xs
xsm
sm
md
lg

“จำลอง”สับแผนขั้น4สั่งตำรวจรุกคืบ นัดระดมพธม.15 มี.ค.นี้ ลั่นแตกหัก-ไล่รบ.มาร์ค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พันธมิตรฯ นัดระดมพล หลังรัฐบาลสั่ง ตร.สลายการชุมนุม ชี้ขอพื้นที่จัดงานกาชาดแค่ข้ออ้าง ด้าน “ปฐมพงษ์” ลั่น 15 มี.ค.ถือเป็นวันแตกหัก ฝากความหวังพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลตอแหล เอาอธิปไตยไทยกลับคืน ศอ.รส.แจ้ง “มหาดไทย” จับ พธม.ลักใช้น้ำไฟ “พล.ต.จำลอง” สับ รบ.สั่งตำรวจรุกคืบ แผนขั้นที่ 4 แกล้ง ปชช. หวังยุติการชุมนุม

วานนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า รัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากลั่นแกล้งและยุติการชุมนุมของพวกเรา ซึ่งขณะนี้ได้ทำไปแล้ว 4 ขั้นด้วยกัน ตั้งการเปิดพื้นที่ ถ.ราชดำเนินหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ทำให้มีรถสัญจรไปมาโดยไม่มีการตรวจอาวุธ ซึ่งสร้างความไม่ปลอดภัยต่อผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ที่เคยรักษาความปลอดภัยในช่วงแรก ตอนนี้ก็หายไปจนเกือบหมด ต่อมารัฐบาลก็ยึดพื้นที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อกดดันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าออกจากพื้นที่ได้ง่าย หลังจากนั้นก็ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศกิจของ กทม.เข้ามาพยายามรื้อถอนห้องสุขาจำนวน 48 ห้องริมรั้วกระทรวงศึกษาธิการอย่างไรก็ตามตนคาดว่าทางตำรวจและ กทม.จะเร่งดำเนินการอีกครั้งเร็วนี้

ทั้งนี้ขั้นที่ 4 นั้นทางตำรวจจะมาพบตนเพื่อแจ้งขอเปิดการจราจรบน ถ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่การชุมนุมของกองทัพธรรม ซึ่งตนเห็นว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม เพราะพื้นที่แคบ และตำรวจก็ไม่ได้มายืนรักษาความปลอดภัยให้แก่เราเชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีมาตรการขั้นต่อๆไป เพื่อทำให้เราสลายการชุมนุมในที่สุด ส่วนเหตุผลเรื่องงานกาชาด ก็เป็นเพียงเรื่องที่ยกขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งเรา เพราะคราวก่อนเมื่อปี 51 ที่เราชุมนุมกันอยู่ ก็จัดงานมาถึงเพียงแค่แยกมิสกวันเท่านั้น ไม่ได้กระทบกันแต่อย่างใด

“เราเห็นว่ากิจกรรมกาชาดเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องรุกเข้ามาถึงพื้นที่การชุมนุม เหตุผลเรื่องการจัดการจราจรก็สามารถอ้างได้ ซึ่งสิ่งใดที่สามารถนำมากลั่นแกล้งเราได้ เขาก็จะหยิบขึ้นมาใช้ตลอดเวลา” พล.ต.จำลอง กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกลับกระเหือนกระหือรือพยายามกดดันผู้ชุมนุม มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั่วประเทศ ซึ่งตนทราบมาว่าวันนี้ก็มีการระดมทั้งตรวจและรถคุมขังผู้ต้องหามาจาก จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นเปลืองงบประมาณมากมายเช่นนี้

“เมื่อข้ออ้างเรื่องจราจรไม่สามารถลบล้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ เมื่อประชาชนไม่ได้ทำผิดอะไร และรัฐบาลกลับพยายามกดดันคุกคาม กดขี่ข่มเหงต่อประชาชนอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดบันดาลโทสะตอบโต้รัฐบาลได้ เพราะความอดทนของทุกคนมีขีดจำกัด และมีสิทธิในการตอบโต้ป้องกันตัวตามกฎหมาย ซึ่งเราอาจทำให้ไม่สามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้” นายประพันธ์ กล่าว

