ASTVผู้จัดการรายวัน – ผู้ผลิตจำหน่ายแฟชั่นแบรนด์จุกอก ราคาฝ้ายทั่วโลกพุ่ง ต้นทุนผลิตสูงขึ้น เล็งปรับราคาเป็นทิวแถว ลีวายส์สุดอั้นขยับแล้ว 10% ส่วนแรงเลอร์จดๆจ้องๆ ด้านแอลเอ็มอี คาดไตรมาสสองปรับราคาแน่
นายพรศีล บุทกัสกา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ปรับราคายีนส์ลีวายส์ขึ้นแล้ว เนื่องจากว่า ฝ้าย ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 100% ในช่วงที่ผ่านมา มากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ และมีแนวโน้มว่าปีนี้ราคายังคงสูงต่อเนื่อง
*** ลีวายส์ปรับราคา10%
“ที่ผ่านมาเราได้ปรับราคาไปแล้ว 5-10% ซึ่งอันที่จริงเราต้องปรับราคาขึ้นมากกว่านี้ เช่น ราคากางเกงยีนส์ของเราบางรุ่น 3,500 บาท ต้องปรับเป็น 4,000 บาท แต่ทำไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียลูกค้า สร้างผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่รายอื่นนั้นราคาต่ำว่กาเราเช่น 2,000 บาทก็ปรับเป็น 2,200 บาท เป็นต้น ซึ่งทุกรายต้องก็ปรับราคาขึ้นกันหมด”
ดังนั้นแผนตลาดปีนี้ต้องทำตลาดมากขึ้น ทั้งโรดโชว์ร่วมกับห้างเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ กิจกรรม การออกสินค้าใหม่ และการรุกตลาดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง โดยใช้งบรวม 10% จากยอดขาย และลงทุนมากกว่า 10-20 ล้านบาท ขยายช่องทางจำหน่ายอีก 6 สาขา ล่าสุดจะเปิดที่เชียงรายในห้างเซ็นทรัล จากเดิมมี 135 สาขา แบ่งเป็นชอปอินชอปในห้างสรรพสินค้า 106 แห่ง และรูปแบบร้านสแตนด์อโลน 29 แห่ง สัดส่วนยอดขายมาจาก กทม.และต่างจังหวัด 50% เท่ากัน
ล่าสุดเปิดตัว แคมเปญ ลีวายส์ ไลฟ์ เดอะดรีม-ออนเดอะโรด ท้าคนรุ่นใหม่ฉีกกอรอบเดิมๆ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกของเฟซบุ๊คลีวายส์ไทยแลนด์ เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คน และจะมุ่งเน้นกลุ่มแฟชั่นนิสต้ามากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายอดขายลีวายส์เติบโต 15% และมีส่วนแบ่ง 40% เป็นผู้นำจากตลาดรวมกว่า 6,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งตลาดรวมปีที่แล้วมูลค่า 5,750 ล้านบาท เติบโต 15% จากมูลค่า 5,000 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
***แรงเลอร์เตรียมปรับราคา
นายวิสิฐ ผรณาปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือ CMG กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ต้นทุนหลักของยีนส์ คือ ฝ้าย ซึ่งราคาของตลาดโลกปรับขึ้นมากกว่า 20-30% เนื่องจากโลกร้อนขึ้น ฝ้ายขาดตลาด คาดว่า หลังจากเดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป แต่ละแบรนด์จะมีการปรับราคาขึ้นแน่นอน ซึ่งแบรนด์แรงเลอร์ก็อยู่ระหว่างพิจารณาปรับราคาขึ้นเช่นกัน
*** แอลเอ็มอีจ่อปรับไตรมาสสอง
นายบุญชัย คงปักไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด เปิดเผยว่า ต้นทุนการผลิตขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเ
ฉพาะฝ้ายที่มีราคาสูงขึ้นกว่า 30% และยังขาดแคลนอีกด้วย ส่วนโพลีเอสเตอร์ก็มีราคาสูงขึ้นกว่า 25% ทำให้ราคาสินค้าต้องปรับสูงขึ้นอย่างต่ำ 15-20% แต่ทั้งนี้บริษัทยังไม่ได้ปรับราคขึ้น แต่อยู่ระหว่างกรพิจารณา คาดว่าในไตรมาสที่สองนี้จะปรับราคาขึ้นได้
นโยบาย 2 ปีนี้ จะไม่เน้นออกสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯเพิ่มแต่อย่างใด แต่จะเน้นเพิ่มมูลค่า ปัจจุบันมี 5 แบรนด์ และหันไปนำเข้าแฟชั่นแบรนด์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มี 2 แบรนด์คือ เอฟแฟชั่นกับฟ็อกซ์ ล่าสุดในไตรมาสที่สามนี้เตรียมเปิดตัวแบรนด์นำเข้าใหม่จากอเมริกา เป็นแนวสตรีทแวร์ ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 25% จากปีที่แล้วรายได้รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 20% โดยตั้งงบตลาดทั้งปี 100 ล้านบาท
