xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านลั่นค้านถึงที่สุดท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านบางละมุง-แหลมฉบังไม่เห็นด้วยโครงการพัฒนาเท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เหตุโครงการเก่ารุกพื้นที่ทำกินจนหมดอาชีพ แต่ไม่ได้รับการเยียวยา พร้อมยื่น 3เงื่อนไขให้ท่าเรือหามาตรการแก้ปัญหาให้ลุล่วงก่อนเดินหน้าโครงการ ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าค้านโครงการถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้( 22 มี.ค.)ท่าเรือแหลมฉบัง ได้จัดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 1 โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3เพื่อก้าวสู่การเป็นท่าจอดเรือหลักของสายการเดินเรือชั้นนำระดับโลก ที่โรงแรม เบลา วิลลา คาบาน่า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายธงชัย ธรรมปรีดี ผู้อำนวยการกองการท่า ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นประธาน มีประชาชนจากพื้นที่แหลมฉบัง และบางละมุง เข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่างานนี้สื่อมวลชนไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานนี้ ขณะที่สถานที่จัดงานก็อยู่ในพื้นที่ที่หายาก เดินทางลำบากด้วย

นายธงชัย ธรรมปรีดี ผู้อำนวยการกองการท่า ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนเป็นครั้งแรก ซึ่งจะได้รวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อมูลผลกระทบต่างๆ ทั้งด้านชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้ประกอบข้อมูลในการดำเนินการ ซึ่งในเดือนก.ค.จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 ในชลบุรี ก่อนจะจัดอีกครั้งที่กรุงเทพมหานครและนครราชสีมา เพราะเป็นพื้นที่ลอจิสติกส์เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคที่คาบเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการดังกล่าวด้วย

สำหรับโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะใช้เวลาศึกษาโครงการทั้งสิ้น 1 ปี การออกแบบโครงการอีก 1 ปี ระยะเวลาการดำเนินการก่อสร้าง 3- 4 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ในอีก 6-8 ปี ข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม การเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ พบว่า ตัวแทนชาวบ้านจำนวนมากได้แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่ไม่พอใจการดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบังที่ผ่านมา จึงได้มีการยื่นข้อเสนอ 3ข้อต่อผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบังให้ดำเนินการก่อนเริ่มการพัฒนาเพื่อหารายได้

นายรุ่งระวี โสดานา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กล่าวว่า พวกเรามีอาชีพทำประมงชายฝั่ง ที่ผ่านมาก็ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังมาแล้วทั้งเฟส 1และ 2 จากที่ทำกินลดลง การจับสัตว์น้ำทำได้ลดลง โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยยังไม่ได้แก้ไขปัญหาให้ลุล่วง และจะมาพัฒนาในเฟส3 จึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง พวกเราอยากให้ท่าเรือแหลมฉบังให้ความสำคัญในชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่และชาวประมงท้องถิ่นด้วย เพราะเชื่อแน่ว่าการดำเนินโครงการจะส่งผลกระทบต่อชาวประมงเรืออวนลากอย่างแน่นอน ซึ่งอาจต้องหยุดทำประมงในช่วงระยะที่ก่อสร้างและปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย

ดังนั้น ก่อนที่จะมีการพัฒนาโครงการ ชาวบ้านมีข้อเสนอในเบื้องต้น 3 ข้อ คือ 1.ท่าเรือควรหามาตรการช่วยเหลือให้ชาวบ้านในชุมชนมีรายได้ มีงานทำ เพราะในช่วงการก่อสร้างจะไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม 2. ช่วงระยะเวลาที่ทะเลฟื้นตัว ซึ่งไม่มีสัตว์น้ำชายฝั่งให้จับ ควรมีมาตรการช่วยเหลือชาวบ้านที่ชัดเจน และ 3. ต้องการให้สนับสนุนให้ลูกหลานชาวบ้านได้ทำงานในโครงการเพื่อเสริมสร้างอาชีพในอนาคตแทนการจ้างแรงงานจากต่างถิ่น

“หากข้อเสนอของเราไม่ได้รับการพิจารณา และเป็นอย่างที่เราตั้งใจไว้ พวกเราพร้อมที่จะรวมตัวกันคัดค้านโครงการดังกล่าวให้ถึงที่สุด “

ด้านนายธวัชชัย ประคองขวัญ ประธานกลุ่มประมง บางละมุง เผยว่า ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมท่าเรือแหลมฉบังจึงจะเร่งพัฒนาท่าเรือเฟส3 เพราะ ดูจากเอกสารที่การท่าเรือนำมาแจกให้ชาวบ้าน พบว่า ท่าเรือเฟส 2 ซึ่งก่อสร้างสร็จแล้ว แต่ยังไม่มีการใช้ประโยชน์ ตนจึงคิดว่าควรที่จะใช้ประโยชน์จากเฟส1 และเฟส2 ให้เต็มที่ก่อนจะมาพัฒนาในเฟส 3 ซึ่งการพัฒนาท่าเรือในแต่ละครั้ง สร้างความเจ็บช้ำให้แก่ประชาชนที่มีอาชีพประมงอย่างมหาศาล เพราะเท่ากับเป็นการทำลายอาชีพพวกเรา

การขยายท่าเรือแต่ละครั้งก็เหมือนกับการทำลายพื้นที่การทำประมงชายฝั่ง ที่ปัจจุบันก็เหลือน้อยแล้ว ในขณะที่จำนวนเรือประมงชายฝั่งมีถึง 300 - 500 ลำ ต้องแย่งพื้นที่การทำประมงกัน จึงอยากจะให้ภาครัฐหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพิจารณากันให้รอบคอบไม่ใช่นึกถึงแต่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยลืมนึกถึงประชาชนเจ้าของพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น