**ยื่นขีดเส้น 15 มี.ค.ขอคืนพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.50 น. พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบและยื่นหนังสือแจ้งต่อ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อขอคืนพื้นที่การชุมนุมบน ถ.พิษณุโลก และ ถ.ราชดำเนิน ตามที่ได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยให้เหตุผลว่า ในวันที่ 30 มี.ค.เป็นต้นไป จะมีการจัดงานกาชาดประจำปี และมีการตั้งเต้นท์ออกร้านบน ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่บริเวณลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 จนถึงแยกมิสกวัน จึงจำเป็นต้องขอให้เปิดการจราจรในพื้นที่การชุมนุม เพื่อจัดการจราจรอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะเข้าร่วมงาน

**พธม.เชื่อ รบ.อ้างกาชาดแกล้ง

พล.ต.จำลอง ได้กล่าวปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่ชุมนุม พร้อมระบุว่า ขอยืนยันว่าการชุมนุมไม่ได้ทำให้งานกาชาดเสียหาย เพราะเจ้าหน้าที่สามารถใช้เส้นทางที่เหลือเพื่อจัดการจราจรได้ อีกทั้งการออกร้านของงานกาชาดก็สิ้นสุดเพียงแยกมิสกวัน ไม่ต้องเข้ามาถึงพื้นที่การชุมนุม โดยการออกร้านงานกาชาดก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่เราถือว่าเรื่องดินแดนอธิปไตยของชาติก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน หากให้มีการเปิดพื้นที่จราจรก็จะเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุม ทั้งในส่วนของอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่สัญจรไปมา และผู้ไม่หวังดี เนื่องจากตำรวจไม่สามาถตรวจอาวุธได้ทุกครั้ง ทั้งนี้ตนทราบดีว่ารัฐบาลต้องการกลั่นแกล้งผู้ชุมนุมอย่างมีแผนการเป็นขั้นตอน โดยใช้อำนาจบังคับข้าราชการประจำ ซึ่งเรารู้ดี และเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม หากต้องดำเนินการใดๆก็ไม่ต้องเกรงใจกัน ไม่มีเรื่องขัดแย้งกัน
ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อต้องการสลายการชุมนุมเท่านั้น ซึ่งถือว่ารัฐบาลได้เป่านกหวีดแล้ว ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมเมื่อไหร่ ขอให้พันธมิตรฯหน้าจอ ระดมกันออกมาที่ชุมนุมแห่งนี้โดยด่วน

“ต่างคนต่างทำหน้าที่ ทางตำรวจก็นำหนังสือมาแจ้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราก็ไม่ได้ขัดขวาง แต่ได้ขอร้องไว้เนื่องจากห่วงความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ซึ่งก็แล้วแต่ทางตำรวจจะพิจารณา เพราะสามารถจับเราได้ตลอดเวลาตั้งวันที่ 25 ม.ค.เป็นต้นมา โดยเราได้ตัดสินใจแล้วว่าถูกจับดีกว่าเสียดินแดน” พล.ต.จำลอง กล่าว

15 มี.ค.นัดระดมพล

พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลมีแนวคิดขับไล่การชุมนุม พันธมิตรฯก็ขอประกาศขับไล่รัฐบาล โดยไม่เหลือซากความดีต่อกันอีกต่อไป ขอฝากความหวังให้การชุมนุมแห่งนี้ ช่วยกันขับไล่รัฐบาล และสรรหารัฐบาลชุดใหม่ ที่จะออกมาทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทยที่เสียไปแล้ว วันที่ 15 มี.ค.จึงถือเป็นวันแตกหัก เพื่อขับไล่พวกตอแหล สร้างภาพไปให้พ้นเสียที

นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชาการอิสระ ยกคำกล่าวของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีรัฐบาลสั่งให้ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมก่อนวันที่ 15 มี.ค.นี้ ว่า “กู ไม่กลัวมึง” การชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือเป็นมวลชนปฏิบัติการผู้รักชาติ จึงขอเรียกร้องให้พลังมวลชนที่รักชาติ ทั้งในต่างประเทศ ต้องลุกฮือต่อต้านรัฐบาล ที่ลุแก่อำนาจ ขลาดเขลา กล้าแต่กับคนดี ขี้ขลาดกับพวกอันธพาล” รัฐบาลนี้นอกจากจะไม่เข้าประชาธิปไตยแล้วยังไม่เข้าใจรัฐธรรมนูญ หากปล่อยให้บริหารต่อไป มีแต่จะทำลายชาติ มัวแต่ปรองดองกับพวกหางแดง และจับมือกับทหารบางกลุ่มเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนเพื่อขอทุนคืน” นายปราโมทย์ กล่าวและเตือน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ว่า กำลังหลงผิด เห็นสุนัขเป็นเทวดา แนะกลับไปศึกษารัฐธรรมนูญก่อนจะใช้อำนาจมาขับไล่การชุมนุมที่สันติ และอสิงหา

ขณะที่ พล.ต.ต.กรีรินทร์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังการเจรจาว่า เหตุผลความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่บริเวณนี้ เพื่อจัดเตรียมงานกาชาดที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย. ให้พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานมีความสะดวก เพราะงานกาชาดถือว่ามีความสำคัญ จึงต้องขอความกรุณาจากผู้ชุมนุม ตนเห็นว่า พล.ต.จำลอง เป็นผ็ใหญ่ที่เห็นความสำคัญในการมาประสานงาน จึงขอให้ทั้งแกนนำและผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือ โดยยืนยันว่าตำรวจกับผู้ชุมนุมมิได้เป็นศัตรูกัน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาดูแลความเรียบร้อยเป็นเวลากว่า 45 วัน ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงถึงเลือกตกยางออกแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าทาง ศอ.รส.มีกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการหรือไม่ รอง ผบช.น.กล่าวว่า เนื่องจากงานกาชาดจะเริ่มในวันที่ 30 มี.ค. โดยร้านค้าต่างต้องเริ่มก่อสร้าง ดังนั้นควรจะมีพื้นที่รองรับการจัดงานได้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.เป็นต้นไป จึงขอความกรุณาผู้ชุมนุมให้ช่วยเปิดการจราจรทั้ง ถ.พิษณุโลก และ ถ.ราชดำเนิน ซึ่งอาจจะเป็นบางส่วนโดยที่จะมีเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยให้ตลอดเวลา หรือหากจะให้ดีก็ควรที่จะเปิดพื้นที่ได้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผู้ชุมนุมไม่ได้ให้ความร่วมมือ ทางตำรวจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการต่อไปอย่างไร พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ก็จะมีขั้นตอนดำเนินการต่อไป โดยที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง

**แจ้งมหาดไทยจับ พธม.ลักใช้น้ำไฟ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ศอ.รส. แถลงผลการประชุม ศอ.รส. ว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบในกรณีที่มีผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ลักลอบต่อกระแสไฟฟ้าจากสายไฟบริเวณ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อนำไปใช้ในการชุมนุม รวมทั้งยังมีการลักลอบใช้น้ำประปา ดังนั้นจึงอยากให้ทางการไฟฟ้านครหลวงและการประปานครหลวง ดำเนินการตรวจสอบและร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐาน ลักทรัพย์ของราชการ ซึ่งในกรณีที่มีการลักลอบใช้น้ำประปาและไฟฟ้าในที่ชุมนุมต้องดูว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบการชุมนุม ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็อาจจะมีการออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าว หากไม่มารายงานตัวก็ต้องออกหมายจับ

ส่วนการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรเพื่อขอเปิดถนน ซึ่ง พล.ต.จำลอง ได้รับข้อเสนอ แต่ต้องนำเข้าหารือกับคณะกรรมการอีกครั้งว่าจะยินยอมให้เปิดพื้นที่การชุมนุมหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอดูผลการประชุมดังกล่าว แต่ทาง ศอ.รส. เชื่อว่า การที่รับข้อเสนอในการเปิดพื้นที่เพื่อพิจารณาทั้งที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธไม่ยอมเปิดพื้นที่ จึงเชื่อว่าจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้ อยากให้พธม. พิจารณาถึงส่วนร่วม เนื่องจากงานกาชาดเป็นงานของส่วนรวมและทำเพื่อผู้ด้อยโอกาส จึงอยากให้กลุ่มพธม.ตัดสินใจคืนพื้นที่

