ASTVผู้จัดการรายวัน - ททท.ประชุมร่วมเอกชน ประเมินสองปัจจัยลบ การเมืองตะวันออกกลาง และภัยพิบัติญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ กระทบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดจากเป้าหมาย 1.75% หรือกว่า 3 แสนคน ยันยังคงแผนการตลาดในญี่ปุ่น แต่เริ่มในเวลาที่เหมาะสม เล็งเสนอครม.ตามที่เอกชนร้องขอขยายวีซ่าให้ชาวญี่ปุ่น ด้านตลาดในประเทศ ใช้เทศกาลสงกรานต์ ดึงคนไทยเที่ยวในประเทศ
วานนี้(22มี.ค.54) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หารือร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบที่เข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ผลการหารือกับเอกชน ประเมินว่า ผลจากวิกฤตการเมืองในตะวันออกกลาง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และญี่ปุ่น จะมีผลกระทบต่อเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ให้ลดลง1.75% จาก 16.787 ล้านคน ลดเหลือ 16.47 ล้านคนหรือลดลงกว่า 3.17 แสนคน แบ่งเป็น ตลาดตะวันออกกลาง กระทบติดลบ 1% และ ภัยพิบัติกระทบติดลบ 0.75% แต่หากควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว จะ ติดลบเพียง 0.44% หรือ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดมาอยู่ที่ 16.545 ล้านคน
เสนอรัฐขยายระยะเวลาวีซ่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในเสนอให้รัฐบาลขยายวีซ่าพำนักประเทศไทยให้แก่ชาวญี่ปุ่นเพิ่มจากปัจจุบันที่ได้ 30 วัน ซึ่ง ททท.จะนำเสนอกระทรวงเพื่อเสนอขอต่อ ครม. ตามลำดับ เพื่อแสดงเจตตนารมณ์ว่าประเทศไทย ต้องการช่วยเหลือให้ที่พักพิงแก่ชาวญี่ปุ่น
“ ความรุนแรงทางการเมืองในตะวันออกกลาง ลุกลามคลุมพื้นที่ 11-12 ประเทศ ทำให้กระทบต่อนักท่องที่จะมาต่อเครื่อง ยังตะวันอออกลาง เช่น การ์ต้าแอร์ เอมิเรตต์แอร์ ส่วนภัยพิบัติ ทำให้ชาวญี่ปุ่นชะลอเดินทาง แต่ ททท.จะไม่ลดงบประมาณตลาดญี่ปุ่น แต่จะใช้เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ”
เจทีบีวอนทัวร์เที่ยวช่วยญี่ปุ่น
นายทะซิอะกิ คันดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวภายหลังการเข้าให้ข้อมูลต่อ ททท.ว่า คนญี่ปุ่นยกเลิกเดินทางมาไทย ไม่มากเท่าคนไทยยกเลิกไปญี่ปุ่น จึงอยากขอร้องให้คนไทยที่ต้องการช่วยคนญี่ปุ่น ให้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ ในหลายเมือง ทางตะวันตก เช่น โอซากา, คิวชิว, เกียวโต และฮอกไกโด
สำหรับตลาดญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จะเห็นผลกระทบช่วงเดือนเม.ย.นี้ อาจเห็นยอดการยกเลิกการเดินทางมากขึ้นอีก เพราะเป็นช่วงเริ่มปีงบประมาณให้ และ เชื่อว่า ทุกบริษัทจะ ทบทวนการใช้งบประมาณ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทกังวลขณะนี้ คือ การฟื้นฟูประเทศญี่ปุ่นจะทำได้เร็วแค่ไหน และ ปัญหาการเมืองในประเทศไทย ในช่วงใกล้เลือกตั้ง
นำข้อมูลขึ้นเฟสบุ๊คดึงคนไทยเที่ยวสงกรานต์
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ททท. ทั้ง 5 ภูมิภาคของประเทศไทยรวม 36 สำนักงาน ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่จัดงานหลัก 13 พื้นที่ รวม กว่า 50กิจกรรม เช่น สงกรานต์เชียงใหม่ มิดไนท์สงกรานต์ หาดใหญ่ เทศกาลวันไหล ชลบุรีและสงกรานต์ภาคตะวันออก สงกรานต์เทศกาลดอกคูน-เสียงแคมและถนนข้าวเหนียว สงกรานต์ ถนนข้าวสารกรุงเทพฯ เป็นต้น โดยคาดว่า เฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-17 เม.ย. 54 ตั้งเป้า เพิ่มอัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยทั่วประเทศขึ้นเป็น 70% เติบโตจากปีที่ผ่านมาราว 10-20% เงินสะพัดเฉลี่ยเฉพาะสงกรานต์ราว 4-5 พันล้านบาท
โดย ททท.ใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ราว 4 ล้านบาท การเติบโต มาจาก 2 ปัจจัย คือ 1. การเมืองสงบเอื้อให้คนไทยเที่ยว และ2. จะมีนักท่องเที่ยว ราว 1 แสนคน ที่ยกเลิกเดินทางไปญี่ปุ่น ตรงนี้ ททท.จะดึงมาให้เที่ยวไทย 10-15% เกิดรายได้ในประเทศราว 5-6 ร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ ทุกสำนักงาน สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและที่พักทั่วประเทศที่ยังว่าง และนำข้อมูลขึ้น เฟสบุ๊ค อะเมซิ่งไทยแลนด์ และส่งข้อมูลโดยตรงไปถึงอีเมล์ของนักท่องเที่ยว ที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจจองห้องพักในที่ต่างๆ รวมถึงการอัพเดทข้อมูลกิจกรรมทั้งหมด ในเว็บไซน์ของททท. หรือโทรสอบถาม 1672
