ASTVผู้จัดการรายวัน- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ครม.อนุมัติงบช่วยเหลือญี่ปุ่น 200 ล้าน ส่งข้าวหอมมะลิ-ข้าวเหนียว1.5 หมื่นตันช่วย “มาร์ค” ขอเวลาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ก่อนชี้แจงจำนวนคนไทยสูญหายที่แท้จริง ด้าน “กรณ์ จาติกวณิช” ระบุไทยได้รับทั้งผลดีผลเสีย คาดจีดีพีไทยร่วง 0.1%
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการโฆษกรัฐบาล แถลงผลการประชุมครม.เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานการให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ต่อที่ประชุมครม. ถึงการดำเนินการของประเทศไทยดังนี้
1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
2. นายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้มีสารแสดงความเสียใจด้วยแล้วเช่นกัน
3. ทางกระทรวงการต่างประเทศในนามของรัฐบาลไทย ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท
4. กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสามยอด ชื่อบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น เลขที่บัญชี 002-0-271-46-8 และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ให้ความร่วมมือในการรับบริจาค โดยเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเอ็มโพเรี่ยม ชื่อบัญชี “ครอบครัวข่าว 3 ช่วยผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 096-3-015-955 ในการนี้กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้ประสานรวบรวมเงินบริจาคไปยังสภากาชาดญี่ปุ่น รับเงินบริจาคจากไทย
นอกจากนี้ การดำเนินการของมิตรประเทศ มีองค์กรระหว่างประเทศทั้งสิ้น 50 แห่งประกาศแสดงความพร้อมในการช่วยเหลือญี่ปุ่น อาทิ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมันนี้ อินเดียว จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งทางการไทยได้สนับสนุนสุนัขดมกลิ่น เพื่อค้นหาผู้สูญหาย และบาดเจ็บ 6 ตัว เจ้าหน้าที่ 22 คน เป็นคณะให้ความช่วยเหลือ ประสานกำหนดวันเดินทางไปญี่ปุ่น รวมไปถึงจะมีรัฐมนตรีบางท่านต้องการเดินทางไปช่วยเหลือญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งทางการบินไทยได้นำเอาสิ่งของไปช่วยเหลือญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นชุดแรกที่เดินทางไปช่วยเหลือเป็น ผ้าห่ม รวมทั้งเตรียมส่งอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ ไปให้ญี่ปุ่นวันละ 7 เที่ยวบิน โดยประสานกับกองทัพอากาศ กองทัพเรือ ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดส่งของไปตามลำดับ
ส่วนคณะแพทย์ คณะพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล คณะกู้ภัย จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันที่ 15 มี.ค. นี้ ขณะนี้ทางญี่ปุ่นต้องการอาหาร ผ้ากันหนาว และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับเครือข่ายต่างๆไว้หมดแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งสิ่งของจะไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นจะไปพักรอประสานกับเอกอัครราชทูต กรุงโตเกียว ที่วัดปากน้ำ นาริตะ ก่อนส่งต่อไปยังจุดต่างๆ กับเครือข่ายในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติเงินเพิ่มเติมจากงบกลาง รายจ่ายกรณีฉุกเฉินเป็นจำนวน 200ล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการ ค่าอำนวยการจัดซื้อสิ่งของต่างๆ ตามที่ร้องขอเข้ามาตามความจำเป็น ประกอบด้วย ข้าวแบบถ้วยพร้อมบริโภค อาหารแห้ง ผ้าห่ม เสื้อกันฝน และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น เนื่องจากสภาวะอากาศยังหนาวเย็นอยู่ ซึ่งทางครม.ได้อนุมัติเงินสด 5 ล้านบาทไปแล้ว
ทั้งนี้ ครม.อนุมัติให้จัดส่งข้าวไปประเทศญี่ปุ่น 15,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิ 1 หมื่นตัน และข้าวเหนียวอีก 5 พันตัน โดยมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะที่เคยประสานงานส่งข้าวไปช่วยเหลือประเทศผู้ประสบภัยพิบัติ เป็นผู้ดำเนินการ
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า เนื่องจากญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการพัฒนาของประเทศไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา การช่วยเหลือครั้งนี้จะเป็นโอกาสตอบแทนมิตรไมตรี และความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่ญี่ปุ่นมีต่อประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้การช่วยเหลือและการกู้ภัยเป็นไปอย่างราบรื่น และทันเหตุกรณ์ ขณะนี้ญี่ปุ่นมีระบบบริหารจัดการโดยไทยประสานงานในการเข้าให้ความช่วยเหลือพร้อมกับนานาประเทศ การช่วยเหลือญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นน้ำใจไมตรีของคนไทยทุกคน ในการส่งความช่วยเหลือกับญี่ปุ่น
