บิ๊ก“อั๊คโซ่โนเบลฯ” เผยปี 54 รุกตลาดภูมิภาคเอเชีย เน้นสร้างแบรนด์ ปั้นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มช่องทางตลาด ปรับปรุงโรงงานเก่ารักษากำลังผลิตรองรับความต้องการลูกค้า แจงตลาดรวมสีทางอาคารโลก ปีนี้โต3-4% ขณะ ตั้งเป้าทั้งปีโตกว่า10% ด้านผู้บริหารอั๊คโซ่ฯในไทย คาดตลาดรวมสีทางอาคารในประเทศโตไม่เกินจีดีพี
นายเจเรอมี่ พอล โรว์ กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิก บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เอ็น วี หรือ (อั๊คโซโนเบล) กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทมาจากยอดขาย 3 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.สีทาอาคาร 2.สีเคลือบอุตสาหกรรม เช่น สีเคลือบรถยนต์ สีทาเรือ สีเคลือบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ในสินค้าต่างๆ และ 3.ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 14,600 ล้านเหรียญยูโร เติบโตจากปีก่อนหน้า12% และมีอัตรากำไรเบื้องเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 16% คิดเป็น1 ,964 ล้านเหรียญยูโร มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น13.4% คิดเป็น 754 ล้านเหรียญยูโร
" สาเหตุที่รายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่ได้ผล ในขณะเดียวกันยอดขายกว่า 40% ของบริษัทมาจากกลุ่มตลาดใหม่ที่มีศักยภาพใน 2 โซนหลัก ๆ คือ กลุ่มประเทศแถบลาตินอเมริกา กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ร้อนแรงกว่ายุโรป และอเมริกา ที่เป็นตลาดเดิม"
สำหรับแผนธุรกิจในปี 54 นั้น ทางบริษัทฯได้คาดการว่า ตลาดรวมสีทาอาคารในโลกจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 3-4% ขณะที่ตลาดสีเอเชียจะขยายตัว 7-9% โดยในส่วนของอั๊คโซโนเบลฯ ประมาณการยอดขายรวมไว้ที่ 10% ขึ้นไป
นายเจเรอมี่ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชียในปีนี้ จะยังเน้นในเรื่องการสร้างบแบรนด์ “Dulux”และการขยายช่องทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าEco หรือสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงโรงงานรวมถึงการลงทุนพัฒนาโรงงานใหม่เพิ่มกำลังการผลิตในเอเชีย เพื่อรองรับความต้องการและการขยายตัวของตลาดสีในภูมิภาคเอเชีย
“ แผนการที่วางไว้ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อรองรับความต้องการในแต่ละภูมิภาค โดยในแต่ละปีบริษัทจะพิจารณาการเพิ่มกำลังผลิตในโรงงานใหม่และปรับปรุงโรงงานเดิม ให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอรองรับความต้องการของตลาดไป 2 ปีข้างหน้า ที่ผ่านมา ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ในเวียดนามและอินโดนีเซียไปแล้ว ส่วนในไทย กำลังผลิตเพียงพอ จึงยังไม่มีแผนปรับปรุงหรือขยายโรงงานเพิ่ม ”
นายจรุง กาญจนภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อั๊คโซโนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีทีผ่านมา ธุรกิจในไทยสามารถสร้างรายได้ตามเป้ามากกว่า 10% สูงกว่าการขยายตัวของตลาดรวม ส่วนตลาดสีทาอาคารในประเทศปี จะมีอัตราการขยายตัวเท่าๆกับจีดีพี ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะมีผลต่อการขยายตัวของตลาดสีในประเทศนั้น มีทั้งเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ ราคาน้ำมัน และการขยายตัวของตลาดอสังหาฯ
นายเจเรอมี่ พอล โรว์ กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิก บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เอ็น วี หรือ (อั๊คโซโนเบล) กล่าวว่า ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทมาจากยอดขาย 3 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.สีทาอาคาร 2.สีเคลือบอุตสาหกรรม เช่น สีเคลือบรถยนต์ สีทาเรือ สีเคลือบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ในสินค้าต่างๆ และ 3.ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 14,600 ล้านเหรียญยูโร เติบโตจากปีก่อนหน้า12% และมีอัตรากำไรเบื้องเติบโตขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 16% คิดเป็น1 ,964 ล้านเหรียญยูโร มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น13.4% คิดเป็น 754 ล้านเหรียญยูโร
" สาเหตุที่รายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่ได้ผล ในขณะเดียวกันยอดขายกว่า 40% ของบริษัทมาจากกลุ่มตลาดใหม่ที่มีศักยภาพใน 2 โซนหลัก ๆ คือ กลุ่มประเทศแถบลาตินอเมริกา กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ร้อนแรงกว่ายุโรป และอเมริกา ที่เป็นตลาดเดิม"
สำหรับแผนธุรกิจในปี 54 นั้น ทางบริษัทฯได้คาดการว่า ตลาดรวมสีทาอาคารในโลกจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 3-4% ขณะที่ตลาดสีเอเชียจะขยายตัว 7-9% โดยในส่วนของอั๊คโซโนเบลฯ ประมาณการยอดขายรวมไว้ที่ 10% ขึ้นไป
นายเจเรอมี่ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการลงทุนและการดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชียในปีนี้ จะยังเน้นในเรื่องการสร้างบแบรนด์ “Dulux”และการขยายช่องทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าEco หรือสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงโรงงานรวมถึงการลงทุนพัฒนาโรงงานใหม่เพิ่มกำลังการผลิตในเอเชีย เพื่อรองรับความต้องการและการขยายตัวของตลาดสีในภูมิภาคเอเชีย
“ แผนการที่วางไว้ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อรองรับความต้องการในแต่ละภูมิภาค โดยในแต่ละปีบริษัทจะพิจารณาการเพิ่มกำลังผลิตในโรงงานใหม่และปรับปรุงโรงงานเดิม ให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอรองรับความต้องการของตลาดไป 2 ปีข้างหน้า ที่ผ่านมา ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ในเวียดนามและอินโดนีเซียไปแล้ว ส่วนในไทย กำลังผลิตเพียงพอ จึงยังไม่มีแผนปรับปรุงหรือขยายโรงงานเพิ่ม ”
นายจรุง กาญจนภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อั๊คโซโนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีทีผ่านมา ธุรกิจในไทยสามารถสร้างรายได้ตามเป้ามากกว่า 10% สูงกว่าการขยายตัวของตลาดรวม ส่วนตลาดสีทาอาคารในประเทศปี จะมีอัตราการขยายตัวเท่าๆกับจีดีพี ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะมีผลต่อการขยายตัวของตลาดสีในประเทศนั้น มีทั้งเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ ราคาน้ำมัน และการขยายตัวของตลาดอสังหาฯ