นายพรศีล บุทกัสกา ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ปรับราคายีนส์ลีวายส์ขึ้นแล้ว เนื่องจากว่า ฝ้าย ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 100% ในช่วงที่ผ่านมา มากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ และมีแนวโน้มว่าปีนี้ราคายังคงสูงต่อเนื่อง
*** ลีวายส์ปรับราคา10%
“ที่ผ่านมาเราได้ปรับราคาไปแล้ว 5-10% ซึ่งอันที่จริงเราต้องปรับราคาขึ้นมากกว่านี้ เช่น ราคากางเกงยีนส์ของเราบางรุ่น 3,500 บาท ต้องปรับเป็น 4,000 บาท แต่ทำไม่ได้ เพราะจะทำให้เสียลูกค้า สร้างผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่รายอื่นนั้นราคาต่ำว่กาเราเช่น 2,000 บาทก็ปรับเป็น 2,200 บาท เป็นต้น ซึ่งทุกรายต้องก็ปรับราคาขึ้นกันหมด”
ดังนั้นแผนตลาดปีนี้ต้องทำตลาดมากขึ้น ทั้งโรดโชว์ร่วมกับห้างเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ กิจกรรม การออกสินค้าใหม่ และการรุกตลาดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง โดยใช้งบรวม 10% จากยอดขาย และลงทุนมากกว่า 10-20 ล้านบาท ขยายช่องทางจำหน่ายอีก 6 สาขา ล่าสุดจะเปิดที่เชียงรายในห้างเซ็นทรัล จากเดิมมี 135 สาขา แบ่งเป็นชอปอินชอปในห้างสรรพสินค้า 106 แห่ง และรูปแบบร้านสแตนด์อโลน 29 แห่ง สัดส่วนยอดขายมาจาก กทม.และต่างจังหวัด 50% เท่ากัน
ล่าสุดเปิดตัว แคมเปญ ลีวายส์ ไลฟ์ เดอะดรีม-ออนเดอะโรด ท้าคนรุ่นใหม่ฉีกกอรอบเดิมๆ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกของเฟซบุ๊คลีวายส์ไทยแลนด์ เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คน และจะมุ่งเน้นกลุ่มแฟชั่นนิสต้ามากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายอดขายลีวายส์เติบโต 15% และมีส่วนแบ่ง 40% เป็นผู้นำจากตลาดรวมกว่า 6,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งตลาดรวมปีที่แล้วมูลค่า 5,750 ล้านบาท เติบโต 15% จากมูลค่า 5,000 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
***แรงเลอร์เตรียมปรับราคา
นายวิสิฐ ผรณาปิติ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือ CMG กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ต้นทุนหลักของยีนส์ คือ ฝ้าย ซึ่งราคาของตลาดโลกปรับขึ้นมากกว่า 20-30% เนื่องจากโลกร้อนขึ้น ฝ้ายขาดตลาด คาดว่า หลังจากเดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป แต่ละแบรนด์จะมีการปรับราคาขึ้นแน่นอน ซึ่งแบรนด์แรงเลอร์ก็อยู่ระหว่างพิจารณาปรับราคาขึ้นเช่นกัน
*** แอลเอ็มอีจ่อปรับไตรมาสสอง
นายบุญชัย คงปักไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด เปิดเผยว่า ต้นทุนการผลิตขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยเ
ฉพาะฝ้ายที่มีราคาสูงขึ้นกว่า 30% และยังขาดแคลนอีกด้วย ส่วนโพลีเอสเตอร์ก็มีราคาสูงขึ้นกว่า 25% ทำให้ราคาสินค้าต้องปรับสูงขึ้นอย่างต่ำ 15-20% แต่ทั้งนี้บริษัทยังไม่ได้ปรับราคขึ้น แต่อยู่ระหว่างกรพิจารณา คาดว่าในไตรมาสที่สองนี้จะปรับราคาขึ้นได้
นโยบาย 2 ปีนี้ จะไม่เน้นออกสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯเพิ่มแต่อย่างใด แต่จะเน้นเพิ่มมูลค่า ปัจจุบันมี 5 แบรนด์ และหันไปนำเข้าแฟชั่นแบรนด์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มี 2 แบรนด์คือ เอฟแฟชั่นกับฟ็อกซ์ ล่าสุดในไตรมาสที่สามนี้เตรียมเปิดตัวแบรนด์นำเข้าใหม่จากอเมริกา เป็นแนวสตรีทแวร์ ปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 25% จากปีที่แล้วรายได้รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 20% โดยตั้งงบตลาดทั้งปี 100 ล้านบาท