แหล่งข่าวในที่ประชุมครม.เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี เดินทางไปญี่ปุ่นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น เพื่อแสดงความห่วงใยในฐานะมิตรประเทศ แต่ยังต้องรอดูว่าฝ่ายญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้การต้อนรับหรือไม่ ทั้งนี้นายกฯ ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนแต่อย่างใด
**ตัวเลขคนไทยสูญหายยังไม่ชัด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การช่วยเหลือคนไทย ยังต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าพื้นที่ที่ประสบกับภัยหนักๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ เพิ่งเข้าไปถึง ส่วนคนไทย 250 คน ที่ยังติดต่อไม่ได้ยังไม่สามารถจะนำตัวเลขอะไรมาเป็นเกณฑ์ได้ แต่ว่าการเข้าไปในพื้นที่ในวันที่ 14 มี.ค. และวันนี้ (15 มี.ค.) น่าจะทำให้เรามีภาพที่ชัดเจนขึ้น ในเรื่องของความสูญเสียในเมืองต่างๆ และกรณีคนไทยที่อาจจะมีอยู่
**จี้รัฐเตรียมป้องกันภัยพิบัติฝั่งอ่าวไทย
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดให้สมาชิกหารือ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ได้ขอเสนอให้ประธานวุฒิสภา มีหนังสือในนามวุฒิสภา เพื่อแสดงความเสียใจ ความห่วงใย ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ประสบภัยสึนามิ และรวบรวมความช่วยเหลือจาก ส.ว.ไปยังญี่ปุ่น เพื่อแสดงน้ำใจจากวุฒิสภาไทยด้วย
นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธุ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธาน กมธ. เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.ได้บริจาคเงินเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่นไปแล้วจำนวนหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องให้วุฒิสภา ได้เป็นเจ้าภาพเพื่อช่วยกันระดมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่งด้วย
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เหตุดังกล่าว มีนักวิชาการและอดีตอธิดีกรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ออกมาระบุว่า มีโอกาสเกิดขึ้นที่ประเทศไทยในฝั่งอ่าวไทย จึงขอให้รัฐบาลเตรียมตัวป้องกัน อย่าคิดว่า ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไกลตัว และขอให้รัฐทบทวนการควบคุมสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมตามแนวชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะทางด้านฝั่งอ่าวไทยอย่างเร่งด่วนที่สุด
**สึนามิถล่มญี่ปุ่นกระทบในวงกว้าง
รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า หลังจากญี่ปุ่นต้องประสบกับภัยธรรมชาติแผ่นดินไหว ต่อด้วยคลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มย่านอุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความสูญเสียต่อชีวิตเป็นจำนวนมาก หลายฝ่ายต่างตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากระดับความรุนแรงในครั้งนี้ มีระดับที่สูงมากเป็นอันดับ 5 ของโลกจากเหตุการณ์ทั้งหมดในอดีตที่เคยเกิดขึ้น
*** “กรณ์” ระบุไทยได้รับทั้งผลบวกและลบ
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกับญี่ปุ่นมีความใกล้ชิดกันมาก แต่จะต้องรอประเมินสักระยะหนึ่งก่อน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งบวกและลบต่อเศรษฐกิจไทย โดยญี่ปุ่นเองจะต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล และหากเทียบกับ 10 ปีก่อนที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองโกเบ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้ติดลบ 2-3 % หลังจากนั้นได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าในระบบทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น แต่ครั้งนี้ ผลที่จะกระทบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นน่าจะมากกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลที่ชัดเจนขณะนี้คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง จากการผลิตที่หยุดชะงักลงของญี่ปุ่นทำให้ลดการบริโภคลง โดยกระทรวงพลังงานได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ญี่ปุ่นน้ำเข้าน้ำมัน 4 ล้านบาเรล ขณะที่ประเทศไทยนำเข้าเพียง 1 ล้านบาเรล แต่ขณะนี้การนำเข้าน้ำมันของญี่ปุ่นลดลง 20% ทำให้ราคาน้ำมันลดลง แต่การจะใช้เงินไปฟื้นฟูเศรษฐกิจขณะนี้ของญี่ปุ่นต่างจากเหตุการณ์ที่โกเบ เพราะญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับภาวะหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูงและการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันระยะยาว และจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนด้วยและจะส่งผลต่อระดับความน่าเชื่อถือต่อหนี้ของรัฐบาล จึงต้องรอดูว่า จะต้องใช้เม็ดเงินในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเท่าใด
