เราต้องรู้ว่า...เบื้องหลังมวลชน นปช.นั้น นอกจากทักษิณจะอยู่เบื้องหลังสนับสนุนด้านเงินทุน อีกด้านหนึ่งพรรคคอมฯ ทั้งลับและสนับสนุนด้านการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งทางยุทธศาสตร์ที่ซ้อนเร้นไว้ เพื่อหลอกเอาเงินใน เครือข่ายของทักษิณมาเคลื่อนไหวทางยุทธวิธีในการต่อสู้ทางการเมือง
ทั้งในทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีพรรคคอมฯ ใช้ความรุนแรง หากไม่ใช้ความรุนแรงก็ไม่สามารถจะล้มสถาบันหลักๆ ของชาติลงได้ แต่...หารู้ไหมว่า แนวทางรุนแรงนั้นใช้ไม่ได้ผลกับคนไทย ในอดีตพรรคคอมมิวนิสต์ ก็ได้รับบทเรียนมามากพอแล้วและได้พ่ายแพ้ยับเยินทั้งกำลังทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีต่อพรรคประชาธิปไตยในนามกองทัพแห่งชาติ ด้วยนโยบาย 66/2523 กองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมฯ ได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพแห่งชาติและได้สลายลงอย่างราบคาย
แต่นี่เป็นการพ่ายแพ้ยุทธศาสตร์การทหารเท่านั้น แต่ยังไม่แพ้ทางการเมือง เหตุที่พรรคคอมฯ พ่ายแพ้ เพราะ หนึ่ง ตั้งยุทธศาสตร์แนวทางรุนแรง สอง กองทัพแห่งชาติในขณะนั้นถือการเมืองประชาธิปไตยแท้ ตามคำสั่ง นโยบายที่ 66/23 “สงครามแพ้ชนะตัดสินกันที่การเมืองใครเหนือกว่า” “การเมืองชนะ สงครามก็ชนะ การเมืองแพ้ สงครามก็แพ้”
ในสภาวการณ์และสถานการณ์ปัจจุบันรูปประเทศไทย (Form of Country) เป็นราชอาณาจักร (Kingdom) มีการเมือง-การปกครองเป็นเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ (Constitution Regime) โดยมีรูปการปกครอง (Form of Government) คือระบบรัฐสภา (Parliamentary System) โดยมี 2 สภา
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญหมายถึง การเมืองที่ไม่มีหลักการปกครอง (Principle of Government) ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไป (General) กลับมีเพียงวิธีการปกครอง (Methods of Government) ซึ่งก็คือหมวดต่างๆ และมาตราต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ (Individuals) แต่งต่างกันออกไป อันเป็นวิธีการปกครองมีอำนาจบังคับให้ทำอย่างนี้ ห้ามทำอย่างนั้น ซึ่งได้บังคับใช้กับสถาบันต่างๆ ทางการเมืองและการปกครอง
ทั้งลักษณะรูปการปกครองและวิธีการปกครองเผด็จการ ดังกล่าว เป็นการจัดความสัมพันธ์ที่ผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ ทำลายชาติ ทำลายองค์ประกอบของรัฐ (ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกองทัพ) และทำลายประชาชน ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ ขึ้นมาบริหารประเทศก็จะมีแต่ปัญหาๆ แก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้า และไม่สามารถแก้ไขเหตุวิกฤตชาติได้เลย
รัฐบาลไหนๆ เข้ามาบริหารประเทศ แม้จะชนะการเลือกตั้งก็ตาม นั้นเป็นชนะมาได้ตามพิธีกรรมและการซื้อเสียง เป็นการชนะการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการ จึงไม่ใช่เสียงประชาชนหรือมติมหาชนอย่างแท้จริง
รัฐบาลย่อมเกิดจากเหตุคือระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นระบอบเผด็จการที่ร้ายกาจที่สุด มองเห็นอยากมากๆ หากเพียงมองรูปแบบและวิธีการปกครอง ซึ่งต่างก็พูดว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพวกเขายกเอารูปการปกครองคือระบบรัฐสภาและวิธีการปกครองคือรัฐธรรมนูญ นี่คือ ระบอบประชาธิปไตย เห็นไหมละครับ พวกเขาขาดความรู้เรื่องการเมืองที่ถูกต้อง ก็แน่นอนว่า เมื่อเห็นผิด รู้ผิด พวกเขาก็ต้องพูดผิด และทำผิดเรื่อยไป อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บริหารผิดซ้ำรอยนายกฯ ท่านอื่นๆ มาแล้วถึง 26 คน