**ยอมรับตำรวจจ้องสลายม็อบ

เมื่อถามว่า หากการเจราจาไม่เป็นผล จะมีมาตรการอย่างไรต่อไป พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ทางตำรวจเจรจามาอย่างต่อเนื่องและมีมาตรการที่จะดำเนินการต่อไปอยู่แล้ว ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชุมนุมมีจำนวนไม่มาก เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่ใช้โอกาสนี้สลายการชุมนุมนั้น ขอยืนยันว่าเรามีแนวคิดดังกล่าว แต่ต้องรอจังหวะ รวมทั้งตำรวจเองมีความกังวลในเรื่องของความรุนแรงที่จะตามมาหากสลายการชุมนุม หากผู้ชุมนุมขัดขืนและเจ้าหน้าที่ตอบโต้ ผู้ชุมนุมเองอาจได้รับบาดเจ็บและเกิดความวุ่นวายตามมา ที่ตำรวจยอมเพื่อไม่ให้เกิดความกระทบกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้การเจรจาก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในการเข้าขอคืนพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ถูกผู้ชุมนุมยิงหนังสติ๊ก ไม้แหลมทำร้ายร่างกาย แต่เราก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย

**ขู่ค้านประกันตัวใครบุกบ้านนายกฯ

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางไปบริเวณหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำกลุ่มพธม.พร้อมพวกรวม 6 คน ได้เดินทางไปรับประทานอาหารในโรงแรมหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี หากผู้ชุมนุมเข้าไปโดยสันติ และไม่สร้างความเดือดร้อน ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ถ้าบุกรุกเข้าไปเพื่อสร้างความวุ่นวายจะมีความผิดตามมาตรา24 ของพ.ร.บ.ความมั่นคง ที่มีโทษ จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่มีแกนนำที่ได้รับประกันตัวและพาผู้ชุมนุมสร้างความวุ่นวายบริเวณดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะมาดูว่าพฤติกรรมดังกล่าวขัดกับเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ ถ้ามีการกระทำที่ขัดกับเงื่อนไขการประกันตัวก็ยืนเรื่องเพื่อถอนการประกันตัวต่อไป

**“มาร์ค” อ้างอย่าสร้างความวุ่นวายเพิ่ม

รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มสมัชชาฯ จะเดินทางไปที่บ้านพักว่า จะไปทำไมครับ เวลาที่ไปตนเองก็อยู่ที่รัฐสภา บ้าง ทำเนียบรัฐบาลบ้าง และอยากบอกว่าไม่ได้ไปมีการปิดถนนอะไรเลย ตนคิดว่าท่านต้องการให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายเพราะอะไร ต้องถามท่าน เพราะตนเองไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีรู้สึกหรือไม่ว่าสิทธิความเป็น มนุษย์กำลังถูกคุกคาม พร้อมๆ กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ได้มาหรือ ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองถูกละเมิดสิทธิ์มาหลายครั้ง แต่ว่านั่นไม่สำคัญเท่ากับประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอยซึ่งไม่มีความ เกี่ยวข้องถูกละเมิดสิทธิ์ วิธีการที่พยายามไปสร้างความเดือนร้อน ให้กับประชาชนที่อยู่ในซอยเพื่ออะไร ตรงนี้ตนอยากจะย้ำว่าจริงๆ แล้วการชุมนุมที่เกิดขึ้นบริเวณรอบทำเนียบนั้นเป็นการละเมิดสิทธิ ของประชาชนที่สัญจรไปมา เราพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยความอลุ่มอะล่วย และหาความพอดีเพื่อที่จะให้ชุมนุมได้ แต่ทำไมจะต้องมาสร้างความเดือนร้อน ให้กับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น