xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านผวา จระเข้สวนสัตว์เมืองนครฯหลุดยกฝูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านผวาจระเข้ สวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช หลุดยกฝูง 8 ตัว พ้นกรงชั้น 2 โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เร่งล่า “สาทิตย์-ชินวรณ์” แจกของช่วยน้ำเร่งจ่าย 50 ล้าน ช่วยชาวบ้าน จมน้ำตายเพิ่มอีก 2 ราย

วันนี้ (27 มี.ค.) ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีรายงานว่า จระเข้ภายในสวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่ตั้งอยู่ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ได้หลุดออกมาจากกรงชั้นใน และติดอยู่ในกรงชั้นนอกโดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้พยายามเร่งติดตามกลับคืน เนื่องจากเกรงว่าสัตว์อื่นๆ และชาวบ้านในย่านใกล้เคียงจะได้รับอันตราย

ล่าสุด พบว่า จระเข้จำนวน 8 ตัว ได้หลุดออกมาอยู่ภายนอกแล้ว โดยชาวบ้านได้แจ้งการพบเห็นหลายจุดด้วยกัน เช่น หลังสนามบิน ทภ.4 ค่ายวชิราวุธ ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช บริเวณหลังโรงเรียนบ้านชะเอียน ต.ปากพูน อ.เมือง และบริเวณชุมชนมะขามชุม ต.ในเมือง ซึ่งนายสัตวแพทย์ นพราชย์ อินทร์ทองคำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ปืนลูกดอกออกติดตามไล่ล่าอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความขวัญผวาของชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมาเปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนหน้า ณ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ ให้การต้อนรับ รวมทั้ง นายฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช, พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ

นายวันชัย พงษา ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1 กล่าวรายงานสภาพน้ำท่วมของสถานศึกษาต่างๆ ใน จ.นครศรีธรรมราช ว่า ในส่วนของสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมการศึกษาเขต 12 มีโรงเรียนในพื้นที่พัทลุงน้ำท่วม 8 โรง, โรงเรียนในพื้นที่นครศรีธรรมรา ชท่วมหมดทุกโรง ในส่วนของโรงเรียนประถมศึกษาทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชท่วมจำนวน 229 โรง

ต่อมา นายชินวรณ์ และคณะ ได้เดินทางขึ้นรถยนต์ยีเอ็มซีของทหารกองทัพภาคที่ 4 ลุยน้ำท่วมบริเวณถนนทางเข้าสนามบิน ซึ่งมีน้ำท่วมทางเข้าสนามบินท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชเป็นระยะทางยาวประมาณ 2 กม.และน้ำมีระดับความสูงประมาณ 1 เมตรเศษ ไม่สามารถใช้รถยนต์โฟร์วีลธรรมดาเข้าไปได้ เพื่อเข้าดูสภาพน้ำท่วมรันเวย์สนามบินท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งรันเวย์มีความยาว 2,100 เมตร กว้าง 45 เมตร ได้ถูกน้ำท่วมระดับความสูงประมาณ 1-2 ฟุต หรือประมาณ 50 ซม.

โดยมี นายศิรินาถ จุลเกลี้ยง หัวหน้าการบริหารและพิธีการบิน รรท.ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช กล่าวสรุปรายงานว่า น้ำได้บ่าเข้ารันเวย์สนามบินนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม.จนไม่สามารถเปิดการบิน จึงสั่งระงับการบินทุกสายการบิน

จากนั้นเมื่อน้ำลดลงแล้ว ก็จะต้องเข้าไปทำความสะอาดรันเวย์สนามบิน แล้วตรวจสอบระบบไฟรันเวย์ ตรวจสอบพื้นรันเวย์ ว่า มีความเสียหายมากน้อยเพียงไร หากไม่เป็นอะไรคาดว่าหลังน้ำลดประมาณ 3-5 วัน ก็จะสามารถเปิดการบินได้ตามปกติ รวมทั้งต้องรอให้สภาพน้ำท่วมบริเวณถนนรอบๆ สนามบินลดสู่ภาวะปกติด้วยถึงจะเปิดการบินได้ตามปกติ

ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมราษฎรพร้อมแจกถุงยังชีพเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นโดยมีประชาชนกว่าพันคนมาต้อนรับ จากนั้น นายสาทิตย์ ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราชยังน่าเป็นห่วงขอให้ประชาชนอย่านิ่งนอนใจ

สำหรับการช่วยเหลือนั้นเบื้องต้น ได้กำชับให้ทางจังหวัดนำงบประมาณ 50 ล้าน ที่มีอยู่มาจัดการช่วยเหลือหากไม่เพียงพอก็ขอสนับสนุนไปยังรัฐบาลได้ และวันพรุ่งนี้ตนจะนำเรื่องของภัยพิบัติเข้าสู่การประชุม ครม.เพื่อผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากมองว่าปัญหาภัยพิบัติเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนไทยขึ้นทุกวัน

ที่ผ่านมา การจัดการเรื่องของภัยพิบัติยังขาดระบบการจัดการที่ดีการให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชน ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ถึงเวลาที่เมืองไทยจะต้องมีการจัดการเรื่องภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผ่นดินไหวที่พม่าหรือลาว เรื่องของน้ำท่วมเป็นเรื่องที่คนไทยผวา และตื่นตัวมาก รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติและจัดการอย่างเป็นระบบต่อไป

ด้าน นายยรรยง โกศลกาญจน์ รักษาราชการผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีอยู่ 3 อ่างในนครศรีธรรมราช คือ อ่างห้วยน้ำใส ที่ อ.ชะอวด และ อ่างกะทูน และอ่างคลองดินแดง ที่ อ.พิปูน นั้น ทั้ง 3 อ่าง ขณะนี้ระดับน้ำได้ล้นปริมาณที่กำหนดไว้แล้ว ที่อ่างห้วยน้ำใส อ.ชะอวด นั้น ระดับน้ำข้ามอาคารระบายน้ำ แต่ยังไม่น่าห่วง ส่วนที่อ่างกะทูน ยังพอรับน้ำได้แต่ที่กำลังวิกฤต ก็คือ อ่างคลองดินแดง ที่ อ.พิปูน ซึ่งระดับน้ำยกสูงถึง 4 เมตร ใกล้สันอ่างเต็มที่ ขณะนี้ตนได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่พิปูนตั้งแต่เมื่อคืนเฝ้าสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมงถ้าฝนไม่ตกเพิ่มก็ไม่น่าเป็นห่วงแต่หากตกเพิ่มก็ถือว่าน่าเป็นห่วงมาก

นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำอีก 2 ราย รายแรกเมื่อเวลา 14.00 น.ที่บริเวณบ้านเสม็ดเอน ต.หูล่อง อ.ปากพนัง พบศพ นายสุคนธ์ พัฒนสุคนธ์ อายุ 67 ปี อยู่ 138 ม.1 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตเนื่องจากลงไปกู้ข่ายดักปลา แต่ถูกกระแสน้ำที่รุนแรงพัดไม่สามารถช่วยตัวเองได้จนเสียชีวิตในที่สุด และในเวลา 17.00 น.ยังพบผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 45-50 ปี อยู่ภายในวัดท่าแพ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าสาเหตุเนื่องจากการจมน้ำ หากนับผู้เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำในห้วงเวลา 3-4 วันที่ผ่าน มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วถึง 8 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น