xs
xsm
sm
md
lg

ผวา!งดนำเข้าอาหารญี่ปุ่น 2คนงานเจอรังสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - หลายประเทศทั่วโลกพากันหวาดผวาระดับกัมมันตรังสีในญี่ปุ่น และทำตามสหรัฐฯและฮ่องกง โดยออกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นเมื่อวานนี้(24) แถมสายการเดินเรือขนส่งสินค้าทางทะเลบางแห่งทำท่าจะหลีกเลี่ยงไม่เข้าจอดท่าเรือโตเกียว ขณะที่ชาวเมืองหลวงแดนอาทิตย์อุทัยเองก็เร่งรีบซื้อหาน้ำขวดมาตุนเอาไว้จนทำให้สินค้าชนิดนี้หมดเกลี้ยงไปจากร้านค้าและเครื่องจำหน่ายแบบหยอดเหรียญจำนวนมาก ทั้งนี้ภายหลังที่ทางการตรวจพบสารกัมมันตรังสีเกินขีดมาตรฐานในน้ำประปา จึงเตือนอย่าใช้ชงนมผงเลี้ยงทารก แม้ผู้ใหญ่ยังดื่มได้อย่างปลอดภัย ทางด้านความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ มีความคืบหน้าไปบ้าง แต่ก็มีคนงาน 3 คนสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนรังสีระดับสูง จนต้องส่ง 2 คนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทันที สำหรับยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตและสูญหาย ได้รับการปรับสูงขึ้นอีกเป็นมากกว่า 27,000 คน

จากการที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไออิจิ ในจังหวัดฟูกูชิมะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 250 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายหนัก สืบเนื่องจากแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 9.0 และคลื่นสึนามิถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในวันที่ 11 มีนาคม โดยที่ในเวลาต่อมาตัวอาคารเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้เองก็ได้การระเบิดต่อเนื่องกันหลายครั้ง และมีอนุภาคกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาจำนวนหนึ่งนั้น กำลังทำให้ทั่วโลกเกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น

ตั้งแต่คืนวันอังคาร(22) และวันพุธ(23) สหรัฐฯ และฮ่องกง ต่างได้ออกคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารญี่ปุ่นหลายชนิด ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจาก 4 จังหวัดรอบๆ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ขณะที่ฝรั่งเศสก็ได้ออกมาเรียกร้องให้สหภาพยุโรปประกาศในทำนองเดียวกัน

ในคืนวันพุธ และเมื่อวานนี้(24) มีอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกได้ทยอยกันประกาศมาตรการในเรื่องนี้ โดยที่รัสเซียออกคำสั่งห้ามการนำเข้าอาหารจาก 4 จังหวัดรอบๆ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ อันได้แก่ จังหวัดฟูกูชิมะ, กุนมะ, อิบารากิ, และโตชิงิ นอกจากนั้น มอสโกยังสั่งกักกันเรือสินค้าชักธงปานามาลำหนึ่ง ที่ได้แล่นผ่านบริเวณใกล้ๆ โรงไฟฟ้าที่เกิดปัญหา รวมทั้งนำลูกเรือทั้ง 19 คนมาตรวจโรคและเฝ้าติดตามอาการ ภายหลังที่ตรวจพบระดับกัมมันตภาพรังสีสูงเป็น 3 เท่าของขีดปกติในบริเวณห้องเครื่องของเรือ

ทางด้านออสเตรเลียก็ได้ห้ามการนำเข้าสินค้าการเกษตรจากพื้นที่ดังกล่าวของญี่ปุ่นเช่นกัน โดยสั่งห้ามทั้งสาหร่ายทะเลและอาหารทะเล, นมและผลิตภัณฑ์นม, ผักและผลไม้สด ถึงแม้จะออกมายืนยันด้วยว่า สำหรับอาหารญี่ปุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ตามร้านค้าต่างๆ ในแดนจิงโจ้แล้วนั้น ยังคงปลอดภัยที่จะใช้บริโภค เพราะส่งมาก่อนจะเกิดเหตุแผ่นดินไหว รวมทั้งบอกว่า “ความเสี่ยงของผู้บริโภคชาวออสเตรเลียต่อการสัมผัสไอโซโทปรังสีในอาหารที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนั้นอยู่ในระดับที่เล็กน้อยมาก”

นอกจากนั้น สิงคโปร์ก็ได้ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์นมและสินค้อาหารอื่นๆ จาก 4 จังหวัดนี้ด้วย โดยที่แคนาดาก็เพิ่มมาตรการควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์ของจังหวัดทั้ง 4 แห่งนี้