*** ฉุดจีดีพีไทยร่วง 0.1%
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เหตุการณ์นี้กระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยประมาณ 0.1% โดยพิจารณาจากยอดการส่งออกของสินค้าไทยไปยังญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 2 ของไทยรองจากจีน
ส่วนผลกระทบทางด้านการนำเข้าสินค้าทั้งวัตถุดิบ วัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จจากญี่ปุ่นนั้น ต้องติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นว่า จะส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมและผู้ผลิตชิ้นส่วนในญี่ปุ่นต้องปิดกิจการ หรือได้รับการบูรณะมากน้อยแค่ไหน เพราะสึนามิที่ถลุ่มญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นบริเวณเมืองอุตสหกรรมซึ่งมีทั้งท่าเรือและสนามบิน
***เรียกผู้ส่งออกถกรับมือ
นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมฯ จะเรียกประชุมผู้ส่งออกสินค้าไทยไปประเทศญี่ปุ่นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลช่วยเหลือกรณีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น
“คงต้องหารือถึงวิธีการช่วยลดภาระให้กับผู้ส่งออก เพราะผลจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้ท่าเรือฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นเสียหายหมดว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เพราะความเสียหายส่วนหนึ่งบริษัทประกันภัยก็คงจะรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่บางส่วนก็ต้องรับผิดชอบเอง ซึ่งทางเอกชนคงเสนอขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ รวมถึงปัญหาด้านเครดิตทางการเงิน เพราะหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะกระทบต่อสภาพคล่องและการส่งออกในระยะสั้นได้”นายวุฒิชัยกล่าว
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการโฆษกรัฐบาล แถลงผลการประชุมครม.เมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานการให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น ต่อที่ประชุมครม. ถึงการดำเนินการของประเทศไทยดังนี้
1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
2. นายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้มีสารแสดงความเสียใจด้วยแล้วเช่นกัน
3. ทางกระทรวงการต่างประเทศในนามของรัฐบาลไทย ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท
4. กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสามยอด ชื่อบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น เลขที่บัญชี 002-0-271-46-8 และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ให้ความร่วมมือในการรับบริจาค โดยเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเอ็มโพเรี่ยม ชื่อบัญชี “ครอบครัวข่าว 3 ช่วยผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 096-3-015-955 ในการนี้กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นผู้ประสานรวบรวมเงินบริจาคไปยังสภากาชาดญี่ปุ่น รับเงินบริจาคจากไทย
นอกจากนี้ การดำเนินการของมิตรประเทศ มีองค์กรระหว่างประเทศทั้งสิ้น 50 แห่งประกาศแสดงความพร้อมในการช่วยเหลือญี่ปุ่น อาทิ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมันนี้ อินเดียว จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งทางการไทยได้สนับสนุนสุนัขดมกลิ่น เพื่อค้นหาผู้สูญหาย และบาดเจ็บ 6 ตัว เจ้าหน้าที่ 22 คน เป็นคณะให้ความช่วยเหลือ ประสานกำหนดวันเดินทางไปญี่ปุ่น รวมไปถึงจะมีรัฐมนตรีบางท่านต้องการเดินทางไปช่วยเหลือญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งทางการบินไทยได้นำเอาสิ่งของไปช่วยเหลือญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นชุดแรกที่เดินทางไปช่วยเหลือเป็น ผ้าห่ม รวมทั้งเตรียมส่งอุปกรณ์สิ่งของต่างๆ ไปให้ญี่ปุ่นวันละ 7 เที่ยวบิน โดยประสานกับกองทัพอากาศ กองทัพเรือ ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดส่งของไปตามลำดับ
