“โอ๋ รุ่งระวี” เซ็ง ผอมลงทำนมหดไปด้วย บอก คิดอยากไปเสริมอึ๋ม แต่กลัวเจ็บ ลั่น อยากถ่ายเซ็กซี่จนกว่าจะถ่ายไม่ไหว บอก อยากเป็นเหมือน “ต่าย เพ็ญพักตร์” ที่เซ็กซี่ตลอดกาล แต่รับหวั่นเด็กใหม่เข้ามาเบียดงานเลยต้องรีบโกย หวังเก็บเงินไปทำธุรกิจเสริม
จัดว่าเป็นดาราสาวเซ็กซี่สตาร์คนหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะไปโชว์ตัวงานไหนก็โกยมาเต็มเหนี่ยวจนสร้างความฮือฮาแย่งซีนดาราคนอื่นตลอด สำหรับ “โอ๋ รุ่งระวี บริจินดากุล” ล่าสุดก็เพิ่งไปถ่ายแฟชั่นบิกินี่รับลมร้อนให้กับนิตยสารทีวีพูล ทั้งยังถือโอกาสโต้ข่าวเป็นดาราอักษรย่อ อ. ที่มีข่าวว่าท้องไปด้วยในตัว แต่พอถามเรื่องฟีดแบคเจ้าตัวกลับบ่นว่าช่วงนี้ผอมลง จนทำให้หน้าอกหน้าใจที่ว่าบิ๊กบึ้มแฟบลงไปถนัดตา
“ช่วงนี้น้ำหนักค่อนข้างลดลงเยอะนะคะ แต่เวลาไปงานก็ใช้การโกยช่วย อย่างงานก่อนหน้านี้จริงๆ ก็ไม่ได้บิ๊กขนาดนั้นนะ ก็ใช้วิธีการโกยจากด้านข้าง แล้วก็มีอุปกรณ์เสริมช่วย แต่ก็เสียเซลฟ์นะ พอผอมลงหน้าอกก็ลดไปด้วย(หัวเราะ) เคยคิดว่าจะไปหาหมอ ปรึกษาหมอดีไหม อยากไปเสริมอึ๋มให้มันกลับมาเหมือนเดิม จริงๆ แล้วเราก็อยากผอมนะ แต่ก็อยากมีหน้าอกที่มันเหมือนเดิม แต่เพื่อนบอกว่าเจ็บก็เลยไม่เอาดีกว่า(หัวเราะ) เราก็อยากจะให้หุ่นเหมือนเดิม หน้าอกหน้าใจเหมือนเดิม แต่ถ้าโอ๋อวบขึ้นหน้าอกก็ขึ้นมาเท่าเดิม”
“แต่เพิ่งถ่ายแฟชั่นซัมเมอร์ไปเล่มนึง ก็รอดูอยู่ว่าจะมีเล่มไหนติดต่อมาอีก แต่คิดว่าช่วงนี้อาจจะเลยช่วงที่เขาติดต่อให้ถ่ายแล้วล่ะ ก็คงอาจจะมีเล่มเดียว แต่ตอนนี้การแข่งขันมันก็สูง เพราะมีเด็กใหม่เข้ามาเรื่อยๆ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะอยู่ได้นานแค่ไหน ที่สำคัญเลยคือเรื่องวินัยว่าตรงต่อเวลาไหม เราทำงานเป็นยังไงบ้าง ผลงานของเราเป็นยังไงบ้าง แต่โดยส่วนตัวโอ๋ไม่เบื่อภาพตัวเองที่เป็นสาวเซ็กซี่อย่างนี้นะ โอ๋ถือว่าเราเกิดมาตรงนี้ เราก้าวเข้ามาแบบนี้แล้ว เราก็ต้องทำให้มันดีที่สุด”
“แต่จริงๆ เราก็ขายความสามารถด้วยนะ ไม่ใช่ขายความเซ็กซี่อย่างเดียว เวลาเล่นละครเราก็ต้องมีสมาธิ ต้องใช้ความจำเยอะ เพราะบทละครบางทีก็ไม่ใช่สั้นๆ แล้วก็ต้องใช้ความเข้าใจด้วย แต่ก็คงไม่เบรกแนวเซ็กซี่ของตัวเอง ถ้าถามว่าอยากเป็นเหมือนใครในวงการ ก็คงจะเป็นพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ที่เซ็กซี่เป็นอมตะเลย เซ็กซี่ตลอดกาล รุ่นพี่โอ๋กรี๊ดมาก พี่ต่ายเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก โอ๋เองก็อยากจะถ่ายเซ็กซี่ต่อไปให้ได้อย่างพี่เขา ก็ยังคงจะไม่หยุดหรอกค่ะ(หัวเราะ)”
เผย เตรียมทำธุรกิจเสริมด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะหวั่นงานในวงการไม่ยั่งยืน เหตุมีดาราเกิดใหม่เพียบ ทำตอนนี้ต้องเร่งทำงานเก็บเงินอย่างหนัก
“ตอนนี้มีถ่ายละครอยู่ 3 เรื่องค่ะ ที่เห็นหายๆ ไปก็ถ่ายละครนี่แหละ แต่ก็ยังรับงานอื่นได้นะคะ(หัวเราะ) เพราะว่าตอนนี้ก็กำลังอยากสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ ก็ต้องเก็บเงิน อยากเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ เพราะอาชีพในวงการเป็นอาชีพที่เรารักก็จริง แต่เราก็กลัวว่าวันนึงมีเด็กใหม่ๆ ขึ้นมาเราอาจจะไม่มีงานทำก็ได้ ก็พยายามหางานอื่นช่วยเสริมด้วย”