สำหรับฟิลิปปินส์ได้สั่งห้ามนำเข้าช็อกโกแลตจากญี่ปุ่น โดยกระทำในรูปของการถอนใบอนุญาตนำเข้าช็อกโกแลต ที่ได้มีการต่ออายุไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทว่าไม่มีการระงับการนำเข้าสินค้าอาหารอย่างอื่นๆ ส่วนที่อินโดนีเซีย โฆษกกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า จะเรียกร้องให้พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของญี่ปุ่น ต้องออกใบรับรองการปลอดการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี ให้แก่อาหารแปรรูปทุกชนิดที่ส่งมาจากญี่ปุ่นภายหลังวันที่ 11 มีนาคม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ในวงการเดินเรือทะเลหลายรายระบุว่า สายการเดินเรือทะเลบางราย โดยเฉพาะสายการเดินเรือของเยอรมนี 2-3 แห่ง แสดงท่าทีจะให้เรือขนส่งสินค้าของพวกตนหลีกเลี่ยงไม่แวะจอดขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือทางด้านตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงโตเกียวด้วย เนื่องจากความหวาดหวั่นเกี่ยวกับระดับกัมมันตภาพรังสี โดยอาจจะไปขนถ่ายสินค้าลงที่ท่าเรือในเกาหลี, ไต้หวัน, หรือท่าเรือที่อยู่ใกล้เคียงแห่งอื่นๆ

เป็นที่วิตกกันว่าถ้าหากมีเรือสินค้าจำนวนมากตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็จะสร้างความกระทบกระเทือนหนักต่อการขนส่งสินค้าและกระบวนการด้านโลจิสติกส์ของญี่ปุ่น และจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนี้ด้วย

ทางด้านทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA), องค์การอนามัยโลก (WHO), และ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซึ่งต่างก็เป็นองค์กรชำนัญพิเศษของยูเอ็น ได้ร่วมกันออกคำแถลงจากนครเจนีวาว่า ประเด็นปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร กลายเป็นมิติที่เพิ่มเติมขึ้นมาของภาวะฉุกเฉินอันเกิดจากภัยพิบัติในญี่ปุ่นคราวนี้ และทั้ง 3 หน่วยให้สัญญาที่จะระดมความรู้และความเชี่ยวชาญของพวกตนเพื่อช่วยเหลือญี่ปุ่น

คำแถลงร่วมทั้ง 3 หน่วยงานยูเอ็นเหล่านี้ระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังใช้การปฏิบัติการที่ถูกต้อง โดยที่กำลังมีการตรวจสอบเฝ้าติดตามเรื่องอาหาร, มีการตรวจวัดระดับรังสีในอาหาร, และมีการแจ้งผลการตรวจให้สาธารณชนรับทราบ

ในส่วนของญี่ปุ่นเอง ช่วงคืนวันพุธและในตอนเช้าวานนี้ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาดแรงๆ หลายครั้ง ซึ่งรู้สึกได้ในบริเวณมหานครโตเกียวและปริมณฑล ที่มีประชากรอยู่กันอย่างหนาหนามากกว่า 30 ล้านคน

ความรู้สึกกังวลจากอาฟเตอร์ช็อก ยังผสมผสานเข้ากับคำแถลงของทางการกรุงโตเกียวในวันพุธที่ว่า พบสารกัมมันตรังสีไอโอดีนเกินกว่า 2 เท่าตัวของระดับที่ถือว่าปลอดภัยสำหรับทารก ในตัวอย่างน้ำประปา จึงแนะนำว่าอย่าใช้น้ำประปาชงนมผงเลี้ยงทารก

ถึงแม้คำแถลงของรัฐบาลท้องถิ่นโตเกียวระบุว่า สำหรับผู้ใหญ่ยังสามารถดื่มน้ำประปาได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งตั้งแต่วานนี้ก็เริ่มนำน้ำขวดออกมาแจกจ่ายแก่ครอบครัวต่างๆ ในอัตราน้ำ 550 มิลลิลิตรต่อทารก 1 คน แต่ข่าวนี้ก็จุดชนวนทำให้ผู้คนแห่ไปซื้อน้ำขวดตามร้านค้าและตามเครื่องขายแบบหยอดเหรียญ

