นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รวมทั้ง แกนพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรี ประกาศวันยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เพราะมองว่าเร็วเกินไป และบ้านเมืองยังมีสถานการณ์ความวุ่นวายว่า คิดว่าเมื่อมาถึงตอนนี้ ก็ต้องเดินหน้าตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไปแล้ว และเราคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก พี่น้องประชาน นักธุรกิจ ผู้ประกอบกิจการค้า ทุกฝ่ายเห็นว่าถ้าประเทศไทยได้เริ่มต้นกันใหม่เร็วๆ เหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งปวง ก็จะได้หยุดกันเสียที และเราจะได้มาตั้งวหน้าตั้งตาร่วมมือแก้ปัญหากันใหม่
** เดินหน้าสู่วาระการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าจะอธิบายการเร่งประกาศยุบสภาครั้งนี้มันแตกต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้อย่างไร เพราะบางฝ่ายก็ยังมองว่ากลุ่มการเมือง ก็ยังคงเคลื่อนไหว ความสงบในบ้านเมืองก็ยังไม่มี สำเร็จแค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นักการเมืองเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเราได้กำหนดวันยุบสภาให้ชัดเจน ทุกคนก็จะได้ปรับตัวได้ การประกาศกำหนดจะยุบสภาในต้นเดือนพ.ค.เป็นการประกาศวาระของการเลือกตั้ง พรรคการเมืองทั้งหลายก็สมควรที่จะไปเตรียมตัวหาผู้สมัคร และจัดทำนโยบายที่จะเสนอต่อประชาชน เตรียมรณรงค์เดินสายอธิบายให้ประชาชนฟังถึงนโยบายที่จะแก้ปัญหาเพื่อให้ประชาชนศึกษา จะได้ตัดสินใจเลือกตั้งได้ ประชาชนก็จะได้มีเวลาติดตามว่าพรรคการเมืองต่างๆ เขาเสนอนโยบายอะไร
นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างนี้ ก็จะได้หยุดการเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายกันเสียที ไปแข่งขันกันในวาระการเลือกตั้ง จะแพ้หรือชนะก็ให้ประชาชนตัดสิน หลังเลือกตั้งมาแล้ว พรรคไหนมีคะแนนเสียง หรือรวบรวมเสียงได้มาก ก็ไปจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ เราก็จะเดินหน้าได้ ไม่ต้องสะดุด
ส่วนที่ว่าทำไมไม่เลือกตั้งกันเสียตั้งแต่เดือนธ.ค. 53 หรือ ม.ค. 54 เพราะตอนนั้นมันไม่พร้อม เพราะเรามีแนวความคิดที่ต้องปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเพื่อให้เอื้อต่อการเริ่มต้นใหม่ หลักเกณฑ์เรื่องวันแมนวันโหวต เป็นเสียงเรียกร้องของฝ่ายต่างๆ และต้องให้เวลา กกต. เตรียมการระเบียบที่ต้องทำ ระหว่างความจำเป็นที่ต้องใช้เวลา กับความจำเป็นที่จะต้องให้คำตอบกับประเทศ นายกฯได้คิดถึงจุดสมดุลที่เหมาะสมแล้ว คือต้นเดือน พ.ค.
