาไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง นอกจากนี้ยังขึ้นเงินเดือนให้ ส.ส. ขี้เกียจหลังยาว งานไม่ทำ สภาล่มแล้วล่มอีก ที่พันธมิตรฯ มาต่อสู้ก็เพื่อประเทศชาติไม่ได้เรียกร้องอะไรเพื่อตนเอง ไม่ได้ขอขึ้นเงินเดือน ไม่ได้ขอให้คนเผาบ้านเผาเมืองออกมา แต่ขออย่างเดียวให้รัฐบาลทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า พี่น้องยังต้องเหน็ดเหนือยในการต่อสู้ แต่อย่าไปเครียดกับนักการเมืองเหล่านี้ อย่าไปตะโกนด่าจนเหนื่อยเมื่อย เราต้องฉลาดเมื่อเขาเป็นอย่างนี้เราต้องเปิดโปง ขุดคุ้ย อย่าไปเสียใจว่าทำไมเขาเป็นเช่นนี้ เมื่อเรารู้เช่นเห็นชาติแล้วจะเสียใจไปทำไม เรียกความรู้สึกดีๆกลับคืนมา ทำให้จิตใจให้เข้มแข็งสุขภาพดี ยึดมั่นว่ามาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ มันมีคุณค่ากว่าจะไปโศกเศร้าเสียใจให้กับคนที่ไม่คุณค่าที่เราจะต้องไปให้ความสำคัญ ตนเชื่อว่ามีคนฟังเท่านี้และผู้ฟังจากทางบ้าน ก็เพียงพอแล้วที่จะผลักดันเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้มีอนาคต