ในสภาพการณ์ที่เป็นเผด็จการ รูปแบบใดก็ตาม ลักษณะใดก็ตาม นั้นก็คือย่อมมีเงื่อนไขทางการเมือง เมื่อมีเงื่อนไขทางการเมือง แน่นอนว่า พรรคคอมมิวนิสต์กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแท้ ย่อมต้องต่อสู้กัน เพื่อเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้องอย่างสันติเป็นธรรมเพื่อรักษาไว้ซึ่งรากฐานของชาติไว้อย่างมั่นคงต่อไป หรือจะต้องเปลี่ยนแปลงเพราะความไม่รู้และทำลายล้าง ฆ่ากันเองด้วยความโลภ โกรธ หลง และทำลายรากฐานของชาติ ทำลายกองทัพแห่งชาติให้ราบคาบลงกระนั้นหรือ
กองทัพต้องรู้ว่า ขณะนี้กองทัพควรต้องแสวงหาเสนาธิการ ที่ชาญฉลาด รอบรู้ทางการเมือง นายทหารกองทัพแห่งชาติทั้งหลาย ท่านต้องรู้ว่า ในสัมพันธภาพหลัก กองทัพเป็นองค์ประกอบของรัฐ มีอำนาจหน้าที่สนับสนุนการเมืองให้เป็นธรรมแก่ปวงชน ร่วมมือแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ อย่าสนับสนุนการเมืองเผด็จการหรือพรรคฯ ที่รักษาระบอบเผด็จการทุกชนิด ท่านทหารหาญทั้งหลาย ในสถานการณ์การเมืองเผด็จการท่านอย่าลืมข้อนี้เป็นอันขาด ส่วนสัมพันธภาพรอง กองทัพเป็นกลไกลรัฐ (Machine State)
ไม่ว่ากองทัพใดๆ ที่ไหนก็ตาม หากตกเป็นกลไกรัฐเผด็จการ กองทัพตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง และตกเป็นฝ่ายรับทางยุทธศาสตร์การทหาร รบที่ไหนแพ้ที่นั่น ยกตัวอย่างรบแพ้ลาว และอาจจะแพ้เขมร และกองทัพไทยทางภาคใต้กองกำลังและงบประมาณมหึมา แต่พ่ายแพ้ทางการเมือง ตกเป็นฝ่ายรับทางยุทธศาสตร์ทางหารโจรก่อการร้าย
ข่าวทางลึกวงสนทนาพรรคคอมฯ ได้ชื่นชม นปช. และโดยเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ (ผู้อยากเด่น อยากดัง อยากใหญ่) ว่าทำหน้าที่เป็นแนวร่วม (United front) ทางตรงได้ดีมากๆ ทำลายกองทัพตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง กองทัพไม่สามารถทำอะไรได้เลย และจะพ่ายแพ้กองทัพปฏิวัติแดงในเร็ววัน มีทางเดียวที่กองทัพแห่งชาติจะกู้ชาติได้คือต้องอยู่เหนือการเมืองเผด็จการทุกชนิด ทุกพรรค ไม่ทำรัฐประหาร และใช้สัมพันธภาพหลักหันกลับมาสนับสนุนแนวทางการเมืองแก่นแท้ของชาตินับแต่แนวทางการเมืองพระพุทธเจ้าหลวง เป็นต้นมา สู่การเมืองธรรมาธิปไตยอันเป็นแก่นแท้ของชาติและปวงชน
ทั้งในทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีพรรคคอมฯ ใช้ความรุนแรง หากไม่ใช้ความรุนแรงก็ไม่สามารถจะล้มสถาบันหลักๆ ของชาติลงได้ แต่...หารู้ไหมว่า แนวทางรุนแรงนั้นใช้ไม่ได้ผลกับคนไทย ในอดีตพรรคคอมมิวนิสต์ ก็ได้รับบทเรียนมามากพอแล้วและได้พ่ายแพ้ยับเยินทั้งกำลังทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีต่อพรรคประชาธิปไตยในนามกองทัพแห่งชาติ ด้วยนโยบาย 66/2523 กองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมฯ ได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพแห่งชาติและได้สลายลงอย่างราบคาย
แต่นี่เป็นการพ่ายแพ้ยุทธศาสตร์การทหารเท่านั้น แต่ยังไม่แพ้ทางการเมือง เหตุที่พรรคคอมฯ พ่ายแพ้ เพราะ หนึ่ง ตั้งยุทธศาสตร์แนวทางรุนแรง สอง กองทัพแห่งชาติในขณะนั้นถือการเมืองประชาธิปไตยแท้ ตามคำสั่ง นโยบายที่ 66/23 “สงครามแพ้ชนะตัดสินกันที่การเมืองใครเหนือกว่า” “การเมืองชนะ สงครามก็ชนะ การเมืองแพ้ สงครามก็แพ้”
ในสภาวการณ์และสถานการณ์ปัจจุบันรูปประเทศไทย (Form of Country) เป็นราชอาณาจักร (Kingdom) มีการเมือง-การปกครองเป็นเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ (Constitution Regime) โดยมีรูปการปกครอง (Form of Government) คือระบบรัฐสภา (Parliamentary System) โดยมี 2 สภา
ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญหมายถึง การเมืองที่ไม่มีหลักการปกครอง (Principle of Government) ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไป (General) กลับมีเพียงวิธีการปกครอง (Methods of Government) ซึ่งก็คือหมวดต่างๆ และมาตราต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ (Individuals) แต่งต่างกันออกไป อันเป็นวิธีการปกครองมีอำนาจบังคับให้ทำอย่างนี้ ห้ามทำอย่างนั้น ซึ่งได้บังคับใช้กับสถาบันต่างๆ ทางการเมืองและการปกครอง