ส่วนคณะแพทย์ คณะพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล คณะกู้ภัย จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันที่ 15 มี.ค. นี้ ขณะนี้ทางญี่ปุ่นต้องการอาหาร ผ้ากันหนาว และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับเครือข่ายต่างๆไว้หมดแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งสิ่งของจะไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นจะไปพักรอประสานกับเอกอัครราชทูต กรุงโตเกียว ที่วัดปากน้ำ นาริตะ ก่อนส่งต่อไปยังจุดต่างๆ กับเครือข่ายในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติเงินเพิ่มเติมจากงบกลาง รายจ่ายกรณีฉุกเฉินเป็นจำนวน 200ล้านบาท เป็นค่าบริหารจัดการ ค่าอำนวยการจัดซื้อสิ่งของต่างๆ ตามที่ร้องขอเข้ามาตามความจำเป็น ประกอบด้วย ข้าวแบบถ้วยพร้อมบริโภค อาหารแห้ง ผ้าห่ม เสื้อกันฝน และอุปกรณ์ยังชีพที่จำเป็น เนื่องจากสภาวะอากาศยังหนาวเย็นอยู่ ซึ่งทางครม.ได้อนุมัติเงินสด 5 ล้านบาทไปแล้ว
ทั้งนี้ ครม.อนุมัติให้จัดส่งข้าวไปประเทศญี่ปุ่น 15,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิ 1 หมื่นตัน และข้าวเหนียวอีก 5 พันตัน โดยมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะที่เคยประสานงานส่งข้าวไปช่วยเหลือประเทศผู้ประสบภัยพิบัติ เป็นผู้ดำเนินการ
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า เนื่องจากญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการพัฒนาของประเทศไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา การช่วยเหลือครั้งนี้จะเป็นโอกาสตอบแทนมิตรไมตรี และความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่ญี่ปุ่นมีต่อประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้การช่วยเหลือและการกู้ภัยเป็นไปอย่างราบรื่น และทันเหตุกรณ์ ขณะนี้ญี่ปุ่นมีระบบบริหารจัดการโดยไทยประสานงานในการเข้าให้ความช่วยเหลือพร้อมกับนานาประเทศ การช่วยเหลือญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นน้ำใจไมตรีของคนไทยทุกคน ในการส่งความช่วยเหลือกับญี่ปุ่น
แหล่งข่าวในที่ประชุมครม.เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี เดินทางไปญี่ปุ่นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น เพื่อแสดงความห่วงใยในฐานะมิตรประเทศ แต่ยังต้องรอดูว่าฝ่ายญี่ปุ่นพร้อมที่จะให้การต้อนรับหรือไม่ ทั้งนี้นายกฯ ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนแต่อย่างใด
**ตัวเลขคนไทยสูญหายยังไม่ชัด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การช่วยเหลือคนไทย ยังต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าพื้นที่ที่ประสบกับภัยหนักๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ต่างๆ เพิ่งเข้าไปถึง ส่วนคนไทย 250 คน ที่ยังติดต่อไม่ได้ยังไม่สามารถจะนำตัวเลขอะไรมาเป็นเกณฑ์ได้ แต่ว่าการเข้าไปในพื้นที่ในวันที่ 14 มี.ค. และวันนี้ (15 มี.ค.) น่าจะทำให้เรามีภาพที่ชัดเจนขึ้น ในเรื่องของความสูญเสียในเมืองต่างๆ และกรณีคนไทยที่อาจจะมีอยู่
**จี้รัฐเตรียมป้องกันภัยพิบัติฝั่งอ่าวไทย
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เปิดให้สมาชิกหารือ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ได้ขอเสนอให้ประธานวุฒิสภา มีหนังสือในนามวุฒิสภา เพื่อแสดงความเสียใจ ความห่วงใย ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ประสบภัยสึนามิ และรวบรวมความช่วยเหลือจาก ส.ว.ไปยังญี่ปุ่น เพื่อแสดงน้ำใจจากวุฒิสภาไทยด้วย
นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธุ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธาน กมธ. เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวว่า กมธ.ได้บริจาคเงินเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่นไปแล้วจำนวนหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องให้วุฒิสภา ได้เป็นเจ้าภาพเพื่อช่วยกันระดมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกทางหนึ่งด้วย
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เหตุดังกล่าว มีนักวิชาการและอดีตอธิดีกรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ออกมาระบุว่า มีโอกาสเกิดขึ้นที่ประเทศไทยในฝั่งอ่าวไทย จึงขอให้รัฐบาลเตรียมตัวป้องกัน อย่าคิดว่า ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไกลตัว และขอให้รัฐทบทวนการควบคุมสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะในการสร้างนิคมอุตสาหกรรมตามแนวชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะทางด้านฝั่งอ่าวไทยอย่างเร่งด่วนที่สุด
