ASTVผู้จัดการรายวัน - สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น “เมจิ -โคโดโม-อาซาฮี -อายิโนโมะโต๊ะ” วิ่งโร่ชี้แจ้งสินค้าผลิตขึ้นที่ไทย วัตถุดิบใช้ของไทย เร่งสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ด้านอายิฯ ระบุนำเข้าวัตถุดิบ ผงกาแฟ สารให้ความหวาน เอ็นไซม์ จากแดนปลาดิบ แต่มั่นใจมาตรการตรวจสอบ อย.คุมเข้ม
นายนำพล จารุพุทธิศิริพจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว ภายใต้แบรนด์ “เมจิ” และ “เมจิ ไพเกน” เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดสึนามิและแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมาเกิดระเบิดขึ้น เกิดการแพร่กระจายสารกัมมันตภาพรังสีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายนั้น อาจทำให้ผู้บริโภคไทย เกิดความไม่เชื่อมั่นด้านปลอดภัยสำหรับสินค้าที่เป็นแบรนด์หรือมีภาพลักษณ์ญี่ปุ่น โดยภาพรวมขณะนี้ สินค้าที่มีแบรนด์หรือภาพลักษณ์เป็นญี่ปุ่น แต่ผลิตในไทย มีหลายแบรนด์จะไม่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่สินค้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่นเชื่อว่า โดยเฉพาะกลุ่มนม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ จะได้รับผลกระทบต่อยอดขายแน่นอน เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจในความปลอดภัยของสินค้า อย่างไรก็ตามสำหรับนมพาสเจอร์ไรส์เมจิ วัตถุดิบการผลิตต่างๆ ผลิตขึ้นที่ประเทศไทยทั้งหมด บริษัทไม่ได้นำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งเมจิเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมด ซึ่งมีอายุของสินค้าสั้น จึงต้องผลิตขึ้นที่ประเทศไทย แต่บริษัทจะประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยสินค้าให้กับผู้บริโภค
***ชี้สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นผลิตไทยไม่กระทบ***
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ กล่าวว่า ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ญี่ปุ่น อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลสำหรับเด็กแบรนด์โคโดโม และครีมอาบน้ำ โฟมล้างมือคิเรอิ คิเรอิ มั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบต่อสินค้าที่มีชื่อแบรนด์ญี่ปุ่น
เพราะสินค้า 3 แบรนด์ ผลิตขึ้นที่ประเทศไทย และคนไทยมีความรู้เพียงพอ มีการอ่านฉลากประกอบการตัดสินใจซื้ออยู่แล้ว ส่วนวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีเพียงเล็กน้อยเท ซึ่งบริษัทมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวด ขณะที่รัฐบาลก็มีความเข้มงวดการตรวจสอบกลุ่มสินค้าต่างๆ ดังนั้นภาพรวมสินค้าที่เป็นญี่ปุ่น แต่ผลิตขึ้นที่ในไทยคงไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า ไลอ้อน ประเทศญี่ปุ่น ต้องสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะได้รับการรายงานล่าสุด โรงงานต่างๆ ในญี่ปุ่นหยุดการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว จากปัจจุบันญี่ปุ่นสั่งนำเข้าสินค้าอุปโภค อาทิ ผงซักฟอกเปา น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ ยาสีฟันซอลล์ 1ครั้งต่อเดือน โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 6-7% จากรายได้รวม ทั้งนี้คาดว่าจะมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่การขนส่งสินค้าไปจำหน่ายเชื่อว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากบริษัทส่งของไปทางเรือ
***เบียร์อาซาฮียันเบียร์ผลิตที่ไทย100%***
นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผู้อำนวยการสื่อสารการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์อาซาฮี กล่าวว่า เเบียร์อาซาฮีเข้ามาทำตลาดในไทย 4 ปี บริษัทได้ผลิตสินค้าขึ้นที่ประเทศไทย โดยใช้โรงงานผลิตเบียร์ของเครือเบียร์สิงห์ ส่วนกรณีจะส่งกระทบต่อแบรนด์หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดของเบียร์อาซาฮี ปีนี้ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งใช้งบการตลาด 70-80 ล้านบาท และตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งไม่ถึง 1% เท่านั้น
***อายิฯชี้สินค้าในไทยไม่กระทบ***
แหล่งข่าวจาก บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าในประเทศไทย ในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น โดยบริษัทมีการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น เช่น ผงกาแฟ,สารให้ความหวาน, เอ็นไซม์, เครื่องปรุงรสที่ผลิตจากถั่วเหลือง ฯลฯ บริษัทไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เพราะวัตถุดิบที่กล่าวข้างต้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากรังสี ซึ่งโดยปกติทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบอาหารหรือวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่แล้ว จึงสามารถมั่นใจได้ สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะในประเทศไทย ก็ยังส่งออกไปตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง และอื่นๆ
นายนำพล จารุพุทธิศิริพจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ต และนมเปรี้ยว ภายใต้แบรนด์ “เมจิ” และ “เมจิ ไพเกน” เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดสึนามิและแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมาเกิดระเบิดขึ้น เกิดการแพร่กระจายสารกัมมันตภาพรังสีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายนั้น อาจทำให้ผู้บริโภคไทย เกิดความไม่เชื่อมั่นด้านปลอดภัยสำหรับสินค้าที่เป็นแบรนด์หรือมีภาพลักษณ์ญี่ปุ่น โดยภาพรวมขณะนี้ สินค้าที่มีแบรนด์หรือภาพลักษณ์เป็นญี่ปุ่น แต่ผลิตในไทย มีหลายแบรนด์จะไม่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่สินค้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่นเชื่อว่า โดยเฉพาะกลุ่มนม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ จะได้รับผลกระทบต่อยอดขายแน่นอน เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจในความปลอดภัยของสินค้า อย่างไรก็ตามสำหรับนมพาสเจอร์ไรส์เมจิ วัตถุดิบการผลิตต่างๆ ผลิตขึ้นที่ประเทศไทยทั้งหมด บริษัทไม่ได้นำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งเมจิเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมด ซึ่งมีอายุของสินค้าสั้น จึงต้องผลิตขึ้นที่ประเทศไทย แต่บริษัทจะประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยสินค้าให้กับผู้บริโภค
***ชี้สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นผลิตไทยไม่กระทบ***
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ กล่าวว่า ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ญี่ปุ่น อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลสำหรับเด็กแบรนด์โคโดโม และครีมอาบน้ำ โฟมล้างมือคิเรอิ คิเรอิ มั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบต่อสินค้าที่มีชื่อแบรนด์ญี่ปุ่น
เพราะสินค้า 3 แบรนด์ ผลิตขึ้นที่ประเทศไทย และคนไทยมีความรู้เพียงพอ มีการอ่านฉลากประกอบการตัดสินใจซื้ออยู่แล้ว ส่วนวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีเพียงเล็กน้อยเท ซึ่งบริษัทมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวด ขณะที่รัฐบาลก็มีความเข้มงวดการตรวจสอบกลุ่มสินค้าต่างๆ ดังนั้นภาพรวมสินค้าที่เป็นญี่ปุ่น แต่ผลิตขึ้นที่ในไทยคงไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า ไลอ้อน ประเทศญี่ปุ่น ต้องสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะได้รับการรายงานล่าสุด โรงงานต่างๆ ในญี่ปุ่นหยุดการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว จากปัจจุบันญี่ปุ่นสั่งนำเข้าสินค้าอุปโภค อาทิ ผงซักฟอกเปา น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ ยาสีฟันซอลล์ 1ครั้งต่อเดือน โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 6-7% จากรายได้รวม ทั้งนี้คาดว่าจะมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่การขนส่งสินค้าไปจำหน่ายเชื่อว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากบริษัทส่งของไปทางเรือ
***เบียร์อาซาฮียันเบียร์ผลิตที่ไทย100%***
นายตราชู กาญจนสถิตย์ ผู้อำนวยการสื่อสารการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเบียร์อาซาฮี กล่าวว่า เเบียร์อาซาฮีเข้ามาทำตลาดในไทย 4 ปี บริษัทได้ผลิตสินค้าขึ้นที่ประเทศไทย โดยใช้โรงงานผลิตเบียร์ของเครือเบียร์สิงห์ ส่วนกรณีจะส่งกระทบต่อแบรนด์หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบเพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม แผนการตลาดของเบียร์อาซาฮี ปีนี้ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งใช้งบการตลาด 70-80 ล้านบาท และตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งไม่ถึง 1% เท่านั้น
***อายิฯชี้สินค้าในไทยไม่กระทบ***
แหล่งข่าวจาก บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าในประเทศไทย ในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น โดยบริษัทมีการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น เช่น ผงกาแฟ,สารให้ความหวาน, เอ็นไซม์, เครื่องปรุงรสที่ผลิตจากถั่วเหลือง ฯลฯ บริษัทไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เพราะวัตถุดิบที่กล่าวข้างต้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากรังสี ซึ่งโดยปกติทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบอาหารหรือวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่แล้ว จึงสามารถมั่นใจได้ สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะในประเทศไทย ก็ยังส่งออกไปตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง และอื่นๆ
