xs
xsm
sm
md
lg

แมนูไลฟ์มองศก.ไทยแข็งแกร่ง หนุนตลาดหุ้นวิ่งตามเป้า1,200จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แมนูไลฟ์ คาดเศรษฐกิจไทยปีกระต่าย ขยายตัวในกรอบ 4.2-4.6% ชี้พื้นฐานแกร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยภาคการลงทุนส่งสัญญาณฟื้นชัดเจน ทั้งภาครัฐและเอกชน เชื่อหนุนตลาดหุ้นไทยวิ่งต่อ คงเป้าดัชนี 1,200 จุดเช่นเดิม

นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวประมาณ 4.2-4.7% โดยมองว่าจะได้แรงขับเคลื่อนจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยเห็นได้จากการขยายตัวของสินเชื่อซึ่งหลายธนาคาร สามารถปล่อยกู้ได้สูงเกินความคาดหมาย ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ก็มียอดขายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาคท่องเที่ยวเองก็กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ จากพื้นฐานในปัจจุบัน เรามองว่าเศรษฐกิจไทยไม่เคยเข้มแข็งในระดับนี้มาก่อน ในขณะที่ความกังวลต่อเงินเฟ้อเอง ดูจะไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากประเทศไทยเอง เป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งสามารถผลิตมาบริโภคในประเทศเองได้

ในขณะที่ภาคของธุรกิจเอง ก็มีการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต โดยในหลายอุตสาหกรรมเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตไปถึงระดับ 80% ซึ่งถือว่าเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว หรือเกิน 100% แล้วก็มี

ส่วนการลงทุนภาครัฐเอง ยังมีแผนลงทุนในระยะยาวอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านระบบขนส่งของประเทศ การลงทุนในโรงไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมูลค่ารวมกว่า 4.6 ล้านล้านบาท ประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเองก็มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะงบไทยเข้มแข็งที่เบิกจ่ายไปแล้วกว่า 2.5 แสนล้านบาท

นายสุขวัฒน์กล่าวต่อว่า ในแง่ของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย มองว่าการลงทุนของภาคเอกชน จะเป็นแรงผลักดันต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต ซึ่งปัจจุบันกำไรต่อตลาดหุ้นของไทยมีแนวโน้มการเติบโตในระดับที่สูง แต่ตลาดหุ้นไทยกลับซื้อขายอยู่ในระดับที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งเราเองเชื่อว่าหลังจากนี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีอัพไซด์ได้อีกประมาณ 20% โดยตัวแปรหลักคือผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งต้องติดตามดูต่อว่า จะโตเฉลี่ยได้ถึง 15-16% หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรายังคงประมาณการณ์ดัชนีหุ้นไทยปีนี้เอาไว้ที่ 1,200 จุดเช่นเดิม

“ภาวะตลาดในช่วงนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนทยอบเก็บกองทุนไปเรื่อยๆ ซึ่งเราคาดการณ์ไม่ได้ว่าจุดไหนจะเป็นจุดต่ำสุดในช่วงที่ตลาดทั่วโลกผันผวนเช่นนี้ แต่ถ้าดัชนีมีการปรับฐานมากๆ เราก็แนะนำให้นักลงทุนซื้อ”นายสุขวัฒน์กล่าว

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามหลังจากนี้ นายสุขวัฒน์กล่าวว่า คงจะเป็นเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงความร้อนแรงของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนในประเทศและผู้นำที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางด้วย

นายสุขวัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับแผนงานของบริษัทหลังจากนี้ มีแผนจะเสนอขายกองทุนใหม่อีก 1 กองทุน โดยเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นกองทุนแบบบาลานซ์ฟันด์ ขณะเดียวกับ ก็มีแผนจะเพิ่มบุคลากรเข้ามาทำหน้าที่แทนผู้จัดการกองทุนที่ลาออกไปด้วย โดยปัจจุบัน บลจ.แมนูไลฟ์ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนในกองทุนรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท และเงินลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลประมาณ 3,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น