ASTVผู้จัดการรายวัน – ซุเปอร์สปอร์ตเดินเกมลึกขยายบทบาท “ดิสทริบิวเตอร์-ไลเซ่นส์” จริงจังปีนี้ หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 12% เพิ่ม 1-2 แบรนด์ต่อปี หวังดันรายได้รวมปีนี้โต 10%
นายอลัน ทอมสัน กรรมการผุ้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหาร้านซูเปอร์สปอร์ตในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า จากนี้บริษัทฯจะเพิ่มบบาทใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.รีเทล คือร้านค้าปลีก 2. ดิสทริบิวเตอร์ คือการนำเข้าสินค้ากีฬา และ 3.ไลเซ่นส์ คือ การได้รับสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้ากีฬารายเดียวในไทย ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่ม 1 อยู่ที่ 88% จากปีที่แล้ว 95% ส่วนกลุ่ม 2 และ 3 รวมกัน 12% จากปีที่แล้วมี 5% เท่านั้น
ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มบทบาทการเป็นดิสทริบิวเตอร์และไลเซ่นส์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ประสบความสำเร็จดี โดยขณะนี้ ในส่วนของดิสทริบิวเตอร์ มี 4 แบรนด์คือ ครอคส์,เคสวิส, นิวบาลานซ์และ ล่าสุดคือสเกตเชอร์ ส่วนไลเซ่นส์มี 2 แบรนด์คือ ฟิลากับอัมโบร อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเพิ่มแบรนด์สินค้ากีฬามากขึ้นในทุกกลุ่ม คาดว่าจะเพิ่ม 1-2 แบรนด์ด่อปี
ขณะที่ธุรกิจหลักคือร้านค้าปลีกนั้น ปัจจุบันมีร้านซูเปอร์สปอร์ต 61 สาขา, ร้านฟิทสปอร์ต 7 สาขา, ร้านกอล์ฟคลิก 2 สาขา, ร้านครอคส์ 5 สาขา และร้านนิวบาลานซ์ 2 สาขา รวมทั้งสิ้น 77 สาขาทั่วประเทศ
“บริษัทฯต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจกีฬาในเมืองไทย ด้วยกาเรป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าแร็คเก็ต กอล์ฟ อุปกรณ์ออกกำลังกาย วิ่ง ฟุตบอล และในอีก 3-5 ปีมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปต่างประเทศด้วยโดยไปควบคู่กับกลุ่มเซ็นทรัล โดยปีนี้งบตลาด 60 ล้านบาท แบ่งเป็นอะโบฟเดอะไลน์ 60% และบีโลว์เดอะไลน์ 40% มุ่งการส่งเสริมการขาย การสร้างแบรนด์ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีที่แล้วรายได้ 4,400 ล้านบาท ไม่เติบโตเพราะผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ส่วนแผนลงทุนปีนี้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 125 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดร้านซุเปอร์สปอร์ต 3 สาขา รวม 25 ล้านบาท และงบอีก 100 ล้านบาทเพื่อรีโนเวตสาขาเดิมอีก 28 สาขา ยังไม่นับรวมงบประมาณเปิดร้านอื่นอีกเช่น ร้านฟิทสปอร์ต จะเปิดอีก 8 สาขา จะเปิดร้านสเกตเชอร์ 3 สาขา เป็นต้น
นายอลัน ทอมสัน กรรมการผุ้จัดการใหญ่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหาร้านซูเปอร์สปอร์ตในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า จากนี้บริษัทฯจะเพิ่มบบาทใหม่ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.รีเทล คือร้านค้าปลีก 2. ดิสทริบิวเตอร์ คือการนำเข้าสินค้ากีฬา และ 3.ไลเซ่นส์ คือ การได้รับสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้ากีฬารายเดียวในไทย ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ปีนี้ กลุ่ม 1 อยู่ที่ 88% จากปีที่แล้ว 95% ส่วนกลุ่ม 2 และ 3 รวมกัน 12% จากปีที่แล้วมี 5% เท่านั้น
ทั้งนี้บริษัทฯได้เริ่มบทบาทการเป็นดิสทริบิวเตอร์และไลเซ่นส์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ประสบความสำเร็จดี โดยขณะนี้ ในส่วนของดิสทริบิวเตอร์ มี 4 แบรนด์คือ ครอคส์,เคสวิส, นิวบาลานซ์และ ล่าสุดคือสเกตเชอร์ ส่วนไลเซ่นส์มี 2 แบรนด์คือ ฟิลากับอัมโบร อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเพิ่มแบรนด์สินค้ากีฬามากขึ้นในทุกกลุ่ม คาดว่าจะเพิ่ม 1-2 แบรนด์ด่อปี
ขณะที่ธุรกิจหลักคือร้านค้าปลีกนั้น ปัจจุบันมีร้านซูเปอร์สปอร์ต 61 สาขา, ร้านฟิทสปอร์ต 7 สาขา, ร้านกอล์ฟคลิก 2 สาขา, ร้านครอคส์ 5 สาขา และร้านนิวบาลานซ์ 2 สาขา รวมทั้งสิ้น 77 สาขาทั่วประเทศ
“บริษัทฯต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจกีฬาในเมืองไทย ด้วยกาเรป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าแร็คเก็ต กอล์ฟ อุปกรณ์ออกกำลังกาย วิ่ง ฟุตบอล และในอีก 3-5 ปีมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปต่างประเทศด้วยโดยไปควบคู่กับกลุ่มเซ็นทรัล โดยปีนี้งบตลาด 60 ล้านบาท แบ่งเป็นอะโบฟเดอะไลน์ 60% และบีโลว์เดอะไลน์ 40% มุ่งการส่งเสริมการขาย การสร้างแบรนด์ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีที่แล้วรายได้ 4,400 ล้านบาท ไม่เติบโตเพราะผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ส่วนแผนลงทุนปีนี้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 125 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดร้านซุเปอร์สปอร์ต 3 สาขา รวม 25 ล้านบาท และงบอีก 100 ล้านบาทเพื่อรีโนเวตสาขาเดิมอีก 28 สาขา ยังไม่นับรวมงบประมาณเปิดร้านอื่นอีกเช่น ร้านฟิทสปอร์ต จะเปิดอีก 8 สาขา จะเปิดร้านสเกตเชอร์ 3 สาขา เป็นต้น
