xs
xsm
sm
md
lg

น้ำท่วมใต้ขยายวงกว้างปิดรพ.-สนามบินนครฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ฝนถล่มน้ำป่าทะลัก ดินภูเขาซัดซ้ำกวาดร่างพระธุดงค์ 2 รูปฝั่งในกองไม้ "เมืองคอนวิกฤต" สนามบินจม ประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด "รพ.ท่าศาลา" วุ่นท่วมหนักในรอบ 30 ปี สั่งปิดบริการทันที เร่งอพยพผู้ป่วยหนีไปไว้ รพ.อื่น ขณะจระเข้ 8 ตัวหลุดออกมาแล้ว ชาวบ้านผวาอันตราย ด้าน "สุราษฏร์ฯ-ชุมพร-ระนอง-ตรัง-พัทลุง" อ่วมไม่แพ้กัน "ศชอ."ถกช่วยเหลือ ห่วง 28-29มีนาฯนี้ฝนถล่มขยายพื้นที่เข้า 3 จชต. "นายกฯ" ส่ง "สาทิตย์" ลงพื้นที่ให้มาชี้แจง ครม.วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่า ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวานนี้ (27 มี.ค.)ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้มีน้ำป่าไหลหลาก เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฏรฉับพลัน และดินภูเขาถล่ม ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับในหลายพื้นที่อย่างมาก

โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรม แม้เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (27 มี.ค.) ฝนจะหยุดตกบ้างแล้วก็ตาม แต่ระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ก็ยังไม่ลดลงแต่อย่างใด ขณะที่ในบางพื้นที่ระดับน้ำกลับเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากน้ำจากพื้นที่อื่นไหลเข้ามาสมทบ เช่น ในพื้นที่ อ.เมืองรอบนอก น้ำได้ทะลักเข้าท่วมรันเวย์ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทำให้ทางท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินขึ้น-ลงทุกเที่ยวบินตลอดทั้งวัน เนื่องจากสภาพรันเวย์ถูกน้ำท่วมสูง ระดับน้ำโดยเฉลี่ยประมาณ 20 เซนติเมตร

นายนิสิต สมบัติ ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเผยว่า สภาพท่าอากาศยานได้ถูกน้ำท่วมอย่างหนักตลอดแนวรันเวย์ โดยเฉพาะพื้นผิวสูงกว่า 1-2 ฟุต อากาศยานทุกชนิดไม่สามารถลงจอดได้ จึงจำเป็นต้องประกาศปิดสนามบินชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะเดียวกันการสัญจรเข้าสู่ท่าอากาศยานก็เข้าไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วมสูงมากทุกเส้นทาง

"เราคาดว่าจะมีความเสียหายในเรื่องของระบบไฟนำทางรันเวย์เนื่องจากจมน้ำทังหมด หลังจากน้ำลดต้องเข้าตรวจสอบทั้งสภาพพื้นผิวและระบบลงจอดของอากาศยานทุกตัวอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้โดยสารสามารถประสานกับสายการบินในการคืนตั๋วหรือเลื่อนการทางได้อย่างสะดวก”

**รพ.ท่าศาลาเสียหายหนักในรอบ30ปี

เช่นเดียวกับทางโรงพยาบาลท่าศาลา อ.ท่าศาลา ได้รับความเสียหายอย่างหนักเนื่องจากน้ำได้ทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากเป็นฤดูร้อนแต่คาดไม่ถึงว่าปริมาณน้ำจะมหาศาล ทำให้เครื่องมือแพทย์ เครื่องช่วยชีวิตแบบต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากจมน้ำได้รับความเสียหายโดยมีการประเมินเบื้องต้นนั้นมีมูลค่านับสิบล้านบาท

นายแพทย์ กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.โรงพยาบาลท่าศาลา เปิดเผยว่า รพ.ท่าศาลา ถูกน้ำท่วมสูงที่สุดนับแต่ก่อตั้งสร้างมาแล้วเป็นเวลา 30 ปี วันนี้ต้องหยุดบริการผู้ป่วย 100% เนื่องจากน้ำท่วมในโรงพยาบาลสูงมาก บางจุดสูงถึง 2 เมตร ต้องอพยพผู้ป่วยออกทั้งหมด ไปยังยัง รพ.สิชล รพ.ค่ายวชิราวุธ รพ.มหาราช และโรงพยาบาลเอกชนใกล้เคียง