เจ้าหน้าที่ของโตเกียวออกมาแถลงเพิ่มเติมวานนี้ว่า การตรวจวัดล่าสุดแสดงให้เห็นว่าระดับรังสีในน้ำประปาได้กลับมาอยู่ในขีดที่สามารถให้ทารกดื่มได้อย่างปลอดภัยแล้ว ทว่าก็ดูจะยังไม่เพียงพอที่จะปลอบขวัญพ่อแม่ที่มีลูกอ่อนได้ โดยเฉพาะภายหลังที่มีรายงานจากจังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ติดกับกรุงโตเกียวระบุว่า ตรวจพบรังสีในระบบกรองน้ำของเมือง ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าขีดความปลอดภัยสำหรับทารก

ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้สั่งระงับการขนส่งน้ำนมดิบและผักต่างๆ จากจังหวัดฟูกูชิมะ และอีก 3 จังหวัดใกล้เคียง และเพิ่มการตรวจวัดรังสีในอีก 6 จังหวัด ซึ่งครอบคลุมถึงบริเวณที่ประชิดติดกรุงโตเกียวด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ได้ตรวจพบสารกัมมันตรังสีซีเซียมในระดับ 82,000 เบคเคอเรล ซึ่งเกินกว่าขีดปลอดภัย 164 เท่า ในผักใบเขียวที่เรียกว่า คูคิทาชินะ และพบระดับรังสีสูงขึ้นในผักอีก 10 ชนิด เป็นต้นว่า กระหล่ำปลี และหัวผักกาดเทอร์นิป

สำหรับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ปรากฏว่ามีควันสีขาวลอยออกมาจากอาคารเตาปฏิกรณ์ 4 หน่วยในจำนวนทั้งสิ้น 6 หน่วยของโรงงาน แต่เมื่อวานนี้สามารถส่งรถดับเพลิงไปคอยฉีดน้ำเพื่อลดอุณหภูมิที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ได้แล้ว หลังจากต้องหยุดไปในวันพุธเพราะมีควันสีดำลอยขึ้นมาจนต้องสั่งอพยพคนงาน

วิศวกรและคนงานซึ่งทำงานเสี่ยงอันตรายอยู่ที่โรงไฟฟ้ายังสามารถซ่อมให้ห้องควบคุมของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 กลับมีไฟฟ้าใช้ได้เป็นบางส่วน

อย่างไรก็ตาม การทำงานของผู้คนเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความยากลำบาก และเมื่อวานนี้เองได้มีคนงาน 3 คนที่กำลังพยายามต่อสายไฟฟ้าในเตาปฏิกรณ์เครื่องหนึ่ง เกิดสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนรังสีสูง แม้พวกเขาจะสวมชุดป้องกันทว่าน้ำก็ยังซึมเข้าไป ทำให้ต้องนำคนงาน 2 คนเข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยด่วน

ในส่วนของยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายอย่างเป็นทางการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นรายงานเมื่อ 21.00 น. คืนวานนี้ (ตรงกับ 19.00 น.เวลาเมืองไทย) ว่า เวลานี้ผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วมี 9,811 คน และสูญหายอีก 17,541 คน รวมเป็น 27,352 คน
หลายปท.ทั่วโลกห้ามนำเข้าอาหารญี่ปุ่น คนงาน2คนเจอรังสีต้องส่งรพ.ด่วน
หลายปท.ทั่วโลกห้ามนำเข้าอาหารญี่ปุ่น คนงาน2คนเจอรังสีต้องส่งรพ.ด่วน
หลายประเทศทั่วโลกพากันหวาดผวาระดับกัมมันตรังสีในญี่ปุ่น และทำตามสหรัฐฯและฮ่องกง โดยออกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(24) แถมสายการเดินเรือขนส่งสินค้าทางทะเลบางแห่งทำท่าจะหลีกเลี่ยงไม่เข้าจอดท่าเรือโตเกียว ขณะที่ชาวเมืองหลวงแดนอาทิตย์อุทัยเองก็เร่งรีบซื้อหาน้ำขวดมาตุนเอาไว้จนทำให้สินค้าชนิดนี้หมดเกลี้ยงไปจากร้านค้าและเครื่องจำหน่ายแบบหยอดเหรียญจำนวนมาก ทั้งนี้ภายหลังที่ทางการตรวจพบสารกัมมันตรังสีเกินขีดมาตรฐานในน้ำประปา จึงเตือนอย่าใช้ชงนมผงเลี้ยงทารก แม้ผู้ใหญ่ยังดื่มได้อย่างปลอดภัย ทางด้านความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ มีความคืบหน้าไปบ้าง แต่ก็มีคนงาน 3 คนสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนรังสีระดับสูง จนต้องส่ง 2 คนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทันที สำหรับยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตและสูญหาย ได้รับการปรับสูงขึ้นอีกเป็นมากกว่า 27,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น