ทั้งลักษณะรูปการปกครองและวิธีการปกครองเผด็จการ ดังกล่าว เป็นการจัดความสัมพันธ์ที่ผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ ทำลายชาติ ทำลายองค์ประกอบของรัฐ (ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกองทัพ) และทำลายประชาชน ไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ ขึ้นมาบริหารประเทศก็จะมีแต่ปัญหาๆ แก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้า และไม่สามารถแก้ไขเหตุวิกฤตชาติได้เลย
รัฐบาลไหนๆ เข้ามาบริหารประเทศ แม้จะชนะการเลือกตั้งก็ตาม นั้นเป็นชนะมาได้ตามพิธีกรรมและการซื้อเสียง เป็นการชนะการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการ จึงไม่ใช่เสียงประชาชนหรือมติมหาชนอย่างแท้จริง
รัฐบาลย่อมเกิดจากเหตุคือระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นระบอบเผด็จการที่ร้ายกาจที่สุด มองเห็นอยากมากๆ หากเพียงมองรูปแบบและวิธีการปกครอง ซึ่งต่างก็พูดว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพวกเขายกเอารูปการปกครองคือระบบรัฐสภาและวิธีการปกครองคือรัฐธรรมนูญ นี่คือ ระบอบประชาธิปไตย เห็นไหมละครับ พวกเขาขาดความรู้เรื่องการเมืองที่ถูกต้อง ก็แน่นอนว่า เมื่อเห็นผิด รู้ผิด พวกเขาก็ต้องพูดผิด และทำผิดเรื่อยไป อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บริหารผิดซ้ำรอยนายกฯ ท่านอื่นๆ มาแล้วถึง 26 คน
ในสภาพการณ์ที่เป็นเผด็จการ รูปแบบใดก็ตาม ลักษณะใดก็ตาม นั้นก็คือย่อมมีเงื่อนไขทางการเมือง เมื่อมีเงื่อนไขทางการเมือง แน่นอนว่า พรรคคอมมิวนิสต์กับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยแท้ ย่อมต้องต่อสู้กัน เพื่อเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้องอย่างสันติเป็นธรรมเพื่อรักษาไว้ซึ่งรากฐานของชาติไว้อย่างมั่นคงต่อไป หรือจะต้องเปลี่ยนแปลงเพราะความไม่รู้และทำลายล้าง ฆ่ากันเองด้วยความโลภ โกรธ หลง และทำลายรากฐานของชาติ ทำลายกองทัพแห่งชาติให้ราบคาบลงกระนั้นหรือ
กองทัพต้องรู้ว่า ขณะนี้กองทัพควรต้องแสวงหาเสนาธิการ ที่ชาญฉลาด รอบรู้ทางการเมือง นายทหารกองทัพแห่งชาติทั้งหลาย ท่านต้องรู้ว่า ในสัมพันธภาพหลัก กองทัพเป็นองค์ประกอบของรัฐ มีอำนาจหน้าที่สนับสนุนการเมืองให้เป็นธรรมแก่ปวงชน ร่วมมือแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ อย่าสนับสนุนการเมืองเผด็จการหรือพรรคฯ ที่รักษาระบอบเผด็จการทุกชนิด ท่านทหารหาญทั้งหลาย ในสถานการณ์การเมืองเผด็จการท่านอย่าลืมข้อนี้เป็นอันขาด ส่วนสัมพันธภาพรอง กองทัพเป็นกลไกลรัฐ (Machine State)
ไม่ว่ากองทัพใดๆ ที่ไหนก็ตาม หากตกเป็นกลไกรัฐเผด็จการ กองทัพตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง และตกเป็นฝ่ายรับทางยุทธศาสตร์การทหาร รบที่ไหนแพ้ที่นั่น ยกตัวอย่างรบแพ้ลาว และอาจจะแพ้เขมร และกองทัพไทยทางภาคใต้กองกำลังและงบประมาณมหึมา แต่พ่ายแพ้ทางการเมือง ตกเป็นฝ่ายรับทางยุทธศาสตร์ทางหารโจรก่อการร้าย
ข่าวทางลึกวงสนทนาพรรคคอมฯ ได้ชื่นชม นปช. และโดยเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ (ผู้อยากเด่น อยากดัง อยากใหญ่) ว่าทำหน้าที่เป็นแนวร่วม (United front) ทางตรงได้ดีมากๆ ทำลายกองทัพตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง กองทัพไม่สามารถทำอะไรได้เลย และจะพ่ายแพ้กองทัพปฏิวัติแดงในเร็ววัน มีทางเดียวที่กองทัพแห่งชาติจะกู้ชาติได้คือต้องอยู่เหนือการเมืองเผด็จการทุกชนิด ทุกพรรค ไม่ทำรัฐประหาร และใช้สัมพันธภาพหลักหันกลับมาสนับสนุนแนวทางการเมืองแก่นแท้ของชาตินับแต่แนวทางการเมืองพระพุทธเจ้าหลวง เป็นต้นมา สู่การเมืองธรรมาธิปไตยอันเป็นแก่นแท้ของชาติและปวงชน