"น้ำได้ทะลักเข้ามาอย่างเร็วและมีปริมาณมากเดิมเคยท่วมแค่ถนน แต่ในรอบนี้ท่วมสูงเข้าไปในหอผู้ป่วย ห้องต่างๆ ทำให้เครื่องมือแพทย์ เครื่องปั่นไฟ เครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากบางจุดน้ำสูงมากเข้าไปไม่ได้ แต่ดูในเบื้องต้นแล้วนับสิบล้านบาท"

**อุทกภัยเมืองคอนคร่าพระ 2 รูป
 

ส่วนที่ อ.ขนอม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุดในครั้งนี้เช่นกัน ทั้งประสบภัยน้ำท่วมและดินภูเขาถล่ม โดยกระแสน้ำได้กัดเซาะถนนสายในเพลา-ท้องหยี หมู่ 8 ต.ขนอม อ.ขนอม จนคอสะพานขาดกว้างเกือบ 10 เมตร สถานการณ์โดยทั่วไปยังอยู่ในขั้นวิกฤต ในขณะที่ พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ขนอม ได้ระดมกำลังออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการออกค้นหาศพพระธุดงค์ 2 รูป ที่น้ำป่ารวมทั้งดิน และหินภูเขาถล่มลงมาจนสำนักสงฆ์เขาในเพลาพังยับเยิน ทำให้พระธุดงค์ 2 รูป ถูกน้ำพัดพาร่างไปกับสายน้ำจนพบศพในสภาพร่างกายฉีกขาดไม่หลงเหลือจีวรติดร่างกาย เสียชีวิตสุดอนาถ ฝั่งอยู่ในกองไม้และโขดหิน

นอกจากนี้ ในพื้นที่ อ.ขนอม ยังเกิดน้ำท่วมหนักเป็นบริเวณกว้างทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างและตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ มีซากต้นไม้ กิ่งไม้ ซากปรักหักพังต่าง ๆ มากองทับถามกันจำนวนมาก

**จระเข้หลุดยกฝูง-ชาวบ้านผวา
 

มีรายงานข่าวด้วยว่า ก่อนหน่านี้ช่วงเวลา 16.30 น.หลังจากที่มีรายงานว่า จระเข้ภายในสวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราชที่ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ได้หลุดออกมาจากกรงชั้นในและติดอยู่ในกรงชั้นนอกโดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้พยายามเร่งติดตามกลับคืน เนื่องจากเกรงว่าสัตว์อื่นและชาวบ้านในย่านใกล้เคียงจะได้รับอันตราย

ต่อมาพบว่าจระเข้จำนวน 8 ตัวได้หลุดออกมาอยู่ภายนอกแล้วโดยชาวบ้านได้แจ้งการพบเห็นหลายจุดด้วยกัน เช่น หลังสนามบิน ทภ.4 ค่ายวชิราวุธ ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช บริเวณหลังโรงเรียนบ้านชะเอียน ต.ปากพูน อ.เมือง และบริเวณชุมชนมะขามชุม ต.ในเมือง ซึ่งนายสัตวแพทย์ นพราชย์ อินทร์ทองคำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ปืนลูกดอกออกติดตามไล่ล่าอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความขวัญผวาของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง

**ประกาศ20อำเภอพื้นที่ภัยพิบัติ
 

ขณะที่นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติและเปิดศูนย์เฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้วรวม 20 อำเภอ จาก 23 อำเภอ ยกเว้น อ.ทุ่งสง อ.บางขัน และ อ.ทุ่งใหญ่ สภาพน้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน จ.นครศรีธรรมราชครั้งนี้ ถือว่าหนักกว่าจังหวัดอื่นๆ

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เชียรใหญ่ พร้อมกล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในนครศรีธรรมราช ยังน่าเป็นห่วงขอให้ประชาชนอย่านิ่งนอนใจ