วานนี้(22มี.ค.54) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หารือร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยลบที่เข้ามากระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ผลการหารือกับเอกชน ประเมินว่า ผลจากวิกฤตการเมืองในตะวันออกกลาง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่ประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และญี่ปุ่น จะมีผลกระทบต่อเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ให้ลดลง1.75% จาก 16.787 ล้านคน ลดเหลือ 16.47 ล้านคนหรือลดลงกว่า 3.17 แสนคน แบ่งเป็น ตลาดตะวันออกกลาง กระทบติดลบ 1% และ ภัยพิบัติกระทบติดลบ 0.75% แต่หากควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว จะ ติดลบเพียง 0.44% หรือ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดมาอยู่ที่ 16.545 ล้านคน
เสนอรัฐขยายระยะเวลาวีซ่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในเสนอให้รัฐบาลขยายวีซ่าพำนักประเทศไทยให้แก่ชาวญี่ปุ่นเพิ่มจากปัจจุบันที่ได้ 30 วัน ซึ่ง ททท.จะนำเสนอกระทรวงเพื่อเสนอขอต่อ ครม. ตามลำดับ เพื่อแสดงเจตตนารมณ์ว่าประเทศไทย ต้องการช่วยเหลือให้ที่พักพิงแก่ชาวญี่ปุ่น
“ ความรุนแรงทางการเมืองในตะวันออกกลาง ลุกลามคลุมพื้นที่ 11-12 ประเทศ ทำให้กระทบต่อนักท่องที่จะมาต่อเครื่อง ยังตะวันอออกลาง เช่น การ์ต้าแอร์ เอมิเรตต์แอร์ ส่วนภัยพิบัติ ทำให้ชาวญี่ปุ่นชะลอเดินทาง แต่ ททท.จะไม่ลดงบประมาณตลาดญี่ปุ่น แต่จะใช้เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ”
เจทีบีวอนทัวร์เที่ยวช่วยญี่ปุ่น
นายทะซิอะกิ คันดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวภายหลังการเข้าให้ข้อมูลต่อ ททท.ว่า คนญี่ปุ่นยกเลิกเดินทางมาไทย ไม่มากเท่าคนไทยยกเลิกไปญี่ปุ่น จึงอยากขอร้องให้คนไทยที่ต้องการช่วยคนญี่ปุ่น ให้เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ ในหลายเมือง ทางตะวันตก เช่น โอซากา, คิวชิว, เกียวโต และฮอกไกโด
สำหรับตลาดญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จะเห็นผลกระทบช่วงเดือนเม.ย.นี้ อาจเห็นยอดการยกเลิกการเดินทางมากขึ้นอีก เพราะเป็นช่วงเริ่มปีงบประมาณให้ และ เชื่อว่า ทุกบริษัทจะ ทบทวนการใช้งบประมาณ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทกังวลขณะนี้ คือ การฟื้นฟูประเทศญี่ปุ่นจะทำได้เร็วแค่ไหน และ ปัญหาการเมืองในประเทศไทย ในช่วงใกล้เลือกตั้ง
นำข้อมูลขึ้นเฟสบุ๊คดึงคนไทยเที่ยวสงกรานต์
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ททท. ทั้ง 5 ภูมิภาคของประเทศไทยรวม 36 สำนักงาน ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีพื้นที่จัดงานหลัก 13 พื้นที่ รวม กว่า 50กิจกรรม เช่น สงกรานต์เชียงใหม่ มิดไนท์สงกรานต์ หาดใหญ่ เทศกาลวันไหล ชลบุรีและสงกรานต์ภาคตะวันออก สงกรานต์เทศกาลดอกคูน-เสียงแคมและถนนข้าวเหนียว สงกรานต์ ถนนข้าวสารกรุงเทพฯ เป็นต้น โดยคาดว่า เฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 13-17 เม.ย. 54 ตั้งเป้า เพิ่มอัตราเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยทั่วประเทศขึ้นเป็น 70% เติบโตจากปีที่ผ่านมาราว 10-20% เงินสะพัดเฉลี่ยเฉพาะสงกรานต์ราว 4-5 พันล้านบาท
โดย ททท.ใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ราว 4 ล้านบาท การเติบโต มาจาก 2 ปัจจัย คือ 1. การเมืองสงบเอื้อให้คนไทยเที่ยว และ2. จะมีนักท่องเที่ยว ราว 1 แสนคน ที่ยกเลิกเดินทางไปญี่ปุ่น ตรงนี้ ททท.จะดึงมาให้เที่ยวไทย 10-15% เกิดรายได้ในประเทศราว 5-6 ร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ ทุกสำนักงาน สำรวจแหล่งท่องเที่ยวและที่พักทั่วประเทศที่ยังว่าง และนำข้อมูลขึ้น เฟสบุ๊ค อะเมซิ่งไทยแลนด์ และส่งข้อมูลโดยตรงไปถึงอีเมล์ของนักท่องเที่ยว ที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจจองห้องพักในที่ต่างๆ รวมถึงการอัพเดทข้อมูลกิจกรรมทั้งหมด ในเว็บไซน์ของททท. หรือโทรสอบถาม 1672