เมื่อถามว่า จากความไม่พอใจของพรรคร่วมรัฐบาล ยังมั่นใจจะทำให้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ จะผ่านสภา 3 วาระรวด ทันประกาศใช้ในปลายเดือนเม.ย.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเดินสายทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อเราตกลงว่าจะเดินหน้าเข้าสู่วาระการเลือกตั้ง เราก็ต้องมาร่วมมือกันสร้างเครื่องมือเพื่อให้กกต. ทำงานได้
** มั่นใจไม่มีพลิกขั้วช่วงศึกซักฟอก
เมื่อถามว่ายังมั่นใจว่าจะทำความเข้าใจกับพรรคร่วมฯ ได้ ที่ต้องไปลงเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่เต็มใจ โดยไม่กระทบต่อสัมพันธ์ในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่าทุกทีที่มีกรณีที่ต้องตัดสินใจใหม่ๆ สื่อมวลชนก็ต้องมาถามว่า ตนจะแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร ตนเคยเรียนมาตอลดเวลาว่า ตนเชื่อในความมีเหตุมีผลของแต่ละพรรคการเมือง ตนก็แก้ไขคลี่คลายปัญหาต่างๆ ร่วมกับเพื่อนๆในพรรคการเมืองต่างๆ มาได้ดีตลอด คราวนี้เราก็ต้องปรึกษา พูดคุย ชี้แจงอธิบายเหตุผล และเชื่อว่าเราก็จะผ่านกรณีนี้ไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่ากระบวนการจะเดินไปสู่การเลือกตั้งได้แน่นอน จะไม่มีอุบัติเหตุอะไร ระหว่างศึกการซักฟอกรัฐบาลเกิดขึ้นก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ชีวิตมันมีปัญหาและอุปสรรคทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องตั้งเข็มมุ่ง กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และเพียรพยายามเดินไปสู่จุดนั้น อย่าว่อกแว่ก อย่างหวั่นไหว ขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศไม่ต้องหวั่นไหวสับสน ตั้งหลักพร้อมกันทั้งประเทศว่า เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่วาระของการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไปหักหาญน้ำใจเพื่อนพรรคร่วมฯบ่อยๆ อาจจะเกิดการพลิกขั้วเสียก่อนในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุเทพ กล่าวว่าท่านนายกฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตระหนักในคุณค่าของความเป็นมิตรไมตรี และน้ำใจของเพื่อนเสมอ ไม่ได้กระทำอไรที่เป็นการหักหาญน้ำใจ เพียงแต่อาจจะไม่สอดคล้องกันในทุกเรื่อง แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะกรณีนี้ เพื่อนๆ ก็คงจะเข้าใจได้
**ปชป.ขอสภาผ่านกม.ลูก 3 วาระรวด
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมเสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับต่อสภาว่า หากเสนอมาเมื่อไรพรรคจะประสานให้วิปรัฐบาลนำเรื่องบรรจุวาระโดยเร็ว โดย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีแก้ 1 มาตรา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แก้ 7 มาตรา ซึ่งจะขอให้สภาพิจารณา 3 วาระรวด
ส่วน ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. แก้ 33 มาตรา ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมี.ค. ถึงสิ้นเดือนเม.ย. น่าจะพิจารณาทัน แต่ถ้าไม่ทันกกต.ก็สามารถออกประกาศใช้กับการเลือกตั้งได้ตามที่รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติ
อย่างไรก็ดี ขอให้ ส.ส.และวุฒิสภา และสังคมสนับสนุนให้ความร่วมมือด้วย เพราะจะได้มีการเลือกตั้ง เพื่อเป็นทางออกของความอึมครึมจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆในวันนี้
