ASTVผู้จัดการรายวัน – เผยปี54 ตลาดรวมรับสร้างบ้านโตต่อเนื่อง คาดทั้งปีโต 8% ด้าน ซีคอน ดันเป้าสูงกว่าตลาด 10% ดูดยอดขาย 1,400 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าปั้นแบรนด์ ซีคอน-คอมแพค โฮม สร้างความชัดเจน Corporate Brand พร้อมออกแบบบ้านใหม่ในกลุ่มตลาดบน 8-20ล้านบาท หวังดันส่วนแบ่งรายได้กลุ่มบ้านพรีเมียมแตะ 50% จากเดิม 30% ชู4กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ ดีไซน์-โปรโมชัน-อีเวนต์ -CSR ดันยอดขายตามเป้า
นายกอบชัย ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีคอน และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายรวม 1,400ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับยอดขาย 1,300 ล้านบาทในปี 53 (60% มาจากบริษัทซีคอนฯ) โดยรายได้หลักจะมาจากบริษัท ซีคอนฯ ประมาณ 850 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 8% และยอดขายจากบริษัท คอมแพคโฮมฯ ประมาณ 550 ล้านบาท มีการเติบโตขึ้น 12%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการผลักดันยอดขายรับสร้างบ้านให้ได้ตามเป้า จะต้องเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ (Corporate Brand) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรับสร้างบ้าน พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์การตลด 360 องศา ที่เน้นการจัดวางระบบโครงสร้างการทำงานให้เกิดความลงตัว เพื่อสร้างประสิทธิภาพ การนำระบบซอฟท์แวร์เข้ามาใช้ในการควบคุมและบริหารจัดการแบบครบวงจร ผ่านการบริการในระบบ E-Service Express
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฉายภาพตลาดรับสร้างบ้านในปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยตลาดรับสร้างบ้านมีมูลค่ารวม 11,500-12,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% ส่วนคาดว่าในปีนี้ มูลค่าตลาดรวมจะขยายตัวจากปีก่อน 8% หรือมีตัวเลขอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มีทิศทางดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แม้จะขยายตัวไม่สูงเท่ากับปี 53 ก็ตาม
ในด้านของปัจจัยลบนั้น ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคามาแล้วตั้งแต่ต้นปี 54 รวมถึงราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ภาวะเงินเฟ้อ และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมองว่ามีความผันผวนอยู่
" การรับมือกับการปรับตัวของตลาดในปีนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์ด้านการตลาดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เน้นสร้างความชัดเจนระหว่างแบรนด์ซีคอน และ แบรนด์ คอมแพค โฮม เพื่อสร้างความคล่องตัวในการทำตลาดของแต่ละแบรนด์ โดยแบรนด์หลัก ซีคอน จะอยู่ระดับพรีเมียม จับกลุ่มรับสร้างบ้านในตลาดระดับกลาง-บน ราคาขายเริ่มต้น 3.5 ล้านบาทขึ้นไป ในขณะที่ แบรนด์ คอมแพค โฮม เน้นทำตลาดบ้านระดับราคา 2.3-5 ล้านบาท"
นอกจากนี้ ซีคอน จะต้องพยายามเพิ่มแบบบ้านให้กลุ่มลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ยอดขายเพิ่มสูงได้ โดยตลาดบ้านระดับราคา 8-20 ล้านบาท ทางซีคอน ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 50% จากเดิมอยู่ที่ 30% รวมถึงแบบบ้านระดับราคา 3-6 ล้านบาทที่จะมีการพัฒนาแบบออกสู่ตลาดประมาณ 30 แบบ
“เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายให้เร็วขึ้น บริษัทยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในโอกาสครบรอบ 50 กลุ่มซีคอน และการจัดงานอีเวนต์ และกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานและไซต์งานก่อสร้าง รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งเป็นการทำ Corporate Socail Responsibility หรือ CSR ของบริษัทด้วย”
โดยบริษัทฯได้จัดทำโครงการ " 50 ปี ซีคอน 50 ความดีสู่สังคมไทย ” เพื่อคืนกำไรสู่สังคม รูปแบบการดำเนินโครงการ จะหักเงินรายได้ส่วนหนึ่ง จากการสร้างบ้านทุกๆ 1 หลัง มูลค่า 5,000 บาท บริจาคให้แก่องค์กรเพื่อสังคม จนครบ 50 องค์กร คิดเป็นมูลค่า 2.5 ล้านบาท.