“ที่ทำอยู่ตอนนี้ที่ค่อยๆ ทำไปก็คือโอ๋อยากทำเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้โอ๋ก็ซื้อห้องไว้ห้องนึงแล้ว ตอนนี้คอนโดกำลังสร้างอยู่ เราก็ผ่อนดาวน์ไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าจะปล่อยห้องให้เช่าหรือไม่ก็ขาย คือที่คิดไว้ก็จะต้องเป็นคอนโดที่ยังไม่ได้สร้าง เป็นคอนโดฯขึ้นใหม่เลย พอขึ้นปุ๊บเสร็จเรียบร้อยพอเราขายก็จะได้กำไรมากกว่า แต่ก็ลงทุนเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ทำไปแล้วก็มานั่งเครียดอยู่เหมือนกันว่าต้องรีบหางาน รีบหาเงินมาลงทุนกับธุรกิจตรงนี้ ก็จากห้องนึงอาจจะเป็นสองห้อง เราก็สะสมไปเรื่อยๆ”
บอก ยังโสดสนิท แต่ก็มีหนุ่มๆ เข้ามาให้เลือกคุยด้วยหลายคน แต่ยังไม่ปักใจให้ใครเต็มร้อยเพราะรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนเอาแต่ใจ ถ้าจะคบใครตนคงต้องเป็นฝ่ายเปลี่ยนตัวเองให้ได้ก่อน
“ความรักก็เรื่อยๆ ค่ะ แต่ไม่ได้โฟกัสเท่าไหร่ จะโฟกัสที่เรื่องงานมากกว่า ถามว่ามีคนมาคุยด้วยเยอะไหม ก็เยอะนะ แต่เราก็ไม่อยากจะไปอะไรมาก เพราะมีความรู้สึกเข็ดกับเรื่องความรักเหมือนกัน รักไม่เท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกันตลอด ก็พักไว้ก่อน เอาเรื่องงานอย่างเดียวแล้วกัน แต่ก็มีคนคุยๆ ค่ะ เป็นคนนอกวงการซะส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนของเพื่อน เจอกันตามที่เที่ยวบ้าง แต่กลุ่มนี้คือตัดไปเลยเราไม่ชอบอยู่แล้ว โอ๋ชอบผู้ชายทำงาน ชอบผู้ชายขยัน มีความคิด สามารถเป็นผู้นำเราได้”
“ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงเลือกหรอกค่ะ อย่างที่บอกไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย ปล่อยว่างเลย แต่ถ้าเบื่อก็หาเพื่อนคุย หาเพื่อนกินข้าวเท่านั้นเอง แต่ถ้าจะให้คบก็ยังไม่หรอก เพราะคิดเลยว่าอนาคตข้างหน้าไม่อยากแต่งงานด้วยซ้ำ เพราะฟังชีวิตของเพื่อนแต่ละคนที่แต่งงานไปแล้ว ทำให้เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราแต่งงานไปแล้วเจอแบบนี้จะเป็นยังไง อาจจะฟังเพื่อนพูดมากเกินไปเลยทำให้เราคิดมากก็ได้ แต่เมื่อก่อนก็เคยมีความคิดนะว่าถ้าแต่งงานแล้วก็อยากจะมีลูก แต่พอเพื่อนประสบปัญหา เราก็มานั่งคิดอีกว่าเราจะมีอุปสรรคไหม จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า เลยทำให้เราคิดมากไปเลย”
“แต่กับคนที่ผ่านๆ มาก็เป็นคนที่จริงใจนะคะ แต่โอ๋เป็นคนที่จะมีระยะของตัวเอง โอ๋จะมีกำแพงของโอ๋ไว้ แต่นี่คือความผิดของโอ๋เอง เรามีกำแพงของเราไม่เองที่ไม่สามารถให้เขาเข้ามาได้เต็มร้อย เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นตัวตนของเขาจริงๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างที่เราเห็นหรือเปล่า แต่จริงๆ มันเป็นเรื่องไม่ดีนะคะ ควรจะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า คนที่คุยๆ อยู่ตอนนี้ก็ดูจริงใจดีนะ แต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่โอ๋ว่าต้องเปลี่ยนที่ตัวเราเองก่อนนี่แหละว่าจะเปิดกำแพง เปิดหัวใจเมื่อไหร่(หัวเราะ)”
“ยอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยปล่อยให้โสดนานนะ แต่พอยิ่งโตเราก็ยิ่งคิดเยอะกับเรื่องนี้จริงๆ คือโอ๋เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองด้วย มีความคิดเป็นของตัวเองเยอะเกินไป มันก็เลยทำให้เข้ากันได้ยาก ซึ่งบางทีเราก็ขี้เอาแต่ใจ ก็ผู้หญิงแหละ เป็นเรื่องธรรมดา ก็ต้องเปลี่ยนที่ตัวเองด้วยจะไปโทษผู้ชายฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีพวกเสี่ยเข้ามาแล้วค่ะ ไอ้พวกบ้าๆ บอๆ หายไปหมดแล้ว(หัวเราะ) แต่เมื่อก่อนมีเยอะมาก พอมีเราก็จะให้เพื่อนจัดการคุยแทน เพื่อนก็ชอบเลย(หัวเราะ) แต่ตอนนี้จะเป็นแนวนักธุรกิจมากกว่า แล้วก็รุ่นราวคราวเดียวกันหรือเยอะกว่าไม่กี่ปี อันนั้นโอ๋ชอบนะ คนทำงาน”