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าจะมีการยุบสภาสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.นั้น ถือว่า ไม่ช้าไม่เร็วไปนัก โดยมีเวลาราว 2 เดือน ให้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อแผ่นดินพร้อมเสมอ
อย่างไรก็ตามในส่วนของการแก้ไข กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ ถ้ายังไม่เรียบร้อย ในเรื่องรายละเอียดต่างๆ ของการเลือกตั้ง ถ้าไม่กำหนดไว้ให้ชัดเจน ก็จะทำให้การเลือกตั้งผิดพลาด ถ้ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีในภายหลัง กกต.ก็อาจจะเหนื่อยได้ จึงอยากให้ กกต. และฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำกฎหมายนี้ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งหากประกาศยุบสภาภายในสัปดาห์แรก กฎหมายไม่น่าจะเสร็จทัน แต่ถ้าให้เป็นยุบสภาภายในเดือนพ.ค. ก็จะไม่เป็นการบีบรัดทุกฝ่ายมากเกินไปหรือจะทอดเวลาออกไปเป็นเดือนมิ.ย. ก็สุดแล้วแต่
นายชายชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการรวมพรรคเพื่อแผ่นดิน กับพรรครวมชาติพัฒนาของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ว่า แกนนำของทั้ง 2 พรรคมีการหารือกัน แต่การเจรจายังไม่ตกผลึก คาดว่าอีก 1 เดือนจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
** เดินหน้าสู่วาระการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าจะอธิบายการเร่งประกาศยุบสภาครั้งนี้มันแตกต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้อย่างไร เพราะบางฝ่ายก็ยังมองว่ากลุ่มการเมือง ก็ยังคงเคลื่อนไหว ความสงบในบ้านเมืองก็ยังไม่มี สำเร็จแค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นักการเมืองเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเราได้กำหนดวันยุบสภาให้ชัดเจน ทุกคนก็จะได้ปรับตัวได้ การประกาศกำหนดจะยุบสภาในต้นเดือนพ.ค.เป็นการประกาศวาระของการเลือกตั้ง พรรคการเมืองทั้งหลายก็สมควรที่จะไปเตรียมตัวหาผู้สมัคร และจัดทำนโยบายที่จะเสนอต่อประชาชน เตรียมรณรงค์เดินสายอธิบายให้ประชาชนฟังถึงนโยบายที่จะแก้ปัญหาเพื่อให้ประชาชนศึกษา จะได้ตัดสินใจเลือกตั้งได้ ประชาชนก็จะได้มีเวลาติดตามว่าพรรคการเมืองต่างๆ เขาเสนอนโยบายอะไร
นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างนี้ ก็จะได้หยุดการเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายกันเสียที ไปแข่งขันกันในวาระการเลือกตั้ง จะแพ้หรือชนะก็ให้ประชาชนตัดสิน หลังเลือกตั้งมาแล้ว พรรคไหนมีคะแนนเสียง หรือรวบรวมเสียงได้มาก ก็ไปจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ เราก็จะเดินหน้าได้ ไม่ต้องสะดุด
ส่วนที่ว่าทำไมไม่เลือกตั้งกันเสียตั้งแต่เดือนธ.ค. 53 หรือ ม.ค. 54 เพราะตอนนั้นมันไม่พร้อม เพราะเรามีแนวความคิดที่ต้องปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเพื่อให้เอื้อต่อการเริ่มต้นใหม่ หลักเกณฑ์เรื่องวันแมนวันโหวต เป็นเสียงเรียกร้องของฝ่ายต่างๆ และต้องให้เวลา กกต. เตรียมการระเบียบที่ต้องทำ ระหว่างความจำเป็นที่ต้องใช้เวลา กับความจำเป็นที่จะต้องให้คำตอบกับประเทศ นายกฯได้คิดถึงจุดสมดุลที่เหมาะสมแล้ว คือต้นเดือน พ.ค.
