พี่กันยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ จีนอย่าหวังเห็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ -เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ “แฮมป์ตัน” ของกองทัพเรือสหรัฐฯ แวะเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แต่ไม่ส่งเทียบเชิญแม่ทัพนายกองเจ้าบ้านขึ้นชมเรือ

การเทียบท่าของเรือดำน้ำสุดยอดไฮเทคจากถิ่นพญาอินทรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการแวะเยือนเกาะฮ่องกงครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยมีเรือ “แฟรงก์ เคเบิล” ซึ่งก็แหลมคมด้วยเขี้ยวเล็บ แล่นขนาบข้างคอยเป็นพี่เลี้ยงตลอดเวลา

หากการเยือนครั้งนี้เป็นนิมิตหมายว่าความสัมพันธ์ ที่เย็นชาเสมือนก้อนน้ำแข็งเย็นเฉียบระหว่างสองชาติมหาอำนาจได้ละลายลงแล้ว

แต่นั่นก็ได้แสดงให้เห็นเช่นกันว่า ยังต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียวกว่าสัมพันธไมตรีทางการทหาร ที่เริ่มเดินเตาะแตะนี้จะงอกงามเติบโต เพราะ นายทหารบนเรือแฮมป์ตัน และเรือแฟรงก์ เคเบิลต่างยืนยันรายงานข่าวที่ว่า ระหว่างการแวะพักผ่อน ทางฝ่ายสหรัฐฯ มิได้เชื้อเชิญทหารเรือของจีนให้มาขึ้นชมเรือแต่ประการใด

คาดว่า ต้องรอไปจนถึงสัปดาห์หน้า เมื่อเรือบรรทุกเครื่องบิน คาร์ล วินสัน ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการทิ้งศพอุสซะมะห์ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ลงทะเลอาหรับ แล่นมาเยือนนั่นแหละ ขุนศึกแดนมังกรจึงอาจได้รับคำเชิญขึ้นมาจิบน้ำชาบนเรือบรรทุกเครื่องบินลำเขื่องนี้

ในอดีต นายทหารระดับสูงของจีนเคยมีโอกาสได้ขึ้นชมเรือดำน้ำของสหรัฐฯ บ้างเป็นครั้งคราว แต่ยังไม่พัฒนาเขยิบถึงขั้นเป็นภารกิจประจำแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ฝ่าย โดยเจ้าหน้าที่ในกรุงวอชิงตันผู้หนึ่งระบุว่า เรือดำน้ำเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอยู่มาก และสหรัฐฯ เองก็ต้องการมีโอกาสได้ขึ้นเรือดำน้ำของจีนมากกว่าที่เป็นอยู่เช่นกัน นอกจากนั้น เขายังอ้างถึงคำสั่งของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า ความสัมพันธ์ทางการทหารต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส และการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันเท่านั้น

นักวิเคราะห์ด้านการทหารและนักการทูตระดับภูมิภาคเชื่อว่า พี่กันเองก็กำลังเฝ้าติดตามพัฒนาการความเคลื่อนไหวของขีปนาวุธนำวิถี และเรือดำน้ำพิฆาตรุ่นใหม่ของพญามังกร โดยจับตามองฐานทัพอี้หลิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองซันย่า บนเกาะไหหลำอย่างใกล้ชิด ฝ่ายเรือดำน้ำของจีนก็จ้องจับความเคลื่อนไหวของมะกันอย่างเข้มข้นไม่แพ้กัน

เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ “แฮมป์ตัน”โผขึ้นสู่ผิวน้ำในน่านน้ำของฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ (15 พ.ค.) จัดเป็นเรือดำน้ำชั้นลอส แองเจลิส และเป็นที่รู้จักกันดีว่ามันคือ “นักฆ่านายพราน” เพราะฝีมืออันฉกาจฉกรรจ์ในการออกล่าค้นหาเรือดำน้ำศัตรู พร้อมปล่อยอาวุธสังหารทั้งตอร์ปิโด และขีปนาวุธโทมาฮอว์ก ถล่มเป้าหมาย นอกจากนั้น ยังสามารถปฏิบัติภารกิจในการหาข่าวกรองได้อีกด้วย

ทว่า “แฮมป์ตัน” ผู้มีลำตัวยาว 109 เมตรก็แลดูเล็กไปถนัดใจเมื่อมี“แฟรงก์ เคเบิล” เรือพี่เลี้ยงคอยขนาบข้าง แม้เรือระวางหนัก 23,300 ตันลำนี้ไม่เร้าใจในสายตาของนักวิเคราะห์ทางการทหาร แต่มันยังเป็นเรือระดับแถวหน้าในการวางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยทำหน้าที่ให้การสนับสนุนชนิดครบวงจร ทั้งด้านการซ่อมบำรุง จัดหาเสบียงอาหาร หรือแม้แต่อาวุธยุทโปกรณ์พิเศษ แก่เรือดำน้ำพี่กัน ที่นับวันเพิ่มจำนวนมากขึ้นท่ามกลางสภาวการณ์ ที่จีนกำลังปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย

ปัจจุบันกองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นกองทัพเรือเพียงชาติเดียวในโลก ที่มีเรือพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนเรือดำน้ำ อันเป็นข้อเท็จจริงที่นักยุทธศาสตร์การทหารบนแดนมังกรตั้งข้อสังเกต

ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งยินยอมอนุญาตให้เรือทั้งสองลำมาแวะที่ฮ่องกงได้ แต่ก็ไม่วายปรามสหรัฐฯ โดยหยิบยกข้อวิตกเรื่องที่อีกฝ่ายยังเคลื่อนไหวทางทหาร และปฏิบัติการสอดแนมบริเวณนอกชายฝั่งของจีนอยู่ไม่เลิกรา ให้ทำเนียบขาวรับทราบไว้ด้วย