**สังเวยน้ำท่วมเมืองคอนแล้ว8ราย
 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำอีก 2 รายรายแรกเมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณบ้านเสม็ดเอน ต.หูล่อง อ.ปากพนัง พบศพนายสุคนธ์ พัฒนสุคนธ์ อายุ 67 ปี อยู่ 138 ม.1 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง เสียชีวิตเนื่องจากลงไปกู้ข่ายดักปลา แต่ถูกกระแสน้ำที่รุนแรงพัดไม่สามารถช่วยตัวเองได้จนเสียชีวิตในที่สุด

ต่อมาในเวลา 17.00 น.พบผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 45-50 ปีอยู่ภายในวัดท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าสาเหตุเนื่องจากการจมน้ำ หากนับผู้เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำในห้วงเวลา 3-4 วันที่ผ่าน มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วถึง 8 ราย

**สุราษฎร์ประกาศภัยภัยพิบัติ11อ.
 

ด้านสถานการณ์ที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมหนักโดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเขต อ.เมือง และอำเภอใกล้เคียง โดยเขต อ.เมืองถนนหลายสายการจราจรติดขัด รถเล็กไม่สามารถผ่านได้

ส่วน อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมหนักสุด หลายพื้นที่น้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะถนนสายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราชติดพื้นที่ ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ หน้าโรงพยาบาลกาณจนดิษฐ์ ความยาวประมาณ 1 กม.ทำให้แพทย์และพยาบาลเดินทางเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ ต้องอาศัยรถบรรเทาและสาธารณภัยเทศบาลตำบลกาญจนดิษฐ์ เข้าไปทำงานในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่อีกหลายแห่งระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และท่วมหมู่บ้านหลายแห่ง และมีรายงานว่า ได้เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านนายลี ไม่ทราบสกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 15 บ้านบางจำ ต.ตะกุ๊กเหนือ อ.วิภาวดี ได้รับความเสียหายทั้งหลังและเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติแก่งกรุงไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ ต.ตะกุกเหนือ ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี และ ต.บ้านน้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคมด้วย
ขณะที่ทางจังหวัดฯได้ประกาศพื้นที่เป็นเขตภัยพิบัติแล้ว 11 อำเภอ คือ อ.เมือง กาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร บ้านนาเดิม ท่าฉาง ไชยา เกาะสมุย พุนพิน วิภาวดี คีรีรัฐนิคม และเกาะพะงัน ส่วนพื้นที่อื่นๆ มีน้ำท่วมขังเช่นกันแต่ยังไม่รุนแรงมากนัก

**น้ำทะลักถล่มระนองจนสะพานขาด
 

ส่วนที่ จ.ระนอง หลังจากที่ฝนได้ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนช่วงเวลา 03.30 น.วานนี้ (27) ได้เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านบางหิน ต.บางหิน อ.กะเปอร์ ส่งผลให้สะพานทางเบี่ยงในเส้นทางสายเพชรเกษมเส้นทางระนอง-ภูเก็ต ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานใหม่ถูกกระแสน้ำเซาะขาดช่วงบ้านบางหิน ต.บางหิน อ.กะเปอร์ ส่งผลให้การจราจรผ่านเส้นทางระนอง-ภูเก็ต ไม่สามารถผ่านไปมาได้

นายชาสันต์ คงเรือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง กล่าวว่า ใน จ.ระนอง ขณะนี้ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และตกหนักมากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเป็นห่วงสถานการณ์เป็นอย่างมากว่า หากฝนยังคงตกหนักเช่นนี้ต่อไปคงจะทำให้เกิดสภาวะน้ำป่าไหลหลาก ดินเลื่อนไหลอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเต็มที่แล้ว

**ตรัง-พัทลุง-ชุมพรอ่วมหนัก
 

ส่วนที่ จ.ตรัง ฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้าง ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่ชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้แม่น้ำตรัง ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่า ผนังกั้นน้ำจะพังทลาย

เช่นเดียวกับที่ จ.พัทลุง ถูกน้ำท่วมติดต่อกันเป็นวันที่ 4 และขยายวงกว้างเป็น 9 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2,000 ครอบครัวโดยเฉพาะ อ.เมืองและควนขนุน กระแสน้ำไหลเชี่ยวเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน และพืชผลทางการเกษตรเสียหายเกือบ 10,000 ไร่