เมื่อถามว่า จากความไม่พอใจของพรรคร่วมรัฐบาล ยังมั่นใจจะทำให้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ จะผ่านสภา 3 วาระรวด ทันประกาศใช้ในปลายเดือนเม.ย.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเดินสายทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อเราตกลงว่าจะเดินหน้าเข้าสู่วาระการเลือกตั้ง เราก็ต้องมาร่วมมือกันสร้างเครื่องมือเพื่อให้กกต. ทำงานได้
** มั่นใจไม่มีพลิกขั้วช่วงศึกซักฟอก
เมื่อถามว่ายังมั่นใจว่าจะทำความเข้าใจกับพรรคร่วมฯ ได้ ที่ต้องไปลงเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่เต็มใจ โดยไม่กระทบต่อสัมพันธ์ในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่าทุกทีที่มีกรณีที่ต้องตัดสินใจใหม่ๆ สื่อมวลชนก็ต้องมาถามว่า ตนจะแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร ตนเคยเรียนมาตอลดเวลาว่า ตนเชื่อในความมีเหตุมีผลของแต่ละพรรคการเมือง ตนก็แก้ไขคลี่คลายปัญหาต่างๆ ร่วมกับเพื่อนๆในพรรคการเมืองต่างๆ มาได้ดีตลอด คราวนี้เราก็ต้องปรึกษา พูดคุย ชี้แจงอธิบายเหตุผล และเชื่อว่าเราก็จะผ่านกรณีนี้ไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจหรือไม่ว่ากระบวนการจะเดินไปสู่การเลือกตั้งได้แน่นอน จะไม่มีอุบัติเหตุอะไร ระหว่างศึกการซักฟอกรัฐบาลเกิดขึ้นก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ชีวิตมันมีปัญหาและอุปสรรคทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องตั้งเข็มมุ่ง กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และเพียรพยายามเดินไปสู่จุดนั้น อย่าว่อกแว่ก อย่างหวั่นไหว ขณะนี้ประชาชนทั้งประเทศไม่ต้องหวั่นไหวสับสน ตั้งหลักพร้อมกันทั้งประเทศว่า เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่วาระของการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไปหักหาญน้ำใจเพื่อนพรรคร่วมฯบ่อยๆ อาจจะเกิดการพลิกขั้วเสียก่อนในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุเทพ กล่าวว่าท่านนายกฯ หรือพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตระหนักในคุณค่าของความเป็นมิตรไมตรี และน้ำใจของเพื่อนเสมอ ไม่ได้กระทำอไรที่เป็นการหักหาญน้ำใจ เพียงแต่อาจจะไม่สอดคล้องกันในทุกเรื่อง แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะกรณีนี้ เพื่อนๆ ก็คงจะเข้าใจได้
**ปชป.ขอสภาผ่านกม.ลูก 3 วาระรวด
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมเสนอ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับต่อสภาว่า หากเสนอมาเมื่อไรพรรคจะประสานให้วิปรัฐบาลนำเรื่องบรรจุวาระโดยเร็ว โดย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีแก้ 1 มาตรา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แก้ 7 มาตรา ซึ่งจะขอให้สภาพิจารณา 3 วาระรวด
ส่วน ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. แก้ 33 มาตรา ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมี.ค. ถึงสิ้นเดือนเม.ย. น่าจะพิจารณาทัน แต่ถ้าไม่ทันกกต.ก็สามารถออกประกาศใช้กับการเลือกตั้งได้ตามที่รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติ
อย่างไรก็ดี ขอให้ ส.ส.และวุฒิสภา และสังคมสนับสนุนให้ความร่วมมือด้วย เพราะจะได้มีการเลือกตั้ง เพื่อเป็นทางออกของความอึมครึมจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆในวันนี้
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าจะมีการยุบสภาสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.นั้น ถือว่า ไม่ช้าไม่เร็วไปนัก โดยมีเวลาราว 2 เดือน ให้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อแผ่นดินพร้อมเสมอ
อย่างไรก็ตามในส่วนของการแก้ไข กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ ถ้ายังไม่เรียบร้อย ในเรื่องรายละเอียดต่างๆ ของการเลือกตั้ง ถ้าไม่กำหนดไว้ให้ชัดเจน ก็จะทำให้การเลือกตั้งผิดพลาด ถ้ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีในภายหลัง กกต.ก็อาจจะเหนื่อยได้ จึงอยากให้ กกต. และฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำกฎหมายนี้ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งหากประกาศยุบสภาภายในสัปดาห์แรก กฎหมายไม่น่าจะเสร็จทัน แต่ถ้าให้เป็นยุบสภาภายในเดือนพ.ค. ก็จะไม่เป็นการบีบรัดทุกฝ่ายมากเกินไปหรือจะทอดเวลาออกไปเป็นเดือนมิ.ย. ก็สุดแล้วแต่
นายชายชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการรวมพรรคเพื่อแผ่นดิน กับพรรครวมชาติพัฒนาของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ว่า แกนนำของทั้ง 2 พรรคมีการหารือกัน แต่การเจรจายังไม่ตกผลึก คาดว่าอีก 1 เดือนจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้