**สึนามิถล่มญี่ปุ่นกระทบในวงกว้าง
รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร MPA สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า หลังจากญี่ปุ่นต้องประสบกับภัยธรรมชาติแผ่นดินไหว ต่อด้วยคลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มย่านอุตสาหกรรม และพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความสูญเสียต่อชีวิตเป็นจำนวนมาก หลายฝ่ายต่างตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากระดับความรุนแรงในครั้งนี้ มีระดับที่สูงมากเป็นอันดับ 5 ของโลกจากเหตุการณ์ทั้งหมดในอดีตที่เคยเกิดขึ้น
*** “กรณ์” ระบุไทยได้รับทั้งผลบวกและลบ
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกับญี่ปุ่นมีความใกล้ชิดกันมาก แต่จะต้องรอประเมินสักระยะหนึ่งก่อน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมีทั้งบวกและลบต่อเศรษฐกิจไทย โดยญี่ปุ่นเองจะต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล และหากเทียบกับ 10 ปีก่อนที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองโกเบ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้ติดลบ 2-3 % หลังจากนั้นได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าในระบบทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น แต่ครั้งนี้ ผลที่จะกระทบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นน่าจะมากกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลที่ชัดเจนขณะนี้คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง จากการผลิตที่หยุดชะงักลงของญี่ปุ่นทำให้ลดการบริโภคลง โดยกระทรวงพลังงานได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ญี่ปุ่นน้ำเข้าน้ำมัน 4 ล้านบาเรล ขณะที่ประเทศไทยนำเข้าเพียง 1 ล้านบาเรล แต่ขณะนี้การนำเข้าน้ำมันของญี่ปุ่นลดลง 20% ทำให้ราคาน้ำมันลดลง แต่การจะใช้เงินไปฟื้นฟูเศรษฐกิจขณะนี้ของญี่ปุ่นต่างจากเหตุการณ์ที่โกเบ เพราะญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับภาวะหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูงและการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันระยะยาว และจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนด้วยและจะส่งผลต่อระดับความน่าเชื่อถือต่อหนี้ของรัฐบาล จึงต้องรอดูว่า จะต้องใช้เม็ดเงินในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเท่าใด
*** ฉุดจีดีพีไทยร่วง 0.1%
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เหตุการณ์นี้กระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยประมาณ 0.1% โดยพิจารณาจากยอดการส่งออกของสินค้าไทยไปยังญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 2 ของไทยรองจากจีน
ส่วนผลกระทบทางด้านการนำเข้าสินค้าทั้งวัตถุดิบ วัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จจากญี่ปุ่นนั้น ต้องติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้นว่า จะส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมและผู้ผลิตชิ้นส่วนในญี่ปุ่นต้องปิดกิจการ หรือได้รับการบูรณะมากน้อยแค่ไหน เพราะสึนามิที่ถลุ่มญี่ปุ่นนั้น เกิดขึ้นบริเวณเมืองอุตสหกรรมซึ่งมีทั้งท่าเรือและสนามบิน
***เรียกผู้ส่งออกถกรับมือ
นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมฯ จะเรียกประชุมผู้ส่งออกสินค้าไทยไปประเทศญี่ปุ่นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลช่วยเหลือกรณีที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น
“คงต้องหารือถึงวิธีการช่วยลดภาระให้กับผู้ส่งออก เพราะผลจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้ท่าเรือฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นเสียหายหมดว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เพราะความเสียหายส่วนหนึ่งบริษัทประกันภัยก็คงจะรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่บางส่วนก็ต้องรับผิดชอบเอง ซึ่งทางเอกชนคงเสนอขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ รวมถึงปัญหาด้านเครดิตทางการเงิน เพราะหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะกระทบต่อสภาพคล่องและการส่งออกในระยะสั้นได้”นายวุฒิชัยกล่าว