ขณะที่ จ.ชุมพร ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรอย่างหนัก รวม 5 อำเภอ 21 ตำบล 150 หมู่บ้าน คือ อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.หลังสวน อ.ละแม และ อ.พะโต๊ะ สำหรับชาวบ้านที่บ้านแหลมปาย หมู่ที่ 7 ต.หาดยาย อ.หลังสวน 4 คน ที่หนีน้ำป่าจนถูกน้ำพัดทะลักตกลงไปในแม่น้ำหลังสวนเมื่อช่วงเช้าวานนี้นั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน สามารถช่วยขึ้นมาจากน้ำได้ปลอดภัยแล้ว

**ศชอ.ประชุมช่วยน้ำท่วม5จังหวัดใต้
 

นายวิทเยนทร์ มุตตามระ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย(ศชอ.) เป็นประธานการประชุม ศชอ.เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ 5 จังหวัดที่ประสบอุทกภัยคือที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร และตรัง และเตรียมการรับมือกับกลุ่มฝนที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.นี้

ขณะนี้มีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง 5 จังหวัด 34 อำเภอ 168 ตำบล 1,292 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 27,315 ครัวเรือน 61,568 คน ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.ชุมพร มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ส่วนปัญหาการจราจรมี 3 เส้นทางที่ไม่สามารถผ่านได้ คือ ทางหลวงหมายเลข 4011 เลี่ยงเมือง น้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 4186 โรงเหล็ก-กรุงชิง อ.นบพิตำ สะพานขาดที่ กม.5 และทางหลวงหมายเลข 4010 กาญจนดิษฐ์-บ้านใน น้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร

**สั่ง ปภ.ทุกพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชน
 

นายวิทเยนทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือของ ศชอ.ได้เร่งรัดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวบรวมเรือท้องแบน เรือเร็ว และเรือขนาดเล็ก ให้ความช่วยเหลือทุกพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยด่วน และขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานยอดความช่วยเหลือและแจ้งจำนวนความช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยให้เร็วที่สุด
 
ทั้งนี้ จากรายงานสภาพอากาศ คาดว่าฝนจะอ่อนลงในช่วง 2 วันนี้และจะตกหนักในวันที่ 28-29 มี.ค.ในบริเวณภาคใต้ตอนล่าง จึงต้องมีการเฝ้าระวังสามจังหวัดชายแดนอาจจะประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้น หากประชาชนที่ต้องการขอความช่วยเหลือสามารถแจ้งมาได้ที่ หมายเลข 1111

**"อภิสิทธิ์"สั่งหน่วยงานรับมืออุทกภัย
 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำแผนป้องกันเตรียมรับมือภัยพิบัติ หลังเกิดเหตุน้ำท่วมในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่าสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เฉพาะหน้า ในขณะนี้ที่หนักที่สุด จ.นครศรีธรรมราช ได้ยืนยันกันชัดเจนว่า สำหรับพื้นที่ทีมีความเสี่ยง เช่น เรื่องดินถล่ม หรือกรณีของอ่างเก็บน้ำ ได้มีการอพยพผู้คนไว้ในที่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน การเข้าไปช่วยเหลือ และอาจจะขาดเหลืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ระดมเข้าไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้จะมีปัญหาเรื่องเรือที่มีเครื่องแรงไม่เพียงพอ ทานกระแสน้ำไม่ไหว ทราบว่า บางอำเภอในขณะนี้ยังรุนแรงอยู่ แต่ในภาพรวมขณะนี้ก็ระดมไปได้ อย่างไรก็ตาม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในพื้นที่ ทางจังหวัดได้มีการติดต่อสื่อสารมายังส่วนกลางอยู่

เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.นี้ จะมีการเตรียมมาตรการช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "สำหรับน้ำท่วมคงจะดูว่า ขาดเหลืออะไร นายสาทิตย์ จะเดินทางกลับขึ้นมาในวันนี้ โดยจะมารายงานในที่ประชุม ครม.ทราบว่า ขาดเหลืออะไร ส่วนเรื่องแผ่นดินไหว สิ่งที่จะให้ทำคือการสำรวจอาคาร โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีความเสี่ยง".
กำลังโหลดความคิดเห็น