นายกอบชัย ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีคอน และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายรวม 1,400ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับยอดขาย 1,300 ล้านบาทในปี 53 (60% มาจากบริษัทซีคอนฯ) โดยรายได้หลักจะมาจากบริษัท ซีคอนฯ ประมาณ 850 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 8% และยอดขายจากบริษัท คอมแพคโฮมฯ ประมาณ 550 ล้านบาท มีการเติบโตขึ้น 12%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการผลักดันยอดขายรับสร้างบ้านให้ได้ตามเป้า จะต้องเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ (Corporate Brand) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรับสร้างบ้าน พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์การตลด 360 องศา ที่เน้นการจัดวางระบบโครงสร้างการทำงานให้เกิดความลงตัว เพื่อสร้างประสิทธิภาพ การนำระบบซอฟท์แวร์เข้ามาใช้ในการควบคุมและบริหารจัดการแบบครบวงจร ผ่านการบริการในระบบ E-Service Express
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฉายภาพตลาดรับสร้างบ้านในปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยตลาดรับสร้างบ้านมีมูลค่ารวม 11,500-12,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 10% ส่วนคาดว่าในปีนี้ มูลค่าตลาดรวมจะขยายตัวจากปีก่อน 8% หรือมีตัวเลขอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่มีทิศทางดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา แม้จะขยายตัวไม่สูงเท่ากับปี 53 ก็ตาม
ในด้านของปัจจัยลบนั้น ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคามาแล้วตั้งแต่ต้นปี 54 รวมถึงราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ภาวะเงินเฟ้อ และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมองว่ามีความผันผวนอยู่
" การรับมือกับการปรับตัวของตลาดในปีนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์ด้านการตลาดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เน้นสร้างความชัดเจนระหว่างแบรนด์ซีคอน และ แบรนด์ คอมแพค โฮม เพื่อสร้างความคล่องตัวในการทำตลาดของแต่ละแบรนด์ โดยแบรนด์หลัก ซีคอน จะอยู่ระดับพรีเมียม จับกลุ่มรับสร้างบ้านในตลาดระดับกลาง-บน ราคาขายเริ่มต้น 3.5 ล้านบาทขึ้นไป ในขณะที่ แบรนด์ คอมแพค โฮม เน้นทำตลาดบ้านระดับราคา 2.3-5 ล้านบาท"
นอกจากนี้ ซีคอน จะต้องพยายามเพิ่มแบบบ้านให้กลุ่มลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ยอดขายเพิ่มสูงได้ โดยตลาดบ้านระดับราคา 8-20 ล้านบาท ทางซีคอน ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 50% จากเดิมอยู่ที่ 30% รวมถึงแบบบ้านระดับราคา 3-6 ล้านบาทที่จะมีการพัฒนาแบบออกสู่ตลาดประมาณ 30 แบบ
“เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายให้เร็วขึ้น บริษัทยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในโอกาสครบรอบ 50 กลุ่มซีคอน และการจัดงานอีเวนต์ และกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานและไซต์งานก่อสร้าง รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งเป็นการทำ Corporate Socail Responsibility หรือ CSR ของบริษัทด้วย”
โดยบริษัทฯได้จัดทำโครงการ " 50 ปี ซีคอน 50 ความดีสู่สังคมไทย ” เพื่อคืนกำไรสู่สังคม รูปแบบการดำเนินโครงการ จะหักเงินรายได้ส่วนหนึ่ง จากการสร้างบ้านทุกๆ 1 หลัง มูลค่า 5,000 บาท บริจาคให้แก่องค์กรเพื่อสังคม จนครบ 50 องค์กร คิดเป็นมูลค่า 2.5